ข่าวเศรษฐกิจ

สินค้าไหนส่งออกดีสุด? ส่งออกไทย พ.ค.พุ่ง 7.2% มูลค่าสูงสุดรอบ 14 เดือน

23 มิ.ย. 67
สินค้าไหนส่งออกดีสุด? ส่งออกไทย พ.ค.พุ่ง 7.2% มูลค่าสูงสุดรอบ 14 เดือน

 

การส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคม 2567 ดูเริ่มเห็นมีแสงสว่างสดใสขึ้น เมื่อตัวเลขส่งออกพบว่า มียอดส่งออกในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ 26,219.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำมูลค่าสูงสุดในรอบ 14 เดือน และทำให้กลับมาเกินดุลการค้าในรอบ 5 เดือน 

โดยสินค้าไทยที่ส่งออกไปต่างประเทศสินค้าไหนส่งออกดี หนุนให้ไทยเกินดุลการค้า 

วันนี้ SPOTLIGHT จะพามาดูกันว่า สินค้าไหนส่งออกดี สินค้าไหนยังต้องหาทางเร่งยอดส่งออก

 

โดยภาพรวม การส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคม 2567 ขยายตัว 7.2%  มูลค่า 26,219.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือในรูปเงินบาท 960,220 ล้านบาท ทำให้ดุลการค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาเกินดุลในรอบ 5 เดือน เป็นเดือนแรกที่ส่งออกมากกว่านำเข้า ซึ่งสินค้าเกษตรเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เนื่องจากเป็นเดือนที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก จากภาคการผลิตโลกฟื้นตัว 

สินค้าที่ส่งออกดีสุดในเดือนพฤษภาคม 2567 ได้แก่

  • สินค้าเกษตร ที่กลับมาขยายตัว มูลค่า 3,155.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง +36.5% 
  • สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร มูลค่า 2,149.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น +0.8% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
  • สินค้าอุตสาหกรรม  มูลค่า 19,984.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น +4.6% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2

สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร: ขยายตัว 19.4%

สินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิเช่น

  • ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ขยายตัวในรอบ 4 เดือน เพิ่มขึ้น +128.0% ส่งออกไปยังตลาดจีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง เวียดนาม และญี่ปุ่น
  • ยางพารา ขยายตัว +7 เดือนต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น +46.6% ส่งออกไปยังตลาดจีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และเกาหลีใต้
  • ไก่แปรรูป  ขยายตัว +3 เดือนต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น +10.2% ส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ และแคนาดา
  • ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ขยายตัวในรอบ 7 เดือน เพิ่มขึ้น +95.7%
  • อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัว +8 เดือนต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น +39.2%
  • ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขยายตัว +8 เดือนต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น +8.8%
  • สิ่งปรุงรสอาหาร ขยายตัว +11 เดือนต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น +6.0%
  • นมและผลิตภัณฑ์นม ขยายตัว +14 เดือนต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น +16.7%
  • สินค้าอุตสาหกรรม: ขยายตัว 4.6%

สินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิเช่น 

  • เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 
  • เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 
  • เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 
  • ทองแดงและของทำด้วยทองแดง 
  • ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้

สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิเช่น 

  • ข้าว 
  • อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 
  • น้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
  • ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 
  • อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ 
  • เคมีภัณฑ์ 
  • พลาสติก

สำหรับตลาดส่งออกของไทย มีดังนี้ 

  • ตลาดหลัก: ขยายตัว 6.7% โดยขยายตัวต่อเนื่องในตลาดสหรัฐฯ CLMV อาเซียน สหภาพยุโรป แต่หดตัวในตลาดจีนและญี่ปุ่น
  • ตลาดรอง: ขยายตัว 14.4% โดยขยายตัวในตลาดทวีปออสเตรเลีย เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา รัสเซียและกลุ่ม CIS แต่หดตัวในสหราชอาณาจักร
  • ตลาดอื่นๆ: หดตัว 68.5%

โดยปัจจัยที่สนับสนันสำหรับให้การส่งออกของไทยขยายตัวได้ คือ 

  1. ผลไม้ไทยที่ทยอยออกผลผลิตเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น 
  2. กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าวัตถุดิบที่เกี่ยวเนื่องได้รับการสนับสนุนจากความต้องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยในภาคธุรกิจ
  3. ภารการผลิตโลกที่ขยายตัวในอัตราเร่ง โดยเฉพาะภาคการผลิตของประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทยอย่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงประเทศในเอเซีย

ขณะที่แนวโน้มการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2567 คาดว่า การส่งออกจะยังคงขยายตัวในช่วงที่เหลือของปี 2567 จากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเติบโต และความต้องการสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้ม แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น สงครามการค้า และความผันผวนของค่าเงิน ปัญหาภัยแล้งที่จะเข้ามากระทบต่อปริมาณการผลิตของภาคการเกษตร และสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศเมียนมาที่จะกระทบต่อเส้นทางการขนส่งของสินค้าไทย

advertisement

SPOTLIGHT