มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย แต่งตั้งผู้บริหารใหม่เสริมทัพ

22 เม.ย. 67

Mitsubishi บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแต่งตั้ง นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ ขึ้นดำรงตำแหน่ง กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย ดูแลรับผิดชอบด้านการขายและบริการหลังการขาย รวมถึงสายงานการตลาด สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ พร้อมเสริมทัพด้วยสองผู้บริหารชาวญี่ปุ่น ได้แก่ มร. ทะอิจิ นาคาจิมะ ในตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขายและการตลาด และ นางสาว ริสึโคะ คาเนะโคะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ ได้สั่งสมประสบการณ์การทำงานมานาน ก่อนหน้านี้ ได้ดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขาย บริการหลังการขาย และการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย ตั้งแต่ปี 2564 และในปัจจุบัน ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย เพื่อดูแลรับผิดชอบด้านการขายและบริการหลังการขาย รวมถึงสายงานการตลาด 

นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ

มร. ทะอิจิ นาคาจิมะ ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขายและการตลาด เพื่อดูแลรับผิดชอบในด้านการปฏิบัติการขาย ฝ่ายบริหารการขาย ฝ่ายพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ และฝ่ายการศึกษาและฝึกอบรม ครอบคลุมสถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และศูนย์ฝึกอบรมของภูมิภาคอาเซียน โดย มร. นาคาจิมะ ได้เริ่มต้นทำงานกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ในปี 2541 ทางด้านกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ในภูมิภาคยุโรป ก่อนที่จะได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบในหลากหลายตลาดต่างประเทศ ได้แก่ รัสเซีย ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนากลยุทธ์การขาย และการดำเนินการด้านการตลาด

mr.taichina kajima

นางสาว ริสึโคะ คาเนะโคะ เริ่มต้นทำงานกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ตั้งแต่ปี 2540 ปัจจุบัน ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ เพื่อดูแลรับผิดชอบฝ่ายสื่อสารการตลาด ฝ่ายกลยุทธ์ดิจิทัล ฝ่ายบริหารลูกค้าสัมพันธ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รวมถึงฝ่ายบริการหลังการขาย ฝ่ายอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่ง และฝ่ายบริการข้อมูลเทคนิค

ms.ritsukoka neko

การเสริมทัพผู้บริหารในครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่ง และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทย รวมถึงระดับภูมิภาคและระดับโลก ทั้งนี้ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหัวใจสำคัญด้านยุทธศาสตร์ทั้งในเชิงธุรกิจและศูนย์กลางการผลิตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ที่ผ่านมาจึงได้มีการลงทุนสำคัญๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การลงทุนในสายการผลิตใหม่สำหรับออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ประกอบด้วยหุ่นยนต์อัจฉริยะมากกว่า 250 ตัว และการผลิตเครื่องยนต์ใหม่ “ไฮเปอร์พาวเวอร์” ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ในปี 2566 และ การลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อเปิดตัวโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ที่แหลมฉบัง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในปี 2565

นอกจากนี้ยังวางแผนการลงทุน ด้วยงบกว่า 500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาสายการผลิตที่โรงงานประกอบรถยนต์ ณ แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า xEV โดยเริ่มจาก เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ไปพร้อมกับรถยนต์อีโคคาร์ที่ผลิตอยู่เดิม

advertisement

Powered by อมรินทร์ นิวส์ - ยานยนต์

ข่าวยอดนิยม