จากเหตุการณ์ "นายฟ้า" ถูกนายจ้างขายอุปกรณ์การเกษตร ทุบตีจนมีบาดแผลตามใบหน้า และร่างกาย อวัยะเพศฉีกขาด บังคับให้กินปัสสาวะ และอุจจาระสุนัข จากข้อมูลพบว่านายฟ้าเคยหนีออกจากบ้านมาแล้ว 2 ครั้งนั้น
วันที่ 15 ธ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านของเจ๊กั้ง อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พบว่ามีแค่สุนัขบางตัววิ่งออกมาเห่าหน้าบ้าน แต่ไม่มีใครออกมา
ขณะที่นายกิตติพงษ์ (สงวนนามสกุล) เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกบ้านของเจ๊กั้ง เล่าให้ฟังว่า สมาชิกในบ้านของเจ๊กั้งจะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และตนเองเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทถึงขั้นชกต่อยกับลูกน้องของเจ๊กั้งมาแล้ว เนื่องจากลูกชายของตนถูกสุนัขของเจ๊กั้งไล่กัด และเรื่องก็จบลงที่โรงพัก ซึ่งเหตุการณ์ผ่านมาหลายปีแล้ว
ทีมข่าวสอบถามนายชาติ (นามสมมติ) ชาวบ้าน บอกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่เห็นว่านายนพรัตน์ สามีของเจ๊กั้งกลับมาที่บ้าน โดยปกติแล้ว บ้านของเจ๊กั้งก็ไม่ค่อยได้สุงสิงกับชาวบ้านในพื้นที่ อยู่แบบลักษณะต่างคนต่างอยู่ ตนก็ไม่ได้สังเกตว่านายนพรัตน์เข้าออกบ้านเวลาไหนบ้าง แต่ตั้งแต่อาศัยอยู่ที่นี่มา 4 ปี ก็เจอว่านายฟ้าทำงานอยู่ในบ้านหลังนั้นแล้ว
เรื่องที่นายฟ้า ถูกทำร้ายนั้น ชาวบ้านในพื้นที่เขาก็รู้กันเยอะ แต่ใครบ้างจะกล้าพูด เพราะตนก็ไม่รู่ว่าบ้านหลังนี้มีอิทธิพลในพื้นที่หรือไม่ ถ้าวันหนึ่งเจ๊กั้งได้อิสรภาพ ชาวบ้านก็กลัวว่าจะมีปัญหา ส่วนบริษัทฟอนต์ ดีไซน์ ที่นายฟ้ามีชื่อในธุรกิจนั้น ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าคือบริษัทอะไร ทราบแค่บ้านของเจ๊กั้งขายปุ๋ย
ที่ สภ.อินทร์บุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัว 2 สามีภรรยา คนงานในบ้านของเจ๊กั้งมาสอบปากคำเพิ่มเติม ทีมข่าวได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับคนงานบ้านเจ๊กั้ง บอกว่า ตนมาทำงานที่บ้านของเจ๊กั้งได้ประมาณ 4 เดือน หน้าที่ของตนคือเช็ดดูบ้านทำความสะอาด หลังจากที่ทำงานเสร็จ ก็ไปอยู่ในห้องพัก ซึ่งเจ๊กั้งก็จะเรียกใช้ทำความสะอาดบ้าง ส่วนฟ้าตอนที่ตนเข้ามาก็เห็นอยู่แลัวว่าทำงานที่บ้านหลังนี้ โดยฟ้าทำหน้าที่เลี้ยงสุนัข ตนก็ไม่ได้พูดคุยหรือสอบถามอะไรกันมากกับฟ้า ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง
ในส่วนของเจ๊กั้งเองไม่ใช่คนดุร้าย แค่เป็นคนเสียงดังเฉย ๆ ตนก็ไม่เคยโดนทำโทษ และก็ไม่เคยเห็นตอนเจ๊กั้งทำโทษฟ้า ส่วนนายนพรัตน์ยิ่งไม่ได้สัมผัสเลย เนื่องจากไปทำงาน ไม่ค่อยได้กลับบ้าน จะกลับก็วันอาทิตย์ บางอาทิตย์ก็ไม่ได้กลับ แต่ก็ตนก็ไม่ทราบว่า นายนพรัตน์ ซึ่งเป็นสามีของเจ๊กั้งทำงานที่ไหน หรืออาศัยที่ไหน หลังเกิดเหตุก็ยังไม่พบว่านายนพรัตน์กลับมาที่บ้าน ส่วนเรื่องบริษัท ฟอนต์ ดีไซน์ พี่ถูกจดทะเบียนในชื่อของนายฟ้า ตนไม่ทราบ ในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก็ไม่ได้มีความกังวลใจ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ก็จะพูดไปตามความจริง
นายเสงี่ยม ทองงอก อายุ 69 ปี ลุงของนายอ้วน ผู้ต้องหา บอกว่า ปกติแล้วจะไม่ค่อยกลับมาที่บ้านหลังนี้ มาเยี่ยมแม่และครอบครัวอาทิตย์ลละ1-2 ครั้ง สอบถามเรื่องอาชีพที่ทำ ก็บอกว่าขับรถปุ๋ยให้กับเจ๊กั้ง ซึ่งทำมานานกว่า 4 ปีแล้ว จึงไม่รู้ว่าหลานชายจะรู้เห็นเรื่องบริษัทฟอนต์ ดีไซน์ ที่นายนพรัตน์เอาชื่อฟ้าไปจดทะเบียนการค้านั้นหรือไม่
ตอนแรกที่ดูข่าว ก็เปิดช่องอมรินทร์ทีวีดูก็ยังเผลอด่าออกไปเลยว่าทำไมเจ้านายคนนี้ใจร้าย และรู้สึกสงสารลูกจ้าง กระทั่งลูกสาวมาบอกว่านายอ้วนเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ก็รู้สึกตกใจ เพราะเท่าที่รู้จักหลานคนนี้ เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง ไม่คิดว่าจะไปร่วมกันก่อเหตุ
หลังถูกฝากขังไป ทางญาติยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมหลานชาย เนื่องจากไม่มีเงินไปประกัน และก็ไม่แน่ใจว่าสามารถเข้าเยี่ยมได้หรือไม่ ทำให้ตนยังไม่มีโอกาสได้สอบถามหลานชายตรง ๆ ถึงเรื่องราวและสาเหตุที่ก่อเหตุ
นายฟ้า ผู้เสียหาย บอกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดน้อยเจริญธรรม ก็รู้สึกสบายใจขึ้น โดยมีการขอพรจากพระ ขอให้ตัวเองหายจากอาการบาดเจ็บ และขอให้มีชีวิตที่ดีกับการเริ่มต้นใหม่ ส่วนตัวยังไม่ได้คิดว่าหลังจากนี้จะทำอะไรต่อ และยังคงไม่กล้าที่จะวาดฝันอะไร สภาพจิตใจตอนนี้สบายใจแล้วที่ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่อบอุ่น และต้องรักษาอาการบาดเจ็บให้หายดีก่อน ซึ่งตอนนี้ยังเจ็บหนักที่บริเวณอวัยวะเพศ ตอนนี้กลับมาอยู่กับครอบครัว ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น
เรื่องนายนพรัตน์ทำร้ายร่างกายนั้น ก็ยอมรับว่าโดนกระทำจริง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ ให้ตำรวจดำเนินการ และขอขอบคุณทนายเกิดผล แก้วเกิด และสื่อมวลชนที่เข้ามาช่วยเหลือด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หลักฐานมัด! แก๊งเจ๊กั้งทืบ "ฟ้า" สลบคาเท้า แฉน้องถูกจับล่ามน้ำสาดห้ามคนช่วย (คลิป)
- อำมหิต! ลูกจ้างถูกแป๊บตีไข่เน่าตัวเหวอะ เจ๊ลั่นทุบจู๋โด่ใส่หน้า อู้เลี้ยงหมา 30 ตัว (คลิป)
- จับแล้วเจ๊กั้งนายโหดท่อแป๊บฟาดจู๋เน่า โต้แผลเหวอะหมาขย้ำ ยันแค่ขู่กินขี้ (คลิป)
นอกจากนี้ ชาวบ้านข้อสังเกตเกี่ยวกับความสนิทสนมระหว่างเจ๊กับนายอ้วนว่า พบเห็นทุกเช้าตัวของเจ๊และนายอ้วนจะมีการปั่นจักรยานร่วมกัน ออกไปไหนมาไหนด้วยกัน มีความสนิทสนมค่อนข้างมาก ประกอบกับทุกครั้งที่มีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวของเจ๊ ก็จะมีการติดแฮชแท็กระบุว่า #ครอบครัวคนตัวอ้วน
