ไขข้อสงสัย ทำไมเวลาโดน "ละอองฝน" บนหัว โอกาสเป็นหวัด ง่ายกว่าตากฝน ทั้งๆ ที่สระผมเกือบทุกวัน หัวเปียกชุ่มฉ่ำยังไม่เห็นจะป่วยเลย
เคยสงสัยกันหรือไม่ ทำไมเวลาฝนตกเรามักจะเป็นหวัดได้ง่าย ขนาดโดนแค่ละอองบนหัว ยังมีโอกาสป่วยเป็นไข้หวัด ง่ายกว่าตากฝน หรือบางคนสระผมเกือบทุกวัน หัวเปียกชุ่มฉ่ำยังไม่เห็นจะป่วยเลย ซึ่งเรื่องนี้การที่เราไม่ได้มาจากน้ำฝนโดยตรง
แต่นั่นเป็นเพราะในน้ำฝนรวมถึงละอองฝนนั้นมีเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่มากับอากาศเจือปนอยู่ และแพร่กระจายเร็วมากในหน้าฝน มีเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเป็นร้อยชนิดที่ลอยอยู่ในอากาศ และเมื่อฝนใกล้ตก ลมจะพัดกระโชกแรง ไวรัสและแบคทีเรียเหล่านี้ก็จะเคลื่อนไหวเร็วขึ้นในลักษณะปลิวลอยอยู่ในอากาศ เม็ดฝนที่ตกลงมากระทบพื้น ทำให้เหล่าไวรัส แบคทีเรียบนพื้นฟุ้งกระจายขึ้นมา ร่างกายเราก็มีโอกาสรับไวรัสและแบคทีเรียพวกนี้ได้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเมื่อมาสัมผัสที่หัวและร่างกายของเราจะทำให้เชื้อไวรัสเล็ดลอดเข้าไปอยู่ในร่างกาย หรือมีโอกาสที่จะสูดเชื้อเข้าไปแล้วติดเชื้อได้มากกว่าปกติ
ถ้าหากเราเปียกฝนด้วยแล้ว อุณหภูมิในตัวเราหรือในโพรงจมูกเราที่เย็นลง ก็ยิ่งเหมาะกับการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส ช่วยให้เหล่าเชื้อโรคขยายพันธุ์ได้ดีขึ้น เราจึงมักเป็นหวัดได้ง่ายๆ ในช่วงฝนตก โดยเฉพาะในบางคนที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ ก็จะยิ่งทำให้ป่วยได้ง่ายกว่าปกติ
ดังนั้นถ้าตากฝนมาควรอาบน้ำ สระผม จึงเป็นเรื่องจำเป็น เพราะนอกจากจะช่วยทำความสะอาด ขจัดไวรัสที่เกาะอยู่บนตัวเราแล้ว ยังช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ หลังสระผมแล้วก็เป่าให้แห้งสนิท เพราะหากปล่อยผมเปียกชื้นนานๆ ก็จะทำให้เป็นหวัดได้อีกด้วย
