เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 21 พฤษภาคมอยู่ๆ ก็มีแรงซื้อเข้ามาที่ Ethereum มหาศาลจนราคาพุ่งขึ้นเกือบ 20% พร้อมทั้ง Bitcoin และ Altcoin หลายตัวก็ขึ้นตามๆ กันจน Market Cap ของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีกลับมาที่ 2.55 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง
สาเหตุของการขึ้นอย่างรุนแรงครั้งนี้มาจากที่ Eric Balchunas และ James Seyffart นักวิเคราะห์เกี่ยวกับ ETF ของ Bloomberg Intelligence ได้ออกมาทวีตว่าพวกเขาได้เปลี่ยนการคาดการณ์จากที่เคยคิดว่าในปีนี้ Spot Ethereum ETF จะมีโอกาสผ่านเพียง 25% นั้นเพิ่มขึ้นกลายเป็น 75% หลังจากจากพวกเขาได้รับรายงานว่าทาง ก.ล.ต. สหรัฐ หรือ The U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) อยู่ดีๆก็ให้ศูนย์ซื้อขายที่ต้องการเปิดซื้อขาย Spot Ethereum ETF ต่างๆ ได้แก่ Nasdaq, CBOE และ NYSE รีบแก้แบบฟอร์ม 19B-4 (Exchange Rule Changes) ในการจดทะเบียน Ethereum ETF
นอกจากนี้ Eric ยังบอกอีกว่าทาง US SEC ต้องการแบบฟอร์มดังกล่าวที่แก้ไขแล้วภายใน 10 โมงเช้าของวันถัดไปซึ่งเป็นอะไรที่ด่วนมาก สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า Spot Ethereum ETF มีแนวโน้มสูงขึ้นมากว่าจะได้รับการอนุมัติในปีนี้หรือไม่ก็เร็วๆนี้ ทำให้ตลาดตอบสนองในทิศทางบวกอย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดการพุ่งขึ้นของราคาดังที่กล่าวไปก่อนหน้านี้
และในวันที่ 24 พฤษภาคม ช่วงเวลาประมาณตี 4 ตามเวลาในบ้านเรา ทาง SEC ก็ได้อนุมัติเรียบร้อยตามคาด แต่ในตอนนี้เป็นการอนุมัติแค่ฟอร์ม 19B-4 เท่านั้น การที่จะผ่านไปสู่การซื้อขาย Spot Ethereum ETF ได้นั้นต้องได้รับการอนุมัติอีกหนึ่งแบบฟอร์มซึ่งก็คือ S-1 (Registration Statement) ที่เป็นแบบฟอร์มลงทะเบียนขออนุญาตเปิดซื้อขาย
ซึ่งทางฝั่งนักวิเคราะห์ของ Bloomberg มองว่า ถ้าหากฟอร์ม 19B-4 ได้รับการอนุมัติฟอร์ม S-1 ก็มีแนวโน้มสูงมากแทบจะ 100% ที่จะได้รับการอนุมัติต่อเช่นกันอยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วแค่นั้น โดยปกติแล้วขั้นตอนนี้จะใช้เวลาหลายเดือน อย่างในกรณีของ Spot Bitcoin ETF ก็ใช้เวลาประมาณ 90 วัน แต่ในกรณีของ Spot Ethereum ETF อาจเร็วกว่าที่ผ่านๆมาเพราะหลายๆ อย่างดูรีบไปหมด
จากสถานการณ์ตอนนี้ ถ้าเรามองว่า Spot Ethereum ETF ผ่านแน่ๆ นั่นหมายความว่าเมื่อ Spot Ethereum ETF ได้รับการอนุมัติแล้ว เงินมหาศาลจากทางฝั่ง Traditional Finance ก็มีแนวโน้มจะเข้ามาเช่นเดียวกับในกรณีของ Bitcoin หรืออาจมากกว่า Bitcoin ด้วยซ้ำเพราะการทำความเข้าใจ Ethereum ในมุมมองของสถาบันการเงินหรือนักลงทุนหุ้นจะเข้าใจได้ง่ายมากกว่า และด้วยความที่เป็น ETF ทำให้นักลงทุนไม่จำเป็นต้องวุ่นวายในการเปิด Exchange เรียนรู้เรื่อง Wallet, Address, Private/Public Key เป็นต้น
สำหรับในเรื่องของราคา Ethereum ในช่วงที่ตลาดรับรู้เรื่องการอนุมัติก็ค่อนข้างผันผวนมากและในระยะสั้นอาจลงได้อีกเนื่องจากนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ Sell on fact และแรงกดดันจาก Macroeconomics ยังคงอยู่ แต่ในภาพระยะยาวทางเราก็ยังคงมองบวก
เนื่องจากในปัจจุบัน Ethereum มี Market Cap อยู่ที่ประมาณ 440,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งเล็กกว่า Bitcoin ประมาณ 3 เท่า และEthereum ในปัจจุบันมี Total Supply ประมาณ 120,000,000 ETH โดยมี ETH อยู่ใน Exchange เพียงแค่ประมาณ 13% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 57,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งถ้ามีเงินไหลเข้ามาพอๆ กันก็สามารถดันราคาได้มากกว่าในกรณีของ Bitcoin
ทางเรามองว่าในช่วงระหว่างรอพิจารณาฟอร์ม S-1 ราคา Ethereum น่าจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นจากนักลงทุนที่ต้องการ Front run สถาบันการเงินหรือกองทุนต่างๆ ที่จะไหลเข้ามาหลังจากเปิดซื้อขาย
สำหรับในฝั่ง Altcoin ที่เกี่ยวข้องกับ Ethereum ก็น่าจะได้ประโยชน์เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่าง เช่น
- เหรียญกลุ่ม Liquid Staking/Restaking เช่น LIDO (LDO), Etherfi (ETHFI)
- เหรียญกลุ่ม Scaling Solution ของ Ethereum ที่ Underperform หนักมากในช่วงที่ผ่านมาและอยู่ในจุดที่ Risk/Reward ค่อนข้างน่าสนใจ เช่น Arbitrum (ARB), Optimism (OP)
ส่วนสาเหตุของการกลับลำของ ก.ล.ต. สหรัฐ ครั้งนี้ไม่มีใครรู้แน่ชัด แต่เป็นไปได้สูงว่าอาจเป็นเพราะเรื่องของการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยพรรค Democrat ของฝั่ง Joe Biden ยังไม่มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับคริปโทฯ เหมือนที่พรรค Republican ของ Donald Trump ที่หลังๆมานี้ทาง Trump ได้ออกมาพูดเชิงสนับสนุนคริปโทฯ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากขึ้น