การเงิน

เช็กที่นี่! อัตราดอกเบี้ยแบงก์ ทั้งเงินกู้ เงินฝาก ล่าสุด

6 ต.ค. 66
เช็กที่นี่! อัตราดอกเบี้ยแบงก์ ทั้งเงินกู้ เงินฝาก ล่าสุด

อัตราดอกเบี้ยแบงก์ของไทย โดยเฉพาะแบงก์พาณิชย์ขนาดใหญ่ได้ทยอยปรับขึ้นมา ภายหลังกนง.มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 2.50% มีผลทันที เ โดยขึ้นดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ ขณะที่แบงก์รัฐต่างตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมจนถึงสิ้นปี เพื่อช่วยลดภาระ หรือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

แต่ละแบงก์อัตราดอกเบี้ยของแบงก์พาณิชย์จะปรับขึ้นเป็นเท่าไหร่กันบ้าง สามารถเช็กได้ที่นี่

SPOTLIGHT ได้รวบรวมให้แล้ว เช็กที่นี่!

959395

‘กรุงเทพ’ เงินฝาก 0.10%-0.25% และเงินกู้ 0.25%

ธนาคารกรุงเทพ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ ตามการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพต่อเนื่องในระยะยาว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2566

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ธนาคารประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้เพิ่มขึ้น 

โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับขึ้น    0.10-0.25% สำหรับบุคคลธรรมดา 

  • อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสะสมทรัพย์สูงสุด 0.55% ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน เป็น 1.20% ต่อปี 
  • อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน เป็น 1.25% ต่อปี 
  • อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน เป็น 1.60% ต่อปี เงินฝากประจำ 24 เดือน เป็น 2.00% ต่อปี 
  • เงินฝากประจำ 36 เดือน เป็น 2.10% ต่อปี 
  • เงินฝากสะสมทรัพย์ e-Saving วงเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็น 1.50% ต่อปี และวงเงินฝากส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท เป็น 0.65% ต่อปี

ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อปรับขึ้น 0.25% 

  • อัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ (MLR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) เป็น 7.10% ต่อปี 
  • อัตราดอกเบี้ยเอ็มโออาร์ (MOR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) เป็น 7.55% ต่อปี 
  • อัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ (MRR) หรืออัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) เป็น 7.30% ต่อปี

‘กรุงไทย’ ปรับดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.45 % ดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25%        

ธนาคารกรุงไทยได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ โดยปรับดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.45 % ดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% และยังยืนหยัดช่วยเหลือลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน

โดยธนาคารประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.10-0.45 % ต่อปี  เพื่อส่งเสริมวินัยการออม เพิ่มผลตอบแทนและรายได้ให้กับลูกค้าในภาวะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น สร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว  

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยสำหรับบุคคลธรรมดา ประเภทเงินฝากประจำ 24 เดือนเพิ่มขึ้นสูงสุด 0.45% เป็น  2.40% ต่อปี  และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 36 เดือน 0.30% เป็น 2.65% ต่อปี 

รวมถึง ฝากเงินผ่านช่องทางดิจิทัล ผ่านเงินฝาก Krungthai NEXT Savings เปิดบัญชีง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT อัตราดอกเบี้ย 1.50% 

ขณะที่ดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท เพิ่มขึ้น 0.25%  ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR)  อยู่ที่ระดับ 7.05% ต่อปี  อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) อยู่ที่ระดับ 7.52%  ต่อปี   และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย (MRR) อยู่ที่ระดับ 7.57% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป  

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เผยว่า “ธนาคารจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยคำนึงถึงผู้ฝากเงิน และพิจารณาอย่างรอบคอบถึงภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงปรับอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างเหมาะสม ควบคู่กับการดูแลลูกค้าให้สามารถปรับตัว สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ” 

นอกจากนี้ ธนาคารยืนหยัดดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งครัวเรือนบางส่วนที่ยังมีความเปราะบางจากภาระหนี้ที่สูงขึ้นและรายได้ฟื้นตัวช้า รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการ SME ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด 

โดยสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการความช่วยเหลือแบบเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลือแบบตรงจุดและทันท่วงทีและมาตรการช่วยเหลือพิเศษเพื่อแก้หนี้อย่างยั่งยืน 

อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะเสนอแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้และความเสี่ยงของลูกค้า  พร้อมดำเนินนโยบายด้านสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน

‘ไทยพาณิชย์’ ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.30% เงินกู้ 0.25%

ธนาคารไทยพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราสูงสุด 0.30% ต่อปี เพื่อช่วยส่งเสริมการออมเงินและช่วยให้ผู้ฝากเงินมีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MRR MLR และ MOR 0.25% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

ธนาคารปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัลและเงินฝากประเภทไม่มีสมุด รวมถึงเงินฝากประจำ โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.10% - 0.30% ต่อปี  และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อสะท้อนต้นทุนทางการเงินในระบบที่สูงขึ้น  

  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.05% เป็น 7.30% ต่อปี 
  • อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (Minimum Loan Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.80% เป็น 7.05% ต่อปี 
  • อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate)จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.325% เป็น 7.575% ต่อปี  

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เศรษฐกิจไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อแม้คาดว่าจะยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ก็น่าจะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้าจากปัจจัย ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน และเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง.  รวมถึงเป้าหมายของธนาคารที่จะเป็น Digital Bank with Human Touch”

อย่างไรก็ตาม ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และยังคงมาตรการพิเศษในการช่วยเหลือด้านต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีความเปราะบาง พร้อมคำนึงถึงศักยภาพและโอกาสในการปรับตัวของลูกค้าในอนาคต                                     

‘กสิกรไทย’ ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.40% เงินกู้ 0.25% 

ธนาคารปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ เงินฝากออมทรัพย์นิติบุคคล รวมถึงเงินฝากประจำ สูงสุด 0.40% เพื่อส่งเสริมการออม รวมถึงเพิ่มรายได้และกำลังซื้อให้กับลูกค้าของธนาคารในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ 0.25% เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยนโยบายและส่งเสริมเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะสมดุล

  • อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR)  เพิ่มจาก 7.02% เป็น 7.27%
  • อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เพิ่มจาก 7.34% เป็น 7.59%
  • อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เพิ่มจาก 7.05% เป็น 7.30%

โดยมีผลวันที่ 4 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

นายจงรัก รัตนเพียร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เผยว่า ธนาคารกสิกรไทยยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลและช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเปราะบางอย่างต่อเนื่อง โดยจะพิจารณามาตรการความช่วยเหลือให้เหมาะสมกับลูกค้าที่อาจได้รับผลกระทบและคำนึงถึงศักยภาพและโอกาสในการปรับตัวของลูกค้าในอนาคต โดยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถดำเนินการติดต่อผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคารได้

‘เอ็มบีธนชาต’ ปรับดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินกู้ สอดคล้องตามทิศทางของภาวะเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัว โดยธนาคารให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการออมเงิน ด้วยบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่หลากหลาย ครอบคลุมตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งเงินฝากประจำระยะสั้น และระยะยาว โดยปรับอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 2.25% และ 5.00% ต่อปี 

พร้อมปรับบัญชีออมทรัพย์ ทีทีบี มีเซฟ ที่เหมาะสมกับลูกค้าทุกคนส่งเสริมวินัยการออม ให้ดอกเบี้ยสูงสุดรวมโบนัส 2.20% ต่อปีตั้งแต่บาทแรกที่ฝาก ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปถึง 8.8 เท่า ด้านเงินกู้ประกาศพร้อมดูแลลูกค้าสินเชื่อทุกกลุ่มเน้นแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เผยว่า “ธนาคารได้พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งลูกค้าบุคคล และนิติบุคคล ทั้งนี้ยังเน้นส่งเสริมให้ลูกค้าออมเงินเพิ่มมากขึ้นผ่านบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่หลากหลาย ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกประเภท ทั้งบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากประจำระยะสั้น และระยะยาว” 

โดยธนาคารมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนี้

ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลูกค้าบุคคล

  • สำหรับลูกค้าที่ชอบการออมระยะสั้น บัญชีเงินฝากประจำพิเศษ ทีทีบี ดอกเบี้ยด่วน 12 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.45% เป็น 2.25% ต่อปี (รับดอกเบี้ยทั้งก้อนไปใช้ก่อน ใน 7 วันนับจากวันที่ฝากเงิน) 
  • สำหรับลูกค้าที่ชอบการออมระยะยาว บัญชีเงินฝากประจำพิเศษ ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ ที่ให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุก ๆ 6 เดือน และลูกค้าได้รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดอยู่ที่ 5.0% ต่อปี ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเงินฝากที่มุ่งเน้นการออมในบัญชีดอกเบี้ยสูงแต่ยังต้องการสภาพคล่อง เพราะถอนได้ก่อนกำหนด ไม่ถูกลดดอกเบี้ย และบัญชีเงินฝากประจำทั่วไป ทีทีบี ประเภท 24 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.35% เป็น 1.70% ต่อปี พร้อมรับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
  • สำหรับลูกค้าเสริมวินัยเก็บออม บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล ทีทีบี มีเซฟ ที่ไม่ต้องฝากประจำ ดูดอกเบี้ยสะสมได้ทุกวัน ปรับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดรวมโบนัสเพิ่มขึ้นเป็น 2.20% ต่อปีสำหรับยอดเงินฝากตั้งแต่บาทแรกถึง 100,000 บาท ซึ่งให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปถึง 8.8 เท่า โดยมีผลแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566  

ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลูกค้านิติบุคคล มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ดังนี้

  • สำหรับลูกค้าที่กำหนดระยะเวลาการฝากได้ชัดเจน
  • บัญชีเงินฝากประจำทั่วไป ทีทีบี ประเภท 24 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.80% เป็น 2.40% ต่อปี สำหรับกลุ่มลูกค้านิติบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน และ 2.10% ต่อปี สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงิน 
  • บัญชีเงินฝากประจำทั่วไป ทีทีบี ประเภท 36 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.80% เป็น 2.50% ต่อปี สำหรับกลุ่มลูกค้านิติบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน และ 2.20% ต่อปี สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงิน
  • สำหรับลูกค้าที่ต้องการระยะเวลาการฝากที่ยืดหยุ่น บัญชีเงินฝากประจำรูปแบบพิเศษ ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ ประเภท 24 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดอยู่ที่ 2.40% ต่อปี โดยปรับอัตราดอกเบี้ยช่วงเดือนที่ 1-6 เพิ่มขึ้น 0.40% เป็น 1.50% ต่อปี  ช่วงเดือนที่ 7-12 เพิ่มขึ้น 0.20% เป็น 1.80% ต่อปี  ช่วงเดือนที่ 13-18 เพิ่มขึ้น 0.40% เป็น  2.10% ต่อปี  และช่วงเดือนที่ 19-24 เพิ่มขึ้น 0.60% เป็น 2.40%  ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทนจากสภาพคล่องส่วนเกิน แต่ต้องการความยืดหยุ่นของระยะเวลาการฝาก ถอนได้ก่อนกำหนด โดยไม่ถูกลดดอกเบี้ย 

สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.25% สำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี MLR (Minimum Loan Rate) อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี MOR (Minimum Overdraft Rate) และอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี MRR (Minimum Retail Rate) โดยอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไปเช่นกัน

“ทีทีบีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อเป็นการขานรับนโยบายของกนง. โดยธนาคารยังคงให้การสนับสนุน ดูแลช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อที่อ่อนไหวและมีภาระหนี้ที่สูงขึ้น แนะนำให้ลูกค้าแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนผ่านโซลูชันรวบหนี้ และโซลูชันโอนยอดหนี้เพื่อให้ดอกเบี้ยต่ำลง ช่วยลดภาระดอกเบี้ย เพิ่มสภาพคล่อง ควบคู่กับแนะนำการให้ความรู้ทางการเงิน พร้อมกับการสนับสนุนการออมเงินเพื่อเป็นการสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และอนาคต ผ่านบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่หลากหลายของทีทีบี” นายปิติ กล่าว

‘กรุงศรี’ ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.30% และเงินกู้ 0.25%

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราสูงสุด 0.30% ต่อปี เพื่อช่วยส่งเสริมวินัยการออมและเพิ่มผลตอบแทนให้กับลูกค้า และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ต่อปี สอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งล่าสุดเ หลังจากทิศทางเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2566

กรุงศรีปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้

อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

  • สำหรับลูกค้ารายย่อยและนิติบุคคล เพิ่มขึ้น 0.10% - 0.30%

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้

  • สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) เพิ่มขึ้น 0.25% เป็น 7.280%
  • สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เพิ่มขึ้น 0.25% เป็น 7.575%
  • สำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เพิ่มขึ้น 0.25% เป็น 7.400%

โดยมีผลบังคับใช้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

 

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT