ตลาดทองคำในไทยถือว่าเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในแง่ของการบริโภคทองคำโดยรวมทั้งหมด ทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณที่ใช้เป็นเครื่องประดับนั้น พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2558-2565) ประเทศไทยนิยมบริโภคทองคำโดยรวม ติดอันดับ 1 ใน 3 ของเอเซีย รองจาก จีน และอินเดีย เท่านั้น และติดอันดับ 7 ของโลก
ทั้งนี้ ทำให้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ความต้องการทองคำโดยรวมในประเทศเฉลี่ย อยู่ที่ 63 ล้านตัน แม้แต่ในช่วงปี 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งกระตุ้นให้คนไทยเทขายทองคำมากขึ้น ติดลบมากถึง 81.5 ตัน ลดลง -275% จากปี 2562 และในปี 2564 ปริมาณการบริโภคอยู่ที่ 37 ตัน และปี 2565 ที่ 38 ล้านตัน ซึ่งเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (YLG) เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำในปี 2567 ว่า ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในภาพใหญ่ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น แม้ระยะสั้นจะมีการปรับฐานลงจากช่วงต้นปีที่ราคาปรับขึ้นไปค่อนข้างมาก แต่ภาพระยะกลางจะยังคงเป็นลักษณะแกว่งตัวขึ้น หรือ Side Way จึงมองว่า ปีนี้ทั้งปีมีโอกาสทำราคาสูงสุดที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ จากปัจจัยหนุนทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น และทิศทางที่จะปรับดีขึ้น
“ มองราคาทองคำในตลาดโลกปีนี้ ที่ 2,250 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ และราคาทองคำในประเทศปีนี้มีโอกาสขึ้นไปแตะที่ 40,000 บาท/บาททองคำ จากปัจจุบันที่ระดับ 34,000 บาท/บาททองคำ มาจากปัจจัยดอกเบี้ยต่างประเทศที่อยู่ในทิศทางขาลง แต่ขณะนี้จนถึงเดือนมี.ค.จะถือว่าเป็นช่วงสูญญากาศของราคาทองคำก็ว่าได้ เพราะทุกคนให้ความสนใจกับการลงทุนในดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากรอดูทิศทางความชัดเจนของนโยบายดอกเบี้นของเฟดว่าจะเป็นเช่นไร แล้วเมื่อดอกเบี้ยปรับลดลงแล้ว ทองจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง”
สำหรับอัตราผลตอบแทนของราคาทองคำในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยปีละ 10% ถือว่าเป็นอัตราผลตอบแทนที่ดี
แต่จากสถานการณ์โควิด-19 จนถึงปัจจุบัน พบว่า ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนถือครองในสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่ง YLG ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) เพิ่มช่องทางการซื้อขายทองคำผ่าน Gold Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง“ ซึ่งที่ผ่านมา พบว่า สามารถช่วยเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนเจนเนอเรชันใหม่ให้เข้าถึงการลงทุนทองคำได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอายุต่ำกว่า 40 ปี ซึ่งในปี 2565 มีอยู่ประมาณ 40% แต่ล่าสุดเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 60%
นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เผยว่า การจับมือกับ YLG ถือว่าเป็นความสำเร็จของธนาคารที่ได้นำร้านทองที่มีความน่าเชื่อถือและชั้นนำของประเทศมาอยู่บนแพลตฟอร์ม ”เป๋าตัง“ ให้กับนักลงทุนไทยและให้ประชาชนสามารถเข้าถึง