ปตท.ผู้ประกอบกิจการด้านพลังงานรายใหญ่สุดของไทยโชว์กำไรปี 2566 ที่ 112,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% ทำไมกำไรถึงสูงได้ขนาดนี้ มาจากอะไร แล้วกำไรที่ได้นั้นเขาเอาไปทำอะไรบ้าง? ทิศทางของปตท.จะเดินหน้าไปอย่างไร?
วันนี้ SPOTLIGHT จะพาดูผลประกอบการของปตท.ในปี 2566 กันว่าเติบโตมาจากอะไร แผน 5 ปีนับจากนี้จะขยายการลงทุนไปอย่างไร รวมถึงกำไรที่ได้จัดสรรไปไหนบ้าง ใครบ้างที่ได้ประโยชน์
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานปี 2566 ดังนี้
- กำไรสุทธิ 112,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.9%
- ยอดขาย 3,144,551 ล้านบาท ลดลง 6.6%
- EBITDA 426,895 ล้านบาท ลดลง 13.1%
- ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนกำไร 4,000 ล้านบาท
โดยกำไรสุทธิปี 2566 ที่เพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากการขาดทุนตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าในปี 2566 รวมถึง กลุ่ม ปตท. ในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 13,000 ล้านบาท แม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) ของกลุ่ม ปตท. ปรับลดลง มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย ลงทุนต่อเนื่อง เสริมความมั่นคงประเทศ นำเงินส่งรัฐกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ที่มีกำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ลดลงจากปี 2565
ในปี 2566 กลุ่ม ปตท. มีผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้น ตามทิศทางราคาน้ำมันที่ลดลง รวมทั้งผลการดำเนินงานของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมปรับลดลงจากราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายเฉลี่ยลดลง ประกอบกับกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ มีผลการดำเนินงานลดลง
กำไรของปตท.มาจากธุรกิจอะไรบ้าง
สัดส่วนกำไรของปตท.ส่วนใหญ่มาจากการลงทุนของบริษัทในกลุ่ม ปตท. ซึ่งเป็นธุรกิจที่แข่งขันเสรีทั้งในและต่างประเทศ โดยจะมาจากธุรกิจที่ปตท.ดำเนินการเอง 22% และอีก 78% มาจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทลูกที่ ปตท.ถือหุ้นทางตรงกว่า 38 บริษัท โดยแบ่งตามประเภทธุรกิจได้ ดังนี้
- ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 45%
- ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น 9%
- ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน และบริษัทย่อยอื่น ๆ 17% ซึ่งมีผลการดำเนินงานจากธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น จากบริษัท Avaada Energy Private Limited (Avaada) ที่มีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศอินเดีย และจากบริษัท Lotus Pharmaceutical Company Limited (Lotus) ที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยาสามัญ ในประเทศไต้หวัน
- กลุ่มธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก 7% ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ Non-Oil เช่น กาแฟ และร้านสะดวกซื้อ ที่มีกำไรต่อรายได้แค่เพียง 1%
- ธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจการค้าระหว่างประเทศของ ปตท. เพียง 22%
กำไรปี 2566 ของ ปตท. เอาไปทำอะไร?
ปี 2566 ปตท.มีกำไรสุทธิ 112,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% กำไรที่ได้เอาไปทำอะไรบ้าง แบ่งเป็น ดังนี้
- 23% นำเงินกลับคืนรัฐ ในรูปแบบปันผลของกระทรวงการคลัง และกองทุนวายุภักดิ์
- 27% นำส่งรัฐในรูปแบบภาษีเงินได้
- 36% ลงทุนสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
- 14% ปันผล ให้แก่ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ กว่าแสนราย
ทั้งนี้ ในปี 2566 กลุ่ม ปตท.ได้นำเงินส่งรัฐ รวมแล้ว 78,009 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินปันผลส่งเข้ากระทรวงการคลังและกองทุนวายุภักดิ์ จำนวน 36,144 ล้านบาท ภาษีเงินได้บริษัทในเครือ 35,642 ล้านบาท และภาษีเงินได้ของปตท. 6,223 ล้านบาท
ปตท.จ่ายปันผลงวดปี 2566 อัตรา 2.00 บาท/หุ้น
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ปตท. มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท โดยได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.80 บาท เมื่อกันยายน 2566 คงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 1.20 บาท ซึ่งกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่และกองทุนวายุภักษ์รับปันผลรวมประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท และเมื่อรวมกับภาษีเงินได้นิติบุคคลของ ปตท. และบริษัทในเครือ อีกประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท รวมกลุ่ม ปตท. นำส่งรายได้จากการดำเนินธุรกิจปี 2566 ให้กับรัฐแล้วประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท
ปตท.ร่วมขับเคลื่อนความยั่งยืน
ในปี 2566 ที่ผ่านมา ปตท. มีส่วนร่วมสร้างเสถียรภาพทางพลังงาน จุดพลังพัฒนาคุณภาพชีวิต ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ด้านพลังงานแห่งอนาคตมีการต่อยอดสถานีเชื้อเพลิงไฮโดรเจน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ให้รองรับรถบรรทุกขนส่งและรถหัวลาก จัดตั้งโรงงาน NV Gotion ผลิตชุดแบตเตอรี่ ร่วมกับ KYMCO Group จัดตั้ง Aionex จำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพิ่มจุดติดตั้ง EV Charging Station แบรนด์ on-ion ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
ด้านธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน NRPT เปิดตัว Plant & Bean ประเทศไทย โรงงานรับจ้างผลิตโปรตีนพืช 100% ที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหารระดับโลก BRCGS Plant-based ที่แรก และใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Innobic Nutrition เปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย
สำหรับในด้านธุรกิจโลจิสติกส์ เปิดการขนส่งสินค้าทางรางเส้นทาง ไทย-ลาว-จีน เชื่อมโยงระบบขนส่งไทยและภูมิภาคอาเซียน และเตรียมงบลงทุน ประจำปี 2567 – 2571 จำนวน 89,203 ล้านบาท มุ่งผลักดันเศรษฐกิจประเทศให้เดินหน้า
ด้านสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ปตท. ปลูกป่าไปแล้วทั้งสิ้น 86,173 ไร่ ใน 25 จังหวัด กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น เสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน ผ่านโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้มที่ได้นำองค์ความรู้และนวัตกรรมของกลุ่ม ปตท. ถ่ายทอดให้แก่ชุมชนเกษตรกรรมใน 45 พื้นที่ 29 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเพิ่มรายได้ชุมชนกว่า 31.59 ล้านบาท และโครงการสานพลังวิสาหกิจเพื่อสังคมที่สามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการฯ อีกกว่า 5.75 ล้านบาท
รวมถึง โครงการลมหายใจเดียวกันและลมหายใจเพื่อน้อง การสำรองน้ำมัน 4 ล้านบาร์เรล การตรึงราคา NGV การช่วยเหลือราคา LPG แก่หาบเร่แผงลอยผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การสนับสนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมัน การขยายเครดิตเทอมแก่ กฟผ. เป็นต้น คิดเป็นมูลค่าการช่วยเหลือตั้งแต่ปี 2563 - 2566 รวมแล้วกว่า 31,060 ล้านบาท
เงินลงทุน 5 ปี (2467-2571) รวม 89,203 ล้านบาท
ปตท.เตรียมเงินลงทุน 5 ปี (2467-2571) รวม 89,203 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านโครงการต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ดังนี้
- ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ จำนวน 30,636 ล้านบาท คิดเป็น 34% ของเงินลงทุน
- ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ จำนวน 14,934 ล้านบาท คิดเป็น 17%
- ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและปิโตรเลียมขั้นปลาย จำนวน 3,022 ล้านบาท คิดเป็น 4%
- ลงทุนในบริษัทที่ ปตท.ถือหุ้น 100% จำนวน 27,822 ล้านบาท คิดเป็น 31%
- ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานและสำนักงานใหญ่ จำนวน 12,789 ล้านบาท คิดเป็น 14%
อาทิเช่น
- โรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 7 เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 1
- โรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 8
- โครงการท่อส่งก๊าซฯ บางปะกง-โรงไฟฟ้าพระนครใต้
- โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5
- โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
- โรงงานประกอบแบตเตอรี
- ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3
- ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3