สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย เริ่มเห็นนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อในตลาดหุ้นไทยช่วง 1-2 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา กลับมาซื้อสุทธิ 4,177.63 ล้านบาท แม้ตั้งแต่ต้นปีจนถึง 2 ก.พ.2567 นักลงทุนต่างชาติจะยังขายสุทธิ - 26,696.47 ล้านบาท ก็ตาม
แล้วหุ้นไทยวันนี้ และสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไร?
นักลงทุนควรจะจัดกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร?
หุ้นตัวไหนที่ลงทุนได้
วันนี้ SPOTLIGHT จะพามาหาคำตอบ
SET เห็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัว และสร้างสัญญาณเทคนิคที่เป็นบวก รวมถึง ทิศทางเงินทุนไหลเข้า (fund flow) ที่ไหลเข้า ทำให้คาดว่าดัชนียังฟื้นตัวได้ต่อ
โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1390 และ 1396 จุด กรอบล่างที่แนวรับ 1380 และ 1370 ตามลำดับ
กลยุทธ์กการลลงทุน
- ช่วงสั้นมอง SET อยู่ในภาวะเปราะบาง และการฟื้นตัวยังอยู่ในกรอบจำกัด
- คาดเงินเฟ้อไทยและจีน เดือนม.ค.นี้ มีแนวโน้มหดตัว
- คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธปท.คงดอกเบี้ยนโยบาย ในการประชุม 7 ก.พ.นี้
- ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศงบในไตรมาส 4/66 ของไทยออกมาอ่อนแอ ขาดปัจจัยหนุนใหม่
- แนะลงทุนเน้น “ตั้งรับ” สะสมหุ้นพื้นฐานรอบการฟื้นตัวของตลาด
ล็อคเป้าการลงทุน
ในสัปดาห์นี้ ระยะสั้น SET ยังอยู่ในภาวะเปราะบาง และการฟื้นตัวอยู่ในกรอบจำกัด ซึ่งแนะนำ “ตั้งรับ”สะสมหุ้นพื้นฐาน ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้
- นักลงทุนที่กังวลในตลาดผันผวน เน้นตั้งรับ สะสนหุ้นที่คาดว่าชนะตลาดได้ ที่ราคาหุ้นปรับตัวดีกว่าตลาด ทั้ง ADVANCE AOT BDMS TISCO
- นักลงทุนระยะสั้น ช่วง 3-4 เดือนนี้ ที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผล คุณภาพดี ที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลมากกว่า 5% แนะนำ หุ้น AP BCP KTB ส่วนนักลงทุนระยะยาว แนะนำ AH AP BCP KTB PTT TTB
- ส่วนนักลงทุนระยะยาว แนะนำ หุ้น BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น แนะนำให้ระมัดระวังหุ้นที่คาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 4/66 อาจจะอ่อนแอและต่ำกว่าที่ตลาดคาด ได้แก่ HMPRO GLOBAL CRC ZEN เป็นต้น
แนะนำหุ้น TOP และ BDMS
TOP ผลประกอบารไตรมาส 4/66 คาดมีกำไรสุทธิ 2,700 ล้านบาท ดีขึ้นมาก ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แนวโน้มกำไรในปี 2567 ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
BDMS มองราคาหุ้นจะ Outperform ต่อเนื่อง จากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ประเมินกำไรสุทธิ ในไตรมาส 4/66 3,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% และปี 2567 กำไรสุทธิ เติบโต 8% จากปี 2566