กรณี พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทำคดีการตายของ "แตงโม" ซึ่งมีข้อมูลเชื่อมโยงว่ามีบุคคลมีสีรอเรือสปีดโบ๊ตลำที่แตงโมนั่งโดยสารอยู่ ให้มีการจอดเทียบที่ท่าเรือแห่งหนึ่ง มีวัตถุประสงค์บางอย่าง และก่อนที่จะมีการงัดหลักฐานเป็นคลิปเสียง โดยยืนยันว่าโรงแรมที่มีการนัดหมายเจอกัน ได้มีการปิดโดยไม่มีกำหนดหลังจากที่เกิดเหตุขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีอึ้ง "สันธนะ" งัดคลิปโรงแรมดังปิดกะทันหันหลังแตงโมตาย ฟันธงฆ่าบนบก (คลิป)
วันที่ 24 มี.ค. 65 พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ตนได้มานั้น ได้มาตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุใหม่ ๆ ซึ่งเพิ่งแค่มาเปิดเผยตอนนี้ เพราะรอดูท่าทีของทางเจ้าที่ตำรวจว่าจะมุ่งประเด็นฆาตกรรมหรือไม่ อีกทั้งยังมีข้อมูลว่ามีผู้ใหญ่ระดับบิ๊กไปใช้บริการที่โรงแรมในวันที่เกิดเหตุ
ซึ่งโรงแรมหรูแห่งนั้นเป็นสถานที่ค่อนข้างที่จะส่วนตัว และรับลูกค้าเฉพาะกลุ่มระดับไฮเอน ไม่ใช่ลูกค้าธรรมดาจะ walk-in เข้าไปได้ เพราะมีความหรูหรา และส่วนตัวมาก สไตล์บูทีค ไม่ใช่โรงแรมทั่วไป ซึ่งในส่วนที่เจ้าของโรงแรมมีการอ้างว่าไม่รู้จักคนบนเรือ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือแม้แต่ข้ออ้างว่ามีการปิดตัวของโรงแรมในช่วง ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาซึ่งตอนนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริง แต่ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น แล้วกลุ่มลูกค้าก็เป็นแบบเฉพาะคนที่มีฐานะ ซึ่งมองว่าไม่น่าส่งผลกระทบจนทำให้ปิดตัวลงได้
ขณะเดียวกันข้อมูลของพนักงานในโรงแรมก็ยังมีการทำงานตามปกติ และมีการรับสายปกติ ซึ่งมองว่าถ้าปิดกิจการแล้ว ทำไมยังมีคนทำงานอยู่ ซึ่งข้อมูลตรงนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าในขณะนี้พยานหลักฐานอาจหายไปหมดแล้ว โดยหลังจากนี้จะตรวจสอบข้อมูลที่ตนมีเพิ่มเติม เพื่อดูว่าหลักฐานชิ้นไหนจะมีน้ำหนักและเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ก็จะนำเรียนไปมอบให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ ท่าเรือแห่งหนึ่งย่านพระราม 4 โดยมีการนำเรือสปีดโบ๊ตไปเทียบที่ท่าเรือ จากนั้นจะมีรถมาจอดรอรับเพื่อพาไปที่โรงแรมสุดหรู เชื่อมโยงว่ามีบุคคลที่อยู่บนเรือมีส่วนในการถือหุ้น แต่หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าว โรงแรมดังกล่าวได้มีการปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด
ทีมข่าวจึงได้ใช้ข้อมูลดังกล่าวตรวจสอบโรงแรมที่อยู่ในละแวกย่านพระราม 4 ในการตรวจสอบว่าโรงแรมใดที่มีการปิดให้บริการหลังวันที่ 24 ก.พ. โดยพบว่ามี 3 แห่ง เป็นโรงแรมโฮสพิเทลขนาดเล็ก 1 แห่ง ตั้งอยู่ย่านพระโขนง โรงแรมขนาดใหญ่ตึกสูงตั้งอยู่ย่านสาทร และโรงแรมบูทีค สไตล์เก็ตเฮาส์ ตั้งอยู่ย่านสุขุมวิท ตรวจสอบโรงแรมที่เป็นโรงแรมขนาดเล็กย่านพระโขนง และโรงแรมสูงย่านสาทร ปรากฏว่ายืนยันว่าไม่ได้มีการเปิดให้บริการในช่วงระหว่างที่เกิดเหตุตามที่ปรากฏเป็นข่าว แต่โรงแรมบูทิคอีกหนึ่งแห่งย่านสุขุมวิท มีการปิดให้บริการเพื่อปรับปรุง ในช่วงตามที่ถูกตั้งข้อสังเกตโดย พ.ต.ท.สันธนะ
ทีมข่าวเดินทางไปที่โรงแรมย่านสุขุมวิท โรงแรมขนาดเล็ก 3 ชั้น มีร้านจอดภายในตัวตึก ด้านนอกติดกับถนนทำเป็นร้านอาหาร แต่ในขณะที่ทีมข่าวเข้ามาสำรวจในวันนี้ มีการปิดรั้ว ทั้งร้านอาหารและส่วนของโรงแรม แต่ด้านในยังคงมีรถจอดอยู่ ซึ่งคาดว่าเป็นรถของพนักงาน แต่ไม่ได้มีการขึ้นป้ายว่ามีการปิดให้บริการหรือปิดปรับปรุงแต่อย่างใด
ทีมข่าวได้พูดคุยกับพนักงานที่อยู่ภายในโรงแรม ให้ข้อมูลว่า โรงแรมแห่งนี้คาดว่าอยู่ในช่วงปิด อยู่ในช่วงของการปิดปรับปรุง แต่ไม่ทราบวันเวลาที่มีการปิด ยังไม่ทราบกำหนดการเปิด ส่วนรายละเอียดอื่นก็ยังไม่สามารถตอบได้มาก เพราะเป็นเพียงแค่พนักงานที่ถูกจ้างเค้ามาทำงานชั่วคราว
นอกจากนี้ กลุ่มชาวบ้านที่อยู่บริเวณปากซอยทางเข้าของโรงแรมย่านสุขุมวิท ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้พนักงานของโรงแรมและรวมถึงแม่บ้านยังคงเดินทางมาใช้บริการซื้อกับข้าวที่ปากซอย แต่ในช่วงระยะหลังเห็นเก็บตัวเงียบ ะไม่ได้ออกมาเหมือนเช่นเคย ซึ่งคาดว่าอาจอยู่ในช่วงของการปิดปรับปรุง ช่วงที่โควิด-19 ระบาด และเท่าที่ไม่เห็นความเคลื่อนไหวก็นานกว่า 1 ปี
สำหรับโรงแรมดังกล่าวไม่ได้มีลักษณะเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีการให้บริการหลัก 10,000 บาท และคนที่เข้าไปใช้บริการส่วนใหญ่ก็ไม่มีการใช้รถสาธารณะ จะมีรถส่วนตัวหรือคนขับรถเข้าไป เพราะเป็นลักษณะโรงแรมที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวและเงียบสงบ ส่วนเรื่องของการจัดงานสังสรรค์หรือการนัดรวมตัวกันภายในดังกล่าว ก็ค่อนข้างมีน้อย เพราะคนที่มาอยู่อาศัยส่วนใหญ่ก็เน้นความสงบ ในเรื่องของหุ้นส่วนหรือบุคคลที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ต ก็ไม่ทราบว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงแรมนี้หรือไม่ เพราะโดยปกติจะรู้จักเฉพาะเจ้าของคือหม่อมฯ แต่หุ้นส่วนอื่นในฐานะชาวบ้านไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว และไม่รู้ว่าจะมีคนบนเรือเกี่ยวข้องหรือไม่
ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่ท่าเรือคลองเตย เป็นท่าเรือที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง หากจะมีการเทียบเรือสปีดโบ๊ต หรือเรือเพื่อขึ้นฝั่งไปที่โรงแรมย่านสุขุมวิท ตามพิกัดของ พ.ต.ท.สันธนะ จะต้องมีการใช้ท่าเรือคลองเตยเท่านั้น เพราะเนื่องจากมีการเปิดให้บริการเกินกว่าเวลา 21.00 น. ส่วนท่าเรืออื่นมีการปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 20.00 น.
นายทวีสิทธิ์ อุ่นสกุลสุข เจ้าของท่าเรือเอกชนคลองเตย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พ.ต.ท.สันธนะ ออกมาให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโรงแรมที่คาดการณ์ว่ามีการนัดหมายให้บุคคลบนเรือมานัดพบกันที่โรงแรมย่านสุขุมวิทนั้น หากเป็นไปตามข้อมูลดังกล่าว การนำเรือมาเทียบท่า เพื่อที่จะไปที่โรงแรมย่านสุขุมวิทนั้นต้องใช้ท่าเรือคลองเตย ซึ่งเป็นท่าเรือเอกชนเท่านั้น
ในวันที่ 24 ก.พ. ตนเองก็อยู่ประจำท่าเรือตั้งแต่เช้าจนกระทั่งถึงดึก ยืนยันว่าไม่มีเรือสปีดโบ๊ตของเอกชน หรือของกลุ่มคนนอกมาติดต่อขอขึ้นเรือ ยกเว้นวันอื่นก่อนหน้านั้นอาจมีเรือสปีดโบ๊ตของฝรั่งที่มาขอเทียบเรือเพื่อขึ้น แต่ไม่มีเรือสปีดโบ๊ตลำสีขาวน้ำเงินที่มีนายปอเป็นคนขับมาติดต่อขอเทียบเรือแต่อย่างใด ที่สำคัญการที่จะนำสปีดโบ๊ตมาเทียบหรือมาจอดที่ท่าเรือคลองเตย จะต้องมีคนขับรถมาจอดรอรับ จะต้องมาประสานที่โป๊ะเรือก่อนที่จะเทียบ แต่ในคืนนั้นยืนยันว่าไม่มีคนมาจอดรอรถรับส่ง และไม่มีคนมาประสาน
ส่วนตัวในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการท่าเรือบริเวณย่านคลองเตย ตั้งข้อสังเกตว่าหากเรือสปีดโบ๊ตของนายปอที่มีแตงโมนั่งโดยสารมาด้วย มีการใช้เส้นทางล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่บริเวณสะพานพระราม 8 จนกระทั่งมาถึงบริเวณท่าเรือคลองเตย เพื่อที่จะขึ้นไปที่โรงแรมตามที่ พ.ต.ท.สันธนะ คาดการณ์ไว้ ตนเองมองว่าจะเป็นไปค่อนข้างยาก เพราะถ้าหากมีการขับด้วยอัตราความเร็วที่ปรากฏตามข่าว จะใช้เวลาตั้งแต่สะพานพระราม 8 มาจนถึงท่าเรือคลองเตย ระยะเวลารวมกว่า 2 ชั่วโมง แต่ถ้าหากมีการขับด้วยสปีดเร็วจะใช้เวลาเหลือเพียง 1 ขั่วโมง
ช่วงค่ำที่ผ่านมา ทีมข่าวล่องเรือสำรวจโรงแรมตามพิกัดเป้าหมาย อยู่ใกล้กับสะพานพระราม 8 อาจเป็นสถานที่ที่มีการนัดหมายบุคคลที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ตให้ไปเจอหรือให้เทียบท่าหรือไม่นั้น
ปรากฏว่าโรงแรมดังกล่าวเป็นโรงแรมที่ไม่มีถนนทางบก หากต้องการที่จะเข้าใช้บริการที่โรงแรมจะต้องนำเรือไปเทียบท่าเท่านั้น จากลานจอดรถของโรงแรมดังกล่าวจะอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนตัวของโรงแรมจะอยู่ฝั่งกรุงธน
ทีมข่าวโทรศัพท์พูดคุยกับพนักงานของโรงแรม ให้ข้อมูลว่าโรงแรมเปิดให้บริการตามปกติ มีปิดทำการเฉพาะช่วงโควิด-19 ช่วงรอบแรกเมื่อปีกว่า จากนั้นก็เปิดให้บริการตามปกติ
พนักงานโรงแรมระบุว่า "สวัสดี เรื่องของห้องอาหารและส่วนของภัตตาคาร อาจจะมีปิดให้บริการบ้างบางช่วง แต่ทั้งนี้ทางโรงแรมก็พร้อมให้บริการสำหรับลูกค้าทุกเมื่อ โดยถ้าหากพร้อมใช้บริการ สามารถที่จะติดต่อเข้ามายังโรงแรมได้โดยตรง และวิธีการเดินทางมาที่โรงแรมจะต้องใช้เรือรับส่ง เพราะไม่มีเส้นทางทางบก แต่จะมีจุดจอดรถให้บริการฝั่งตรงข้าม ส่วนหากลูกค้าจะนำเรือส่วนตัวมาเทียบท่า จะอนุญาตให้เฉพาะการรับส่ง ไม่อนุญาตให้มีการจอดผูกเรือไว้ และนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ถึงปัจจุบัน ทางโรงแรมก็ยังไม่มีวันที่ปิดให้บริการ"
นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เปิดเผยว่า ประเด็นที่ทางนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ได้ออกมาเปิดเผยคลิปเสียงที่มีความเชื่อมโยงว่าอาจจะมีบิ๊กข้าราชการระดับสูงรออยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ลักษณะสอดคล้องกับการรับงาน ในส่วนนี้ยืนยันว่ายังไม่ทราบข้อมูล และไม่ได้มีการพูดคุยประเด็นดังกล่าวกับทางเข้าหน้าที่ตำรวจ เพราะส่วนตัวไม่ได้ปักใจเชื่อเรื่องของการรับงานเอนฯ ลูกสาวแม่ไม่ได้มีนิสัยแบบนั้น และเขาเองไม่ชอบด้วยซ้ำเรื่องรับงานลักษณะดังกล่าว
ส่วนตัวอยากจะบอกว่าตนไม่รู้จัก แต่ส่วนตัวก็คงไม่ห้ามอะไร แล้วแต่สมองของเขา ไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบ ยึดตามหลักเหตุและผลว่าพูดแล้วจะมีผลอย่างไร สมองคนเราไม่สามารถไปห้ามได้ แล้วแต่เขาอยากจะพูดก็ช่างเขา
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตนมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้อย่างดี รัดกุม รอบครอบ รวดเร็ว อีกทั้งยังไขข้อสงสัยทุกข้อที่ประชาชนให้ความสนใจ รวมถึงตามพิสูจน์ข้อมูลหลักฐานที่ประชาชนมอบให้ หากหลักฐานใดมีประโยชน์ก็จะนำมาใช้ในสำนวน หากไม่มีก็ตัดทิ้ง เช่น ประเด็นขอนไม้ของ ส.ส.ท่านหนึ่ง ซึ่งคลิปจากกล้องวงจรปิดผิดทั้งเวลาและสถานที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานคืบหน้าไปแล้ว แต่เพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ออกมาแถลงหรือเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกต่อสังคม
สำหรับตนมองว่าคดีของนักแสดงสาวไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รวดเร็ว และการอธิบายให้ประชาชนเข้าใจนั้นทำได้ยาก เนื่องจากประชาชนเชื่อข้อมูลทางโซเชียลมากกว่า ซึ่งสามารถเข้าใจได้ เพราะ 1.ผู้ตายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง 2.กลุ่มคนบนเรือเป็นคนมีเงิน 3.ประชาชนไม่ให้ความเชื่อถือในองค์กรตำรวจ 4.คนหิวแสงที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลเท็จ 5.ทนายที่ออกมาพูดสงสัยในจุดที่ไม่น่าสงสัย อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าคดีนี้เป็นอุบัติเหตุจากกรประมาท เนื่องจากไม่มีแรงเหตุจูงใจในการฆาตกรรม แต่ใครที่จะประมาทต้องพิสูจน์กันตามหลักฐาน
สำหรับใครที่ออกมาพูดว่านักแสดงสาวเสียชีวิตบนบก หรือเปิดหลักฐานที่ไม่มีที่มาได้ทุกวัน 1.ตามภาษากฎหมาย เรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่าไม่มีน้ำหนัก เพราะเปิดข้อมูลที่ไม่เชื่อมโยงกับคดี คนเหล่านี้แค่อยากมีแสงส่องมาที่ตัว เพียงอยากมีซีนในข่าว 2.ตามภาษาชาวบ้าน เรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่าไร้สาระ 3.ตามภาษานักเลงเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่าเลอะเทอะ 4.ตามภาษาจีน เรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่า “เช้าโท้ว คือไม่น่าเชื่อถือ
ดังนั้น ตนอยากจะฝากสังคมว่าอย่าเสพสารจากบุคคลเหล่านี้ เพราะสังคมจะเสีย อีกทั้งหากยิ่งเสพโซเชียลจะยิ่งมีผลต่อกระบวนการยุติธรรม สำหรับอดีตนายตำรวจท่านหนึ่งที่ออกมาเปิดเผยคลิปเสียงว่าโรงแรมปิด ตนก็ไม่เห็นว่าจะมีการเปิดเผยว่าเป็นโรงแรมอะไร และไม่บอกข้อมูลว่าเสียงในคลิปเป็นเสียงของใคร ตนในฐานะอดีตตำรวจ ตนอายและไม่ให้ราคากับหลักฐานชิ้นนี้ หากเป็นตนคงอายที่นำคลิปเสียงแบบนี้มาเปิดเผย ซึ่งถือว่าเลอะเทอะมาก ตนอยากจะแนะนำเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวของนักแสดงสาวว่าให้จัดการขั้นเด็ดขาดกับบุคคลหิวแสงต่าง ๆ รวมถึงพวกที่ให้ร้ายผู้ตาย เพราะถือว่าบุคคลเหล่านี้ไม่ให้เกียรติแก่แตงโม ซึ่งทางกฎหมายสามารถดำเนินคดีได้
ด้าน พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช เจ้าของฉายาสารวัตรแรมโบ้ อดีตผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ และอดีตสารวัตรกองปราบนครบาล มองว่า จากกรณีที่ พ.ต.ท.สันธนะ ออกมาบอกว่ามีคนเปิดโรงแรมรอน้องแตงโมก่อนที่จะเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ก็ควรรับฟังทุกพยานหลักฐาน จากข้อมูลหลักฐานรายละเอียดอื่น ๆ ที่มีพลเมืองแจ้งมา แล้วนำมาวิเคราะห์แบบละเอียด
ในคดีดังในหลายคดี เคยมีการได้ข้อมูลจากพลเมืองดี แล้วสามารถชี่ยมโยงหาพยานหลักฐานสำคัญนำไปสุ่การหาสาเหตุที่แม้จริงของการเสียชีวิต จนได้ตัวคนร้าย ขณะเดียวกันหากเป็นความจริง คิดว่าโรงแรมคงไม่เกี่ยวข้อง ข้อสงสัยนี้จะทำให้มีเพิ่มตัวละครเข้ามาอีก เราจะได้พยานบุคคลที่อ้างถึงมีตัวตนจริง และอาจจจะได้ข้อมูลในรายละเอียดของคดีเพิ่มขึ้นอีกมาก
ส่วนตัวมองว่าคดีนี้มีพิรุธตั้งแต่เริ่มแรก เช่น สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เพราะการตกเรือจากการปัสสาวะโดยมีคนช่วยจับ มีโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก เพราะขนาดผู้ชายยืนปัสสาวะบนเรือขนาดเรือเร็ววิ่งปัสสาวะจะกระจายตามตัวของผู้ชายที่ปัสสาวะ ยิ่งผู้หญิงการนั่งยองบนเรือในขณะเรือวิ่ง ใส่เสื้อผ้าที่ยาวแล้วมีคนคอยช่วยจับ โอกาสเป็นไปได้น้อยมาก
รวมทั้งข้อพิรุธอื่น เช่น เมื่อมีการตกเรือไปแล้วกลับรีบไปพบคนแปลกหน้า และมีการพูดคุยปรึกษา รีบนำเอาเรือเร็วที่เป็นพยานหลักฐานสำคัญขึ้นมาจอด ไม่อยู่รอให้ตำรวจมาตรวจร่างกาย หาแอลกอฮอล์ หรือสารเสพติด และหาพยานหลักฐานในเรืออย่างเร็วที่สุด เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ หาพยานหลักฐานของสาเหตุการเสียชีวิตของน้องแตงโม และยังมีการทิ้งสิ่งของลงในแม่น้ำหลายชิ้น ตามที่ตำรวจไปพบมา
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความในคดีแตงโม บอกว่า สำหรับหลักฐานของ พ.ต.ท.สันธนะ ที่มีคลิปเสียงการพูดคุยกันทางโทรศัพท์เกี่ยวกับเรื่องการปิดเปิดโรงแรม ส่วนตัวมองว่าไม่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับคดีน้องแตงโม เนื่องจากบุคคลในสายโทรศัพท์ ไม่มีตัวตนที่ชัดเจนว่าใครคุยกับใคร แล้วก็ไม่มีการเอ่ยชื่อถึงแตงโม ส่วนการยื่นหลักฐานให้ตำรวจต้องมีความชัดเจนมากกว่านี้ ตำรวจถึงจะรับเข้าไปอยู่ในสำนวน เช่น มีการเปิดเผยตัวตนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางคดี ว่าใครทำอะไร ซึ่งถ้าหาก พ.ต.ท.สันธนะ มีตัวตนของบุคคลในสายโทรศัพท์ก็พาไปพบกับตำรวจ แต่ถ้าหากพาไปพบแล้วตำรวจยังไม่รับ ตนเองยินดีที่จะรับมอบหลักฐานนั้นไว้เอง แต่ต้องพาบุคคลดังกล่าวมาพบ ถ้าหากมีมูลและความเชื่อมโยงในคดี ตนเองในฐานะทนายความคดีนี้ ก็จะนำหลักฐานไปมอบให้กับตำรวจด้วยตัวเอง
ส่วนเรื่องคดี ขณะนี้ตำรวจทำงานคืบหน้าไปแล้วมากกว่า 90% เหลือเพียงแต่ผลทางนิติวิทยาศาสตร์เร็ว ๆ นี้ และคงจะได้สรุปสำนวนแถลงสั่งฟ้องคดีนี้ไม่เกิน 1 เดือน ยืนยันว่าตนเองไม่เคยมีความกังวล เรื่องที่ฝั่งคนบนเรือจะมีทหายชื่อดังมาว่าความให้ เพราะคดีนี้มันอยู่ที่พยานหลักฐาน "เอาเทวดามาว่าความยังไงก็ไม่ชนะ" สำหรับเรื่องผ้าที่แม่แตงโมบอกว่าเห็นตั้งแต่วันเกิดเหตุ ตนเองก็เพิ่งจะทราบวันนี้ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองมองว่าถึงจะหาเจอแล้วมันก็ไม่ได้มีความสำคัญทางคดีแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตีแสกหน้าแซน! พิสูจน์ท่านั่งเล่นมือถือท้ายเรือทำกูรูงง อึ้งท่าแตงโมฉี่เรือซิ่งขัดความจริง (คลิป)
- แม่แตงโม คืนเงินประกัน 1 ล้าน ให้ ลูกกระติก ผ่านตำรวจ
- เปิดสาเหตุ ทำไมมีแค่ ส.ส.เต้ เข้าเอี่ยวช่วยเหลือ คดีแตงโม
