หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย เปิดตัว ‘GaussDB’ ฐานข้อมูล AI-Native ผลักดันภาครัฐและเอกชนเข้าถึงฐานข้อมูลที่มั่นคง สำหรับการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลของประเทศไทย ไปสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในยุค AI และการประมวลผลคลาวด์
GaussDB มอบโซลูชันที่ครอบคลุมเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในยุคคลาวด์และ AI และความพร้อมใช้งานสูง ที่ลดอัตราการสูญหายและความขัดแย้งของข้อมูล พร้อมทั้งบริการกู้คืนข้อมูลสำคัญจากระยะไกล เมื่อเกิดเหตุรุนแรงอย่างมาก ซึ่งอยู่ห่างไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร ด้วยประสิทธิภาพและฟังก์ชันรองรับการขยายตัวของข้อมูลที่เหนือชั้น ทำให้สืบค้นข้อมูลที่ซับซ้อนจำนวนหลายพันล้านรายการได้ในไม่กี่วินาที และมีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงขึ้น 5 เท่าหรือมากกว่านั้น
GaussDB ของหัวเว่ยถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย โดยมีการใช้งานฐานข้อมูลของหัวเว่ย คลาวด์ มากกว่า 2,500 รายแล้วในหลายส่วนธุรกิจ เช่น การเงิน รัฐบาล ธุรกิจดั้งเดิม อินเทอร์เน็ต การผลิต แม้กระทั่งธนาคารอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของจีน ธนาคารเกษตร และธนาคารออมสินของจีน
นายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย กล่าวว่า การปฏิวัติด้านดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว เห็นได้ชัดจากการใช้งาน AI มากขึ้นในธุรกิจต่างๆ ซึ่งฐานข้อมูลนับเป็นพื้นฐานของการปฏิวัติทางดิจิทัล และการปล่อยข้อมูลในยุคของ big data และ AI มีความท้าทายอยู่ 4 ประเด็นหลักดังนี้:
- การประมวลผลข้อมูลปริมาณมากที่หลากหลายและกระจัดกระจายด้วยการใช้ฐานข้อมูล
- การคงประสิทธิภาพที่สูงในการประมวลผลข้อมูลมากๆ ในเวลาพร้อมกัน
- การรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมทั่วถึงและการจัดการกับการละเมิดข้อมูล
- แนวโน้มดิจิทัลซึ่งได้รับความนิยมในทุกธุรกิจที่ต้องการอีโคซิสเต็มท้องถิ่นที่หลากหลายและเข้มแข็ง
GaussDB ถูกพัฒนามานานกว่า 20 ปีตั้งแต่ปี 2001 และได้รับการทดสอบผ่านการใช้งานจริง โดยจะมอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อปลดล็อกคุณค่าของข้อมูลอย่างเต็มที่ และ ‘ให้โลกมีตัวเลือกที่ดีกว่า’ เช่น ฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์ของหัวเว่ยถูกย้ายไปยัง GaussDB ช่วยลดเวลาการสร้างรายงานประจำปีจาก 30 วันเหลือเพียง 10 วัน
บรูโน จาง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี หัวเว่ย คลาวด์ กล่าวถึง 6 ก้าวสำคัญที่ทำให้ GaussDB เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับฐานข้อมูลแห่งอนาคตดังนี้:
- สถาปัตยกรรมขั้นสูง แบบคลาวด์เนทีฟแบบ 3 เลเยอร์ (three-layer pooling) ให้บริการผู้ใช้หลากหลายองค์กร และปลดล็อกประสิทธิภาพการทำงาน
- ให้บริการแบบมัลติ-โมเดล ผสานฐานข้อมูลแบบ HTAP, เวกเตอร์ และมัลติ-โมเดลขจัดสภาวะคอขวดของข้อมูล และสนับสนุนธุรกิจใหม่ได้มากขึ้น
- ความพร้อมใช้งาน โดยผสานการทำงานระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อย่างลงตัว มาพร้อมดูอัล คลัสเตอร์ ทำงานสอดผสานกันอย่างเหนือชั้น จึงพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
- ความอัจฉริยะที่มาพร้อมแบบจำลองฐานข้อมูลขนาดใหญ่และมีระบบการดำเนินงานและบำรุงรักษา แบบโต้ตอบทันที ลดข้อจำกัดด้านประสบการณ์ใช้งาน
- การรักษาความปลอดภัยแบบ E2E พร้อมการเข้ารหัสเต็มรูปแบบและระบบป้องกันการปลอมแปลง หมดกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
- อีโคซิสเต็มเปี่ยมศักยภาพ ฐานข้อมูลบุคคลที่สามสามารถโยกย้ายได้อย่างราบรื่นโดยอัตโนมัติและการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ ช่วยลดข้อจำกัดของอีโคซิสเต็ม