แดงเด่นเป็นสง่า เมื่อนึกถึงรถสีแดง ต้องมีแบรนด์เหล่านี้บนถนน
ย่างเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ก็มักจะทำให้นึกถึงอะไรสีแดงๆ สำหรับ สีแดงนั้น เป็นสีมงคลของชาวจีน หมายถึงความสุข ความโชคดี การมีอายุยืนยาว ในทางยานยนต์เอง "รถยนต์สีแดง" ถึงแม้จะดูโดดเด่นบนท้องถนนก็จริง แต่เมื่อนำไปขายต่อ ราคามักตก ซึ่งบางคนมองว่าเป็นสีที่ฉูดฉาดร้อนแรง ไม่นิยมเหมือนสีขาว เอาเข้าจริงแล้วรถยนต์สีแดงนั้น นำไปแต่งสวยใช่เล่นเลยทีเดียว และเมื่อนึกถึงรถยนต์สีแดงแล้ว ก็จะต้องมีแบรนด์เหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวเสมอ หรือมองไปบนถนนก็มักจะเจอแบรนด์เหล่านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
FERRARI
ทำไม Ferrari ต้องเป็นรถยนต์สีแดงสด เฟอร์รารี่เป็นบริษัทผลิตรถสปอร์ตจากเมืองมาราเนลโล ประเทศอิตาลี ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1939 มีเอ็นโซ เฟอร์รารี่เป็นผู้ก่อตั้ง เมื่อก่อนนั้น Ferrari มีต้นกำเนิดมาจากการเป็นทีมแข่งรถของ Alfa Romeo โดยใช้ชื่อว่า Scuderia Ferrari (สคูเดอเรีย เฟอร์รารี่) ซึ่งสีประจำทีมรถแข่งจากอิตาลี คือ สีแดง หรือที่เรียกว่า Rosso Corsa ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Racing Red นั่นเอง ซึ่งในตอนที่เอ็นโซทำงานอยู่กับอัลฟาโรเมโอนั้น ก็เป็นทั้งวิศวกรและนักแข่งรถด้วย จนมาในปี ค.ศ. 1947 รถยนต์ในนามของเฟอร์รารี่รุ่นแรกจึงถือกำเนิดขึ้น คือรุ่น 125 เอส เฟอร์รารี่ได้เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชื่อดังที่ประสบความสำเร็จ และมีการจำหน่ายไปทั่วโลก มีสีที่เป็นเอกลักษณ์ คือสีแดง (Rosso Corsa) ซึ่งเป็นของรถแข่งอิตาลี เฟอร์รารี่ ถือเป็นค่ายรถที่ประสบความสำเร็จในกีฬาฟอร์มูล่าวัน
HONDA
อีกคันที่โดดเด่นบนถนนคงไม่พ้น Honda Civic ใหม่ ที่มาพ้อมกับกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟท้าย LED รมดำ เทคโนโลยีอำนวยความสะดวก Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด เปิดจองตั้งแต่วันนี้ – 22 ส.ค.67 จำหน่ายอย่างเป็นทางการ 23 ส.ค.67 ปีที่ผ่านมา มาพร้อม 2 ทางเลือก ทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ผ่านการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมัน 25 กิโลเมตร/ลิตร วิ่งได้กว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมัน 1 ถัง และขุมพลังเทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที และอัตราการประหยัดน้ำมัน 17.2 กิโลเมตร/ลิตร กับสนนราคาตั้งแต่ เริ่มจาก รุ่น VTEC TURBO EL+ ราคา 1,039,000 บาท รุ่น e:HEV EL+ ราคา 1,099,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคา 1,239,000 บาท
MAZDA
แบรนด์เด่ดอีกแบรนด์บนถนน ไปที่ไหนใครก็เห็น สำหรับ มาสด้าที่เพิ่งประกาศแต่งตั้ง นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (President & CEO) บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ไปหมาดๆ กับรถยนต์คันสีแดงเด่น หลังจากประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วจนเกิดกระแส New Mazda2 ฟีเวอร์ ด้วยยอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และทางมาสด้าเริ่มส่งมอบรถใหม่ให้กับลูกค้าไปแล้วในเดือนมิถุนายนปี 2023 ต่อเนื่องด้วยการเปิดให้ลูกค้าได้สัมผัสรถคันจริงในทุกโชว์รูมทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนำรถเข้าโชว์ในงานแสดงรถยนต์ต่างๆ ส่งผลให้กระแสความร้อนแรงของ New Mazda2 ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ด้วยสมรรถถนะของเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกถึง 2 เครื่องยนต์ คือ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร (SKYACTIV-G) ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร (SKYACTIV-D) ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟไดรฟ์ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ที่ช่วยให้การขับขี่สนุก ราคาเริ่มต้น 599,000 - 730,000 บาท
MG
ค่ายรถยนต์สัญชาติจีนที่เข้ามาทำตลาดในประเทศเรา จนเรียกว่าได้ว่ามีรถยนต์เรือธงในหลายๆ รุ่นด้วยกัน ยอดขายก็ไม่ใช่น้อยๆ และเพิ่งแนะนำน้องเล็กรุ่นล่าสุดที่เรียกเสียงฮือฮาได้อย่าง ALL NEW MG3 HYBRID+ คว้ารางวัลอันทรงเกียรติ THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) สำหรับคันที่ยกมาเอ่ยถึงคือรถเอสยูวีพลังงานทางเลือกแบบลูกผสม MG HS PHEV ที่ดูจะคุ้มค่าคุ้มราคากับรถปลั๊กอินไฮบริดในราคาล้านต้นๆ สำหรับ MG HS PHEV สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% หรือ EV Mode ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร โดยเครื่องยนต์เป็นแบบเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 122 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ที่ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เพียง 0.2 วินาที โดยแบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-ion แบบ 6 โมดูล ขนาด 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งข้อดีของมันคือ ถ้าแบตเตอรี่มีปัญหา สามารถเปลี่ยนเป็นโมดูลได้ ไม่ต้องยกแบตเตอรี่เปลี่ยนทั้งลูก สำหรับ MG HS PHEV เปิดราคาในรุ่น D 1,299,000 บาทและรุ่น X ราคา 1,379,000 บาท
TOYOTA
Hilux Generation เกิดขึ้นจากการที่รถกระบะ HILUX ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน และครอบคลุมทุกการใช้งาน ด้วยยอดจำหน่ายรถกระบะของโตโยต้า มีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มรถกระบะ เน้นการใช้งานบรรทุกหนักจากรุ่น HILUX CHAMP ที่ได้เปิดตัวล่าสุดไปเมื่อปลายปี 2566 เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวัน อย่างรุ่น HILUX REVO GR-Sport กระบะ HILUX ได้รับความไว้วางใจและการขนานนามจากกลุ่มลูกค้ามาอย่างสม่ำเสมอว่าเป็น King of off-road ด้วยชื่อเสียงจากสมรรถนะอันเป็นเลิศของระบบการขับเคลื่อน 4x4 ประกอบกับเครื่องยนต์ที่มีพลกำลังและเทคโนโลยีในการขับขี่รอบด้าน มีความทนทาน สำหรับรถกระบะ Hilux Revo GR-Sport 4x4 ตัวล่าสุด ตอบโจทก์ลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยมที่ชอบการใช้งานกระบะสมรรถนะสูง เครื่องยนต์ 2.8 ปรับจูนใหม่ แรงขึ้น 10% กำลังสูงสุด 224 แรงม้า (165 กิโลวัตต์) แรงบิด 550 นิวตัน/เมตร โหมดสปอร์ตที่ปรับจูนมาเฉพาะรุ่น ราคาของ Double Cab 4x4 2.8 GR Sport AT รุ่นพื้นฐาน ราคา 1,479,000 บาท และ Double Cab 4x4 2.8 GR Sport AT 1,499,000 บาท
สำหรับเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ใครที่ได้อั่งเปาหนัก จะจัดรถสีแดงมาประดับบารมีไว้ใช้สักคันสองคัน เลือกได้ตามความชอบตั้งแต่รถยนต์คันเล็ก ไปจนถึงรถซุปเปอร์คาร์ก็ตามแต่ความสะดวกได้เลย
