ไฟไหม้อาคารบริษัทตัวแทนขายแอร์ ด้านบนเป็นห้องเก็บแอร์เก่า และอุปกรณ์แอร์ทุกอย่าง เจ้าของและพนักงานช่วยกันขนแอร์บางส่วนลงมา และพยายามดับเพลิงแต่เอาไม่อยู่
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 30 มีนาคม 2567 พ.ต.ต.สุรชัย ศรีพิมพ์ลาม สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายสุมิตรแผนทัด นายกทต.นาดีเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ซึ่งเกิดขึ้นที่บริษัทอมรแอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องปรับอากาศมาเวล ตั้งอยู่เลขที่ 38/42 และ 38/43 (อาคารด้านหน้าบริษัท) กับ3 8/72 และ 38/73 (อาคารด้านหลังบริษัท) มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 4 คูหาติดกันหน้าหลัง โดยส่วนที่เกิดเหตุเป็นบริเวณชั้นลอยฟ้า ที่มีการต่อเติมเป็นห้องสำหรับใช้เก็บแอร์เก่า (รอซ่อม) และอุปกรณ์ทุกประเภทที่ใช้สำหรับเครื่องปรับอากาศ เช่น น้ำยาแอร์ และอื่น ๆ
ทั้งนี้เพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงจนต้องมีการประสานขอรถน้ำดับเพลิงและรถกระเช้า ทั้งจากเทศบาลตำบลนาดี อบจ.สมุทรสาคร ทต.บ้านเกาะ อบต.บางปลา ทม.คลองมะเดื่อ อบต.โคกขาม ทต.บางหญ้าแพรก อบต.ท่าทราย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง รวมกว่า 10 คันเข้ามาช่วยกันฉีดน้ำระงับเหตุ ซึ่งก็ต้องใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมงจึงจะสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้
ทั้งนี้จากการสอบถามคนงานที่เห็นเหตุการณ์เป็นรายแรก เล่าว่าตอนทราบเหตุเป็นช่วงที่ตนขึ้นไปยกแอร์ที่ชั้น 3 เพื่อที่จะนำไปส่งลูกค้าพอดี ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตะโกนว่าไฟไหม้ พร้อมกับชี้ขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าที่เป็นห้องเก็บแอร์เก่าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ตนจึงขึ้นไปดูก็เห็นไฟลุกไหม้ จึงได้รีบบอกเจ้าของบริษัทและเพื่อนพนักงานที่มีอยู่ประมาณ 6–7 คน จากนั้นก็ช่วยกันนำถังดับเพลิงเข้าฉีดแล้วแต่เอาไม่อยู่จึงได้ช่วยกันขนแอร์บางส่วนลงมาก่อนที่ไฟจะลุกลามจนทั่วทั้งห้อง
ขณะที่นายอมรรัตน์ ธีระอัญญาลักษณ์ เจ้าของบริษัทอมรแอร์ จำกัด บอกว่าห้องข้างบนที่เกิดเหตุเป็นส่วนต่อเติมที่ไว้ใช้เก็บแอร์เก่า และอุปกรณ์แอร์ทุกอย่าง โดยตอนเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ อีกทั้งห้องดังกล่าวก็เพิ่งจะทำเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ สายไฟทุกอย่างก็ยังใหม่อยู่จึงไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่ก็นับเป็นโชคดีที่ไม่มีคนงานได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด ส่วนมูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้คงต้องรอให้ไฟสงบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ให้ทางเจ้าของบริษัทฯ หรือผู้แทนไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมกันนี้ยังจะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการจากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไปแต่เบื้องต้นคาดอาจจะเป็นจากไฟฟ้าลัดวงจร
