ช่วงนี้ข่าวในตลาดหุ้นมีเรื่องร้อนๆนอกจาก หุ้น STARK แล้ววันนี้ (14มิ.ย.66) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังออกหนังสือเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขายหุ้น OTO หรือ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด มหาชน อีกด้วยภายหลังสภาพการซื้อขายผิดไปจากปกติ และพบการขายที่กระจุกตัว โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 12 และ 13 มิถุนายน 2566
ราคาหุ้น OTO วันนี้ (14มิ.ย.66) ปิดที่ 5.50 บาท/หุ้น ลดลง 2.40 บาทหรือ 30.38% ปิดจุดต่ำสุดของวัน โดยระหว่างวันราคาสูงสุดคือ 8 บาท/หุ้น นับเป็นวันที่ 3 แล้วที่ราคาหุ้นร่วงหนัก จากที่เคยอยู่ในระดับ 24 บาทกว่าในปลายเดือน พ.ค.เหลือ แค่ 5.50 บาทเท่ากับราคาลดลงไปแล้ว กว่า 77% จาก 24 บาท /หุ้น และมูลค่าหายไป 10,000 ล้านบาทใน 10 วัน จากกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท มาเหลือ 3 พันล้านบาท
ปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดให้หลักทรัพย์ OTO อยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2566 เนื่องจากสภาพการซื้อขายผิดปกติโดยไม่มีปัจจัยสนับสนุน โดยเมื่อเข้ามาตรการ สภาพการซื้อขายลดความร้อนแรงลง แต่อย่างไรก็ตามในวันที่ 12 และ 13 มิถุนายน 2566 พบว่าปริมาณการซื้อขายปรับตัวเพิ่มขึ้น และพบการขายที่กระจุกตัว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขาย
นอกจากนี้ ขอให้บริษัทสมาชิกทุกรายกำกับดูแลการซื้อขายและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ OTO อย่างใกล้ชิดและเคร่งครัด เพื่อป้องกันการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
มาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 บริษัทสมาชิกต้องดำเนินการดังนี้
- ให้ผู้ลงทุนทุกประเภทที่ต้องการซื้อหลักทรัพย์ OTO ต้องวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ และ
- บริษัทสมาชิกห้ามนำหลักทรัพย์ OTO คำนวณเป็นวงเงินในการซื้อขายในทุกประเภทบัญชี
เปิดประวัติความเป็นมาของ OTO
OTO หรือ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2543 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 20,000,000 บาท โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ กลุ่มบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ต่อมาในปี 2556 ได้แปรสภาพบริษัทจำกัด เป็นบริษัทมหาชน โดยเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 280,000,000 บาท และได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 ในปลายปี 2563 ได้มีการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ส่งผลให้บริษัทมิได้เป็นบริษัทย่อยของ บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2563
ในเว็บไซต์ของบริษัทระบุ ว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างดังกล่าวไม่ได้กระทบหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจหลักแต่อย่างใด ในปี 2564 บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 840,000,000 บาท และปี 2565 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 895,000,000 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว จำนวน 559,999,995 บาท
OTO นั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับ Contact Center และ Call Center แต่ปัจจุบันมีการแตกไลน์ธุรกิจเกิดบริษัทย่อยในเครือหลายบริษัท มีทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ลงทุน EV Bike และเข้าสู่ Climate Tech ด้วยการจัดตั้งบริษัท ซีซีเอส คาร์บอน เคลียร์ โซลูชั่น ทำธุรกิจให้บริการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตครบวงจร เป็นต้น ด้านผลประกอบการของ OTO พบว่า มีทั้งกำไรและขาดทุนสลับไปมา
ผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลัง
ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 48.85 ล้านบาท
ปี 2564 กำไรสุทธิ 55.7 ล้านบาท
ปี2565 ขาดทุนสุทธิ 116.22 ล้านบาท
ไตรมาส 1 /2566 กำไรสุทธิ 32.46 ล้านบาท
ด้านนาย คณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวันคอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) (OTO) ได้ชี้แจงกับตลาดหลักทรัพย์ถึงราคาหุ้นที่ลดลงในช่วงวันที่ 12-13 มิ.ย.ว่า การเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นของบริษัทดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจในปัจจุบันของบริษัท อย่างไรก็ดี หากบริษัทมีพัฒนาการที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญใดๆ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบ และจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ 6 มิ.ย. 66 OTO ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า คณาวุฒิ วรรทนธีรัช ได้ทำหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2566