ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดในปัจจุบัน ส่งผลต่ออุณหภูมิภายในบ้านที่สูงขึ้น หลายครัวเรือนจึงต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ พัดลมและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ เพื่อคลายร้อนซึ่งอาจส่งผลต่อค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการประหยัดไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญบทความนี้ขอเสนอเทคนิคการประหยัดไฟในช่วงหน้าร้อน จากทาง
หน้าร้อนนี้ คลายร้อนไปด้วยกัน กับทริคประหยัดไฟแบบง่ายๆ
หน้าร้อนปีนี้ ร้อนแรงเกินต้านทาน! อุณหภูมิที่พุ่งสูงปรี๊ด ส่งผลต่ออุณหภูมิภายในบ้านให้ร้อนอบอ้าว เผลอ ๆ เหงื่อไหลไคลจนต้องเปิดแอร์คลายร้อน แต่เดี๋ยวก่อน! ค่าไฟพุ่งสูงตอนสิ้นเดือนนี่สิ จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถ ประหยัดค่าไฟ ได้แบบง่าย ๆ เย็นสบาย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟแพง ๆ โดยการไฟฟ้า หน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ ประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ขอส่งต่อความห่วงใย พร้อมเทคนิคประหยัดไฟแบบง่าย ๆ ที่คุณเองก็ทำได้ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
เคล็ดลับคลายร้อน ประหยัดไฟ สบายกระเป๋า ในหน้าร้อนนี้
- เปิดทางให้อากาศร้อนออกก่อนเปิดแอร์ : เปิดประตูหน้าต่างระบายความร้อนก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศ ช่วยให้แอร์ทำงานไม่หนัก ประหยัดไฟมากขึ้น
- ปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 26 องศา : รู้หรือไม่ว่า การปรับอุณหภูมิแอร์เพิ่มขึ้น 1 องศา กินไฟเพิ่ม 10% ดังนั้น ปรับแอร์ที่ 26 องศา เย็นสบาย ประหยัดไฟ ปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง 1 ชั่วโมง ประหยัดไฟอีก แต่ถ้าอยากเย็นฉ่ำ เปิดพัดลมช่วยได้
- ล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง หรือทุกๆ 6 เดือน : แอร์สะอาด ทำงานดี ประหยัดไฟ ล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง ช่วยให้อากาศเย็นสบาย ประหยัดไฟ เพราะเมื่อแอร์ผ่านการใช้งานไปนาน ๆ แม้เปิดในอุณหภูมิที่ต่ำแล้ว แต่ผู้ใช้งานยังไม่รู้สึกเย็น เพราะภายในแอร์มีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกสะสมอยู่ ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น การล้างแอร์ทุก 6 เดือน จึงทำให้แอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปล่อยลมเย็นได้เหมือนเดิม ประหยัดค่าไฟได้มากถึง 10%
- ตู้เย็น ปิด-เปิด ให้น้อยที่สุด : ปิด-เปิดตู้เย็นบ่อย ๆ กินไฟ จัดของในตู้เย็นให้เป็นระเบียบ ช่วยให้อากาศเย็นทั่วถึง ประหยัดไฟ
- ทำความสะอาดตู้เย็น เป็นประจำ : ลองนึกภาพ ตู้เย็นของคุณเหมือนบ้านถ้าบ้านรก อากาศถ่ายเทไม่สะดวกแอร์ก็เย็นช้า กินไฟมาก ตู้เย็นก็เช่นกัน ถ้าตู้เย็นรกอากาศถ่ายเทไม่สะดวกตู้เย็นก็ทำงานหนักกินไฟมาก ดังนั้น ควรเคลียร์อาหารเก่าเก็บ เน่าเสีย ออกจากตู้เย็น ช่วยให้ตู้เย็นมีพื้นที่ว่าง อากาศถ่ายเทสะดวก แอร์เย็นทั่วถึง ประหยัดไฟ และหมั่นกดละลายน้ำแข็ง ในช่องฟรีซ ป้องกันไม่ให้น้ำแข็งเกาะหนา ตู้เย็นทำงานหนัก กินไฟมาก
- ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า ถอดปลั๊ก เมื่อไม่ใช้งาน : ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า ถอดปลั๊กทุกครั้ง ช่วยประหยัดไฟ ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร เครื่องใช้ไฟฟ้าเสื่อม
- ลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกัน : ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกัน กินไฟ ร้อนอบอ้าว ประหยัดไฟ เย็นสบาย ปลอดภัย
- ปลูกต้นไม้ใหญ่ สร้างร่มเงา : ปลูกต้นไม้ใหญ่ ช่วยลดความร้อน ประหยัดไฟ เย็นสบาย ธรรมชาติ
- เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : หลอดไฟ LED สว่างกว่า กินไฟน้อยกว่า ประหยัดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ประหยัดไฟมากที่สุด
รู้หรือไม่ว่า ช่วงเวลาที่ปริมาณการใช้ไฟน้อย อยู่ราว 22.00-06.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนกำลังนอนหลับ ดังนั้นการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลานี้ จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามี กำลังไฟเต็ม ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ใช้เวลาในการทำงานน้อยลง ประหยัดไฟบ้านได้อีกหลายบาท เลยทีเดียว
6 สิ่งที่ควรทำ และ สิ่งที่ไม่ควรทำ สำหรับการประหยัดไฟ
สิ่งที่ควรทำ | สิ่งที่ไม่ควรทำ |
ล้างแอร์เป็นประจำทุก 6 เดือน |
ซื้อแอร์มา 3 ปี ไม่เคยล้าง ยังพอใช้ได้อยู่
|
ใช้หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานนาน แถมกินไฟน้อยกว่า |
ใช้หลอดไส้ ราคาถูก หลอดขาดไวก็ซื้อใหม่ได้
|
ปิดไฟในห้องที่ไม่ใช้งาน |
เปิดไฟทิ้งไว้ทั่วบ้าน อุ่นใจ ไล่ผี
|
ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน |
เสียบปลั๊กค้างไว้ จะได้ไม่ต้องมาคอยเสียบบ่อยๆ
|
จัดระเบียบตู้เย็น ไม่ให้ใส่ของแน่นจนเกินไป |
ใส่ของไปเลยแน่นๆ อาหารร้อนๆ แช่ตู้เย็นเลยเพราะกลัวลืม
|
เปิดแอร์ 26 องศา พร้อมเปิดพัดลมคู่กัน |
เปิดแอร์ 15 องศา ซ้อมอยู่ต่างประเทศ
|
เปิดแอร์แบบยาว ๆ หรือ เปิดๆ ปิดๆ แบบไหนกินไฟมากกว่ากัน?
หลายคนคงเคยสงสัยว่า เปิดแอร์ยาวๆ กับ เปิดๆ ปิดๆ แบบไหนกินไฟมากกว่ากัน บางคนเชื่อว่าการเปิดแอร์ทั้งวันอาจทำให้กินไฟจึงเลือกที่จะเปิดไว้สักพักแล้วปิด เพราะคิดว่าเป็นการประหยัดไฟ แต่ความจริงแล้ว การเปิดๆ ปิดๆ แอร์บ่อยๆ ไม่ได้ช่วยประหยัดไฟ แถมยังอาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียได้อีกด้วย
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เมื่อเริ่มเปิดแอร์ มอเตอร์จะทำงานหนัก ใช้พลังงานสูง เพื่อปรับอุณหภูมิภายในห้องให้เย็นลง และเมื่อปิดแอร์ มอเตอร์จะหยุดทำงาน แต่ระบบไฟฟ้าภายในแอร์ยังคงทำงานอยู่ และหากเปิดแอร์อีกครั้ง มอเตอร์จะทำงานหนักอีกครั้ง เพื่อปรับอุณหภูมิภายในห้องให้เย็นลง
ดังนั้น การเปิดๆ ปิดๆ แอร์บ่อยๆ มอเตอร์จะทำงานหนักบ่อย ใช้พลังงานสูงบ่อย ส่งผลให้กินไฟมากกว่า และอาจทำให้มอเตอร์เสื่อมสภาพเร็วลง อายุการใช้งานของแอร์สั้นลง
แล้วควรเปิดแอร์แบบไหนดี ?
- กรณีที่ต้องการเย็นสบายตลอด: ควรเปิดแอร์ทิ้งไว้ทั้งวัน แต่ควรตั้งอุณหภูมิที่ไม่เย็นจนเกินไป ประมาณ 26-27 องศาเซลเซียส
- กรณีที่ไม่อยู่ห้อง: ควรปิดแอร์ ถอดปลั๊ก เพื่อประหยัดไฟ
- กรณีที่ต้องการประหยัดไฟ: ควรใช้พัดลมร่วมกับแอร์ ช่วยให้อากาศเย็นสบาย ประหยัดไฟ
วิธีเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดไฟ
หัวใจสำคัญของการประหยัดไฟคือการเลือกใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ควบคู่กับการ ประหยัดพลังงาน ซึ่ง ฉลากเบอร์ 5 แบบใหม่ 5 ดาว จะช่วยให้คุณเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
ฉลากเบอร์ 5 แบบใหม่ มีการแบ่งเกณฑ์ประสิทธิภาพเป็น 1-5 ดาว ยิ่งดาวมาก ยิ่งประหยัดไฟมาก นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์แสดงปริมาณการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สัญลักษณ์กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ QR Code ที่ให้ข้อมูลการใช้งาน ติดตั้ง บำรุงรักษา ช่องทางบริการหลังการขาย ครบครัน
การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ควบคู่กับมาตรการประหยัดพลังงาน 5ป. จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 45% เลยทีเดียว คุ้มค่า ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ รับรองว่าคุณจะประหยัดค่าไฟ คลายร้อนในหน้าร้อนนี้ แถมยังเป็นการช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย ง่าย ๆ แค่ปรับนิดเปลี่ยนหน่อย เย็นสบาย ประหยัดเงิน โลกของเราก็สดใสขึ้นได้