สมุนเจ๊กั้งผวาแชตลับว่อน คนร่วมทารุณฟ้ามีอีกเพียบ เจ้าตัวซึ้งคนแห่ช่วย (คลิป)

จากเหตุการณ์ "นายฟ้า" ถูกนายจ้างขายอุปกรณ์การเกษตร ทุบตีจนมีบาดแผลตามใบหน้า และร่างกาย อวัยวะเพศฉีกขาด บังคับให้กินปัสสาวะ และอุจจาระสุนัข จากข้อมูลพบว่านายฟ้าเคยหนีออกจากบ้านมาแล้ว 2 ครั้งนั้น

วันที่ 16 ธ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังบ้านของฟ้า วันนี้ได้พักผ่อน นายฟ้า ผู้เสียหาย บอกว่า วันนี้รู้สึกสบายใจ เมื่อคืนนอนหลับฝันดี ไม่มีเรื่องเครียดหรือกังวล ส่วนอาการบาดเจ็บยังคงรู้สึกเจ็บแผลอยู่ โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศ ตอนนี้อยากพักผ่อน และรักษาอาการบาดเจ็บให้หายดีก่อน แนวทางการรักษา แพทย์ยังไม่ได้แจ้งอะไรเพิ่มเติม บอกเพียงแค่ว่าให้ล้างแผลให้สะอาด ทานข้าวทานยาให้ครบตามกำหนด

ส่วนตัวก็มีความคิดถึงสุนัขที่เคยเลี้ยง เพราะมีความผูกพัน แต่ถ้าถามว่าจะให้เลี้ยงเพิ่มหรือไม่นั้น ตนยังไม่ตัดสินใจ และยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อหลังจากนี้ ส่วนกำลังใจจากทุกคนที่มอบให้มานั้น ตนขอขอบคุณทุกกำลังใจ ซึ่งตอนนี้พร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว

โดยในวันนี้ ฟ้าได้สวมรองเท้าแตะคู่ใหม่ เป็นรองเท้าแตะสีดำแบบสวมพื้นนิ่ม ฟ้าเปิดเผยว่า ปลัดที่กระทรวงยุติธรรมจังหวัดสิงห์บุรี มอบเงินให้เป็น 2,000 บาท สำหรับการซื้อรองเท้าแตะคู่ใหม่ ซึ่งเป็นรองเท้าที่ตนเลือกซื้อเอง พอใส่แล้วรู้สึกเดินสบายเท้า ไม่รู้สึกคับ ที่บริเวณฝ่าเท้า เหมือนในช่วงตอนแรกที่เท้ายังคงมีอาการบวม และรู้สึกดีใจมากที่ได้รองเท้าคู่ใหม่ จึงอยากจะขอบคุณทางด้านของปลัดที่กระทรวงยุติธรรมจังหวัดสิงห์บุรี

หลังจากที่ไปตระเวนซื้อของใช้ส่วนตัวเสร็จก็เดินทางกลับมาที่บ้าน บรรยากาศในช่วงเย็นที่บ้านของฟ้า ภายใต้เพิงไม้ที่ตั้งอยู่กลางบ้าน ซึ่งเป็นจุดกินข้าวของคนครอบครัว และในเย็นวันนี้ฟ้าเลือกที่จะกินข้าวกับขาหมู ซึ่งกินจนหมดถ้วย ญาติบอกกับทีมข่าวเป็นข้อมูลว่ ปกติจะกินข้าวพร้อมกัน แต่วันนี้สื่อมาด้วย จึงให้ฟ้าทานข้าวก่อนเป็นคนแรก

เมื่อฟ้าทานข้าวเย็นจนอิ่ม หลังจากนั้นฟ้าเลือกที่หยิบขนมหวานมากินต่อ ซึ่งเป็นข้าวเหนียวสังขยา โดยฟ้าบอกว่าชอบกินเพราะมันหวาน และไม่ค่อยได้มีโอกาสได้กิน ซึ่งกินจนหมดกล่อง หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จและก็กินยามื้อเย็น ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านและนอนพักผ่อนตั้งแต่หัวค่ำ

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังที่อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นบ้านของเจ๊กั้ง ซึ่งพบว่าวันนี้บ้านยังคงปิดประตูเงียบ มีเพียงคนงาน 2 คนทำหน้าที่ดูแลหมาจำนวน 31 ตัว ส่วนนายนพรัตน์ สามีของเจ๊กั้ง เจ้าตัวไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว หลังจากที่ตำรวจมีการออกหมายเรียกแล้วนั้น

ทีมข่าวเดินทางไปเจอพลเมืองดีในพื้นที่ คนที่เคยพยามช่วยเหลือนายฟ้า นางสาวเบนซ์ (นามสมมติ) พลเมืองดี เปิดใจว่า ย้อนกลับไปช่วงปี 2561-2562 เป็นช่วงที่นายฟ้าเริ่มถูกทำร้ายร่างกาย ตนเองอาศัยอยู่ในละแวกไม่ไกลจากบ้านของเจ๊กั้ง ทุกค่ำคืนจะได้ยินเสียงฟาดร่างกายนายฟ้า ละเป็นเสียงของนายฟ้าร้องขอชีวิต ไเจ๊อย่า ผมยอมแล้ว" การก่อเหตุแต่ละครั้ง นายฟ้าไม่เคยทำอะไรผิด แต่อาจจะทำงานช้า เป็นเพราะบางครั้งไม่ได้หลับไม่ได้นอน 24 ชม. ต้องทำงานเกือบตลอดเวลา กลางคืนเลี้ยงหมา ปล่อยหมาออกมาขับถ่าย กลางวันแบกปุ๋ยขายลูกค้า รถน้ำต้นไม้ ให้อาหารหมา และต้องพาหมาไปวิ่งเล่น ตนเองจะเห็นกิจวัตรประจำวันของฟ้าเป็นแบบนี้ทุกวัน แทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง สังเกตว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่จะเป็นชุดเดิมตัวเดิมทุกครั้ง

การกระทำที่มีการทำร้ายร่างกายนายฟ้า ส่วนใหญ่จะเกิดจากเจ๊เป็นคนเริ่มต้นก่อน ทุบตีด้วยท่อพีวีซีขนาดเท่าแขน เชื่อว่าอุปกรณ์ที่ใช้ทำร้ายนายฟ้าไม่ใช่อย่างที่เอามาโชว์ให้ทีมข่าวดู มีท่อนไม้ ไม่ใช่ไม้เบสบอล รวมถึงไม้ไผ่ที่มีขนาดยาวคล้ายกับด้ามไม้กวาดทางมะพร้าว อาวุธเหล่านี้คืออาวุธที่เจ๊กั้งใช้ ที่นายฟ้าโดนทำร้ายล้มลงบนพื้นถึงกับก้มกราบขอชีวิต แต่เจ๊ก็ไม่เคยที่จะหยุดทำร้าย ตีเอาจนนอนกองบนพื้น จากนั้นนายอ้วนก็จะเข้ามาผสมโรงเตะซ้ำ ตนเองได้แต่ยืนมองและน้ำตาใหล บางครั้งถึงขั้นร้องไห้ตาม แต่ก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปช่วยได้ มีแต่มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในกลุ่มของเพื่อนบ้าน ทำนองว่า "ฟ้ามันโดนอีกแล้ว รอบนี้โดนหนักกว่าเดิม นอนกองอยู่บนพื้น ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร เราจะช่วยฟ้าได้อย่างไร แจ้งตำรวจดีไหม"

ซึ่งทุกครั้งก็พยายามหาวิธีช่วยเหลือ หลังโดยทำร้าย ถ้าหากฟ้าฝืนหรือช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ก็จะตะเกียกตะกายลุกและเดินเข้าไปในบ้านเอง บางวันใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาทีก็ลุกขึ้นได้ แต่บางวันต้องทนนอนอยู่กลางลานถึง 2 ชั่วโมง เจ๊และนายอ้วนไม่เคยใยดี หนักสุดกว่านั้นนายนพรัตน์ สามีของเจ๊กั้ง ก็เข้ามาทำร้ายลักษณะปลุกให้ลุกขึ้น โดยเป็นภาพที่ตนเองทนเห็นแล้วรับสภาพไม่ได้

สำหรับกรณีที่มีการจดทะเบียนร้านฟอนต์ ดีไชต์ ซึ่งปรากฏว่าในบัญชีดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 22 ล้านบาท และปรากฏชื่อของนายฟ้าเป็นเจ้าของกิจการ ส่วนตัวกลับมองว่าฟ้าไม่ได้ดูเหมือนเป็นเจ้าของกิจการ เป็นเพียงลูกน้อง คนถูกใช้แรงงานที่สภาพเหมือนไม่ได้เป็นญาติ ถูกทำร้ายทุบตีทั้งที่ฟ้าก็ทำหน้าที่ดีตลอด ไม่เคยบกพร่อง และไม่เคยฟ้องใครว่าโดนใครทำอะไรบ้าง แม้แต่หลายครั้งที่ตำรวจเข้ามา ฟ้าก็ไม่เคยฟ้อง ไม่เคยบอกตำรวจว่าโดนใครทำร้าย

วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการออกหมายเรียกนายนพรัตน์ สามีของเจ๊ ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเชื่อว่าตำรวจคงมีหลักฐานบางอย่างที่เชื่อมโยงหาตัวนายนพรัตน์ แต่เชื่อว่าการมีชื่อเสียงกว้างขวางและเป็นผู้ที่มีเงินก็คงไม่มีอะไรทำให้นายนพรัตน์ตกเป็นผู้ต้องหาเพิ่มได้ เนื่องจากที่ผ่านมาเจ๊กั้งหรือนายอ้วนเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทหรือมีเรื่องกับคนอื่นถึงกับขึ้นโรงขึ้นศาล แต่นายนพรัตน์สามีของเจ๊ก็จะเข้าไปเคลียร์ให้ทั้งหมด เรื่องทุกอย่างก็เงียบไป เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างจากทุกครั้ง ในทางกลับกันคนที่เคยออกมาให้ข้อมูลกับทีมข่าวหรือแม้แต่พลเมืองดี ชาวบ้านในละแวกพื้นที่ใกล้เคียงต้องกลัวความมีอิทธิพล และเหตุที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ หากทุกคนได้รับการประกันตัว

ทีมข่าวได้รับแชต ซึ่งเป็นการพูดคุยระหว่างนางสาวเบนซ์กับกลุ่มเพื่อนบ้าน ทุกครั้งที่พบเห็นพฤติกรรมของเจ๊และนายอ้วน มีการก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายฟ้า ก็จะมีการแจ้งพูดคุยกันในกลุ่ม ข้อความดังกล่าวเคยสนทนากันเมื่อเดือนมิถุนายน 2561

ในการพูดคุยมีการระบุทำนองว่า "เจ๊ ไอฟ้าโดนอีกแล้ว รอบนี้หนักกว่าทุกครั้ง รอบนี้โดนหนักลงไปกองนอนบนพื้น, เหมือนทุกครั้งที่ฟ้าโดนทำร้ายไม่เคยฟ้องใคร ฟ้าเหมือนรักเขา เพราะฟ้าไม่มีพ่อแม่, หลายครั้งที่ฟ้าโดนตีเอาแต่ยืนมองช่วยอะไรไม่ได้ ถึงขั้นร้องไห้ตามก็มี, แจ้งความทีไร ตำรวจเข้ามาฟ้าก็ไม่เคยพูดความจริง ว่าทำไมถึงโดนตี"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- หลักฐานมัด! แก๊งเจ๊กั้งทืบ "ฟ้า" สลบคาเท้า แฉน้องถูกจับล่ามน้ำสาดห้ามคนช่วย (คลิป)

- อำมหิต! ลูกจ้างถูกแป๊บตีไข่เน่าตัวเหวอะ เจ๊ลั่นทุบจู๋โด่ใส่หน้า อู้เลี้ยงหมา 30 ตัว (คลิป)

- จับแล้วเจ๊กั้งนายโหดท่อแป๊บฟาดจู๋เน่า โต้แผลเหวอะหมาขย้ำ ยันแค่ขู่กินขี้ (คลิป)