ผบ.เรือนจำปากพนัง เผย กำลังใจผู้คุมยังดีอยู่ เตรียมจัดกิจกรรมสันทนาการคลายเครียด หาจิตแพทย์มาพูดคุยคลายความกังวล
จากกรณีเกิดเหตุการณ์ ผู้คุม เรือนจำอำเภอปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เกิดความเครียด จนตัดสินใจฆ่าตัวตาย ภายในเดือน ม.ค. 67 เดือนเดียวถึง 3 ราย
โดยรายแรก นายสิทธิชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้คุม เรือนจำอำเภอปากพนัง ซึ่งเครียดเรื่องปัญหาครอบครัว ตัดสินใจใช้สายไฟผูกคอเสียชีวิตขื่อในบ้านพักร้าง หลังเรือนจำ อ.ปากพนัง เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 67
รายที่ 2 นายยุทธภพ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ นกแล อายุ 38 ปี ผู้คุม เรือนจำอำเภอปากพนัง ที่ยิงตัวตาย เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 67 ที่แฟลตชั้น 4 เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช สาเหตุมาจากความเครียดที่ถูกย้าย จากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชไปเรือนจำ อ.ปากพนัง
และรายที่ 3 เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 67 นายภักดี (ขอสงวนนามสกุล) ผู้คุม เรือนจำอำเภอปากพนัง ยิงตัวตาย ทำให้เกิดการร่ำลือวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาว่า อาจจะเกิดอาถรรพณ์อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นใน เรือนจำ อ.ปากพนังนั้น
ล่าสุดวันที่ 30 ม.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง เรือนจำอำเภอปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พบว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ และผู้คุมยังคงทำงานตามปกติ
โดย นายสุรินทร์ จันทร์เทพ ผบ.เรือนจำอำเภอปากพนัง เปิดเผยว่า ตนเพิ่งย้ายมาอยู่เรือนจำแห่งนี้เมื่อเดือน พ.ย. 66 ก็มาเกิดเหตุผู้คุมฆ่าตัวตาย 3 รายซ้อน อาจจะทำให้ผู้คุมที่เหลือขวัญเสียบ้าง แต่กำลังใจของผู้คุมทุกคนยังดีอยู่
เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือว่าเกิดจากปัญหาส่วนตัว ไม่ได้เกิดจากหน้าที่การงานที่ทำอยู่แต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาผู้คุมคนไหนอยากจะย้ายไปดูแลพ่อแม่ และครอบครัว ตนก็อนุมัติให้ย้ายทุกคน ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด กรณีนายภักดีผู้เสียชีวิตรายล่าสุดก็ทำเรื่องย้ายกลับไปอยู่ เรือนจำอำเภอทุ่งสง ตนก็อนุมัติให้แล้ว เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติ ที่กรมราชทัณฑ์
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน เรือนจำอำเภอปากพนัง มีจำนวนผู้คุม จำนวน 50 คน ต้องทำงานดูแลนักโทษ จำนวน 900 กว่าคน ถือว่าเป็นงานหนักมากของผู้คุม ตั้งแต่เกิดเหตุผู้คุมยิงตัวตายรายที่ 2 ตนก็เคยทำบุญใหญ่ให้กับ เรือนจำอำเภอปากพนังมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็มาเกิดเหตุผู้คุมยิงตัวตายอีกเป็นรายที่ 3 ซึ่งอาจจะทำให้ผู้คุมที่เหลือขวัญเสียไปบ้าง แต่ทุกคนยังทำงานตามปกติ
อย่างไรก็ตามตนกำลังเตรียมจัดกิจกรรมสันทนาการ เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีและผ่อนคลายความเครียดของผู้คุมเรือนจำปากพนังได้บ้าง และกำลังเตรียมจัดหาแพทย์ด้านจิตแพทย์เข้ามาทำการตรวจดูแลด้านจิตใจของผู้คุมทุกคน เพื่อป้องกันไม่เกิดเหตุฆ่าตัวตายซ้ำขึ้นมา อีกตนขอให้กำลังใจผู้คุมทุกคนได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ต่อไป
