การเงิน

กูรูฟันธงเฟดคงดอกเบี้ย 5.25-5.50% จากเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว

30 ต.ค. 66
กูรูฟันธงเฟดคงดอกเบี้ย 5.25-5.50% จากเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. 2566 นักลงทุนต่างรอผลประชุมของเฟดจะมีมติเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายและมุมมองของเฟดถึงทิศทางเศรษฐกิจสหรัรัฐรวมถึงทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป ต่อปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งภูมิรัฐศาสตร์ สถานการณ์สงครามในฉยนวนกาซา ประเทศอิสราเอลที่ดูทีท่าจะยังไม่จบง่ายๆ 

SPOTLIGHT จะมาดูมุมมองของเหล่ากูรูเศรษฐกิจมีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร?

โดยกูรูได้มองไปทิศทางเดียวกันว่า การประชุมของเฟดครั้งนี้ จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% เพื่อรอดูอัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจในช่วงต่อไป เพราะขณะนี้เห็นว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลง ทำให้เฟดสามารถคลายกังวลความเสี่ยงเงินเฟ้อไปได้บ้าง 

รวมถึง เฟดอาจจะยังคงส่งสัญญาณย้ำจุดยืน ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อ เพื่อให้มั่นใจว่า เงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่เป้าหมายได้อย่างยั่งยืน และเฟดน่าจะย้ำว่า เฟดจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง

“ผู้เล่นในตลาดให้โอกาสเฟด คงดอกเบี้ย ถึง 97% ทำให้ยิ่งมั่นใจว่า เฟดคงไม่ดำเนินนโยบายสวนทางตลาด ซึ่งจะสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินโดยไม่จำเป็น และยังคงมองว่า เฟดน่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยลงได้ในช่วงไตรมาสแรก หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงหนัก และเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ ในช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน และสงคราม น่าจะทำให้ เฟดยังไม่ปรับนโยบายการเงิน และคอยจับตาดูไปก่อน ” นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวกับ SPOTLIGHT 

นอกจากนี้ ภาวะการเงิน ก็มีการตึงตัวขึ้นมาก ตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และการปรับฐานของตลาดหุ้น อีกทั้ง ภาวะสินเชื่อ ก็ยังคงตึงตัวอย่างต่อเนื่องตามผลของการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เฟดอาจจะยังคงส่งสัญญาณย้ำจุดยืน ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อ เพื่อให้มั่นใจว่า เงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่เป้าหมายได้อย่างยั่งยืน และเฟดน่าจะย้ำว่า เฟดจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง

แต่หาก สถานการณ์บานปลาย จนมีผลทำให้ ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น และอาจอยู่ในระดับสูง เช่น เกิน 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้นานไม่น้อยกว่า 3 เดือน มองว่า ในกรณีนี้ เฟดอาจจำเป็นต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ครับ

มองเฟดสิ้นสุดวัฎจักรขึ้นดอกเบี้ยแล้ว!

FOME

ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เฟดอาจยังคงเปิดโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ในคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า (Fed Dot Plot) จากการประชุมครั้งก่อนหน้า หากเงินเฟ้อกลับมาเร่งตัวสูงขึ้น จากการส่งสัญญาณของเฟดก่อนหน้านี้ เงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 2.0% อย่างมีนัยสำคัญ และตลาดแรงงานที่ยังสะท้อนภาพแข็งแกร่งต่อเนื่อง 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อไปแตะระดับสูงสุดที่ 5.50-5.75% หากเงินเฟ้อสหรัฐฯ กลับมาเร่งตัวสูงขึ้นท่ามกลางความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่มีความผันผวน ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศที่ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง 

อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองความน่าจะเป็นต่อกรณีนี้ค่อนข้างต่ำ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงให้น้ำหนักมากสุดต่อกรณีเฟดสิ้นสุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบวัฏจักรนี้และคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.50% ไปจนถึงสิ้นปีนี้เป็นอย่างน้อย

ขณะที่ เมื่อมองไปข้างหน้า เฟดมีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยสูงและนานกว่าที่คาด (Higher for longer) หากเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าปรับลดลงช้าและหากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงไม่ชะลอตัวลงอย่างที่คาด โดยเฟดอาจพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้าไปแล้ว ซึ่งจังหวะการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายคงขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ออกมาเป็นสำคัญ 

ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินสหรัฐฯ ค่าเงินบาทของไทยมีแนวโน้มที่จะยังเผชิญความผันผวนต่อไปในระยะข้างหน้า โดยหากเฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าคาดหรือคงดอกเบี้ยนโยบายยาวนานกว่าคาด ค่าเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ฯ ได้



advertisement

SPOTLIGHT