เปิดฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิล่าสุดติดลบทะลุ 9.3 หมื่นล้านบาทส่อแววแตะระดับ 1 แสนล้านบาทในสิ้นมี.ค. หรือต้นเม.ย.นี้ ขึ้นอยู่กับดีเซลโลกจะลดหรือไม่ในระยะนี้ ย้ำสงกรานต์ยังพร้อมดูแลดีเซล29.94 บาท/ลิตรหนุนท่องเที่ยว ลุ้นคลังชี้ชะตาลดภาษีฯดีเซลได้มากกว่า 1 บาท/ลิตรหรือไม่ตัวตัดสินขยับเพดานดีเซลเกิน 30 บาท/ลิตรเท่าใดแน่ ย้ำหากปรับเพดานจะทยอยขึ้นไม่ให้กระทบปชช. เผยมีเวลา 5 เดือนช่วงสิ้นสุดฤดูหนาวตะวันตกเร่งเก็บเงินสะสมเสริมสภาพคล่องทยอยใช้หนี้ล็อตแรกพ.ย.67ก่อนสิ้นปีราคาโลกกลับมาแพงหวั่นวิกฤติซ้ำอีก

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ณ วันที่ 3 มีนาคม 2567 ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิติดลบ 93,498 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 46,742 ล้านบาท บัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ติดลบ 46,756 ล้านบาทโดยเงินกองทุนฯยังคงไหลออกต่อเนื่องจากการอุดหนุนราคาดีเซลที่ ณ วันที่ 5 มี.ค.67อยู่ระดับ 4 บาท/ลิตรเนื่องจากราคาดีเซลตลาดโลกยังคงมีราคาทรงตัวระดับสูง ซึ่งจากการประมาณการเบื้องต้นแล้วหากการอุดหนุนเฉลี่ยอยู่ในระดับดังกล่าวคาดว่าฐานะกองทุนน้ำมันฯสุทธิจะติดลบระดับ 100,000 ล้านบาทภายในสิ้นมี.ค. 67 หรือต้นเม.ย. 67

“ ขณะนี้เงินไหลออกที่ส่วนใหญ่ชดเชยราคาดีเซลเพื่อตรึงราคาขายไว้ที่ 29.94 บาท/ลิตร(ไม่เกิน30บาท/ลิตร)ตามนโยบายรัฐบาลซึ่งอัตรา 4 บาท/ลิตรเงินไหลออกราว 2,000 ล้านบาท/วันหากอยู่ระดับนี้ก็แตะแสนล้านบาทในสิ้นมี.ค
แต่หากดีเซลตลาดโลกปรับลดก็จะไปเป็นช่วงเม.ย.นี้ อย่างไรก็ตามมาตรการของพลังงานดูแลดีเซล 29.94 บาท/ลิตรจะสิ้นสุด 31 มี.ค.นี้เพราะยังมีเงินที่ทยอยเบิกกู้เหลืออยู่แต่การปรับลดภาษีสรรรพสามิตรดีเซล 1 บาท/ลิตรที่เข้ามาสนับสนุนการบริหารจะสิ้นสุด 19 เม.ย.67 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์และรัฐส่งเสริมการท่องเที่ยวก็คงจะต้องดูแลราคาไปก่อน”แหล่งข่าวกว่า
ภาษีฯดีเซลชี้ชะตาขยับดีเซลเท่าไหร่

อย่างไรก็ตามในเร็ว ๆนี้คงจะต้องหารือคลังเพื่อให้มีผลในช่วงพ.ค.จะต้องมีความชัดเจนถึงแผนบริหารจัดการกองทุนน้ำมันฯ เนื่องจากเป็นวิกฤติสภาพคล่องแต่ไม่ใช่วิกฤติด้านราคาน้ำมันเช่นอดีต โดยปัจจัยหลักคงจะต้องอยู่ที่นโยบายของกระทรวงการคลังว่าจะสามารถปรับลดภาษีสรรพสามิตรดีเซลที่ปัจจุบันลดให้ 1 บาท/ลิตรนั้นจะลดได้มากน้อยเพียงใด หากลดคงเดิมการปรับราคาดีเซลที่ตรึงไว้ 29.94 บาท/ลิตรก็อาจจะต้องไปสู่ระดับ 32 บาท/ลิตร แต่หากปรับลดลงให้มากการขยับเพดานราคาดีเซลก็จะลดต่ำลงตามมา ซึ่งการปรับราคาทางกระทรวงฯจะเน้นค่อยๆทยอยขึ้นเพื่อไม่ให้กระทบประชาชน และดูจังหวะของราคาดีเซลตลาดโลกหากลดก็จะปรับลดลงให้เช่นอดีตที่เคยบริหารจากราคา 30 บาท/ลิตรก็ขยับไปสู่ระดับ 32 บาท/ลิตรทำให้สามารถลดหนี้จากระดับเกือบ1,30000 ล้านบาทลงเหลือเพียง 60,000 กว่าล้านบาท

“ วันนี้ภาษีฯดีเซล 1 บาท/ลิตรแต่กองทุนฯอุดหนุน 4 บาท/ลิตร ก็ยังชดเชยถึง 3 บาท/ลิตร เราก็ยังคงแทบเก็บเงินสะสมไม่ได้เลยขณะที่ได้มีการทยอยกู้สถาบันการเงินมาบริหารราว 1.05 แสนล้านบาทต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยเดือนละ100 กว่าล้านบาทและยังมีเงินต้นดือนพ.ย. 67 นี้ราว 30,000 ล้านบาทที่จะต้องทยอยจ่ายตามการเบิกจ่ายมากก่อนหน้านั้นอีก “แหล่งข่าวกล่าว

มีเวลา 5 เดือนเร่งลดหนี้กองทุนฯหวั่นสิ้นปีดีเซลพุ่ง
แหล่งข่าวกล่าวว่า การลดภาษีฯของกระทรวงการคลังจะมีผลต่อการลดการอุดหนุนดีเซลรวมถึงทิศทางราคาตลาดโลกโดยเฉพาะดีเซลที่กระทรวงพลังงานโดยเฉพาะสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.)ที่เป็นฝ่ายบริหารกองทุนฯ จะมีระยะเวลาในการทยอยเรียกเก็บเงินดีเซลเข้ามาเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯได้มากสุดเนื่องจากในช่วงมิ.ย.-ต.ค.ขอทุกปีราคาน้ำมันโดยดีเซลเฉลี่ยจะไม่สูงเพราะสิ้นสุดฤดูหนาว ดังนั้นจึงมีเวลา 5 เดือนสำหรับการเร่งเก็บเงินเสริมสภาพคล่องกองทุนฯให้มากสุดก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูหนาวปลายปีที่ราคาอาจผันผวนสูงกลับมาอีกครั้งและอาจทำให้กองทุนฯกลับมามีปัญหาวิกฤติสภาพคล่องเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ราคาดีเซลเฉลี่ยขณะนี้อยู่ราว 95-98 เหรียญ/บาร์เรลแต่บางครั้งมีเหตุการณ์สู้รบก็วิ่งราว 90-115 เหรียญ/บาร์เรล ล่าสุดแม้ โอเปกพลัสมีมติขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจไปจนสิ้นไตรมาส 2/2567 โดยซาอุดีอาระเบียจะปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่รัสเซียจะปรับลดกำลังการผลิตและการส่งออกน้ำมันรวม 471,000 บาร์เรล/วันเพื่อส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะรักษาราคาน้ำมันให้อยู่เหนือระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาส 2 พร้อมกับเสริมว่าหากโอเปกพลัสผ่อนคลายการปรับลดกำลังการผลิตอย่างรวดเร็ว ราคาน้ำมันจะร่วงลงแตะ 77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนพ.ค.นี้หากเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ราคาน้ำมันไม่สูงมากจะทำให้สภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯดีขึ้นได้เช่นกันจึงต้องติดตามใกล้ชิดระหว่างนี้