ธุรกิจการตลาด

ปตท.กำไรปี 66 พุ่ง 112,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เอาเงินกำไรไปทำอะไร?

16 ก.พ. 67
ปตท.กำไรปี 66 พุ่ง 112,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เอาเงินกำไรไปทำอะไร?

ปตท.ผู้ประกอบกิจการด้านพลังงานรายใหญ่สุดของไทยโชว์กำไรปี 2566 ที่ 112,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% ทำไมกำไรถึงสูงได้ขนาดนี้ มาจากอะไร แล้วกำไรที่ได้นั้นเขาเอาไปทำอะไรบ้าง? ทิศทางของปตท.จะเดินหน้าไปอย่างไร?

วันนี้ SPOTLIGHT จะพาดูผลประกอบการของปตท.ในปี 2566 กันว่าเติบโตมาจากอะไร แผน 5 ปีนับจากนี้จะขยายการลงทุนไปอย่างไร รวมถึงกำไรที่ได้จัดสรรไปไหนบ้าง ใครบ้างที่ได้ประโยชน์

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานปี 2566 ดังนี้

  • กำไรสุทธิ                     112,024  ล้านบาท  เพิ่มขึ้น  22.9%
  • ยอดขาย                   3,144,551  ล้านบาท  ลดลง      6.6%
  • EBITDA                     426,895  ล้านบาท  ลดลง   13.1%
  • ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน        2,000   ล้านบาท  จากปีก่อนกำไร 4,000 ล้านบาท

โดยกำไรสุทธิปี 2566 ที่เพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากการขาดทุนตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าในปี 2566 รวมถึง กลุ่ม ปตท. ในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 13,000 ล้านบาท แม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) ของกลุ่ม ปตท. ปรับลดลง มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย ลงทุนต่อเนื่อง เสริมความมั่นคงประเทศ นำเงินส่งรัฐกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ที่มีกำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ลดลงจากปี 2565 

ในปี 2566 กลุ่ม ปตท. มีผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้น ตามทิศทางราคาน้ำมันที่ลดลง รวมทั้งผลการดำเนินงานของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมปรับลดลงจากราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายเฉลี่ยลดลง ประกอบกับกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ มีผลการดำเนินงานลดลง 

ปตท.

กำไรของปตท.มาจากธุรกิจอะไรบ้าง 

สัดส่วนกำไรของปตท.ส่วนใหญ่มาจากการลงทุนของบริษัทในกลุ่ม ปตท. ซึ่งเป็นธุรกิจที่แข่งขันเสรีทั้งในและต่างประเทศ โดยจะมาจากธุรกิจที่ปตท.ดำเนินการเอง 22% และอีก 78% มาจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทลูกที่ ปตท.ถือหุ้นทางตรงกว่า 38 บริษัท โดยแบ่งตามประเภทธุรกิจได้ ดังนี้

  1. ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 45% 
  2. ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น 9% 
  3. ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน และบริษัทย่อยอื่น ๆ 17% ซึ่งมีผลการดำเนินงานจากธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น จากบริษัท Avaada Energy Private Limited (Avaada) ที่มีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศอินเดีย และจากบริษัท Lotus Pharmaceutical Company Limited (Lotus) ที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยาสามัญ ในประเทศไต้หวัน 
  4. กลุ่มธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก 7% ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ Non-Oil เช่น กาแฟ และร้านสะดวกซื้อ ที่มีกำไรต่อรายได้แค่เพียง 1% 
  5. ธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจการค้าระหว่างประเทศของ ปตท. เพียง 22%

1628326

กำไรปี 2566 ของ ปตท. เอาไปทำอะไร?

ปี 2566 ปตท.มีกำไรสุทธิ 112,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% กำไรที่ได้เอาไปทำอะไรบ้าง แบ่งเป็น ดังนี้ 

  1. 23% นำเงินกลับคืนรัฐ ในรูปแบบปันผลของกระทรวงการคลัง และกองทุนวายุภักดิ์
  2. 27% นำส่งรัฐในรูปแบบภาษีเงินได้
  3. 36% ลงทุนสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
  4. 14% ปันผล ให้แก่ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ กว่าแสนราย

ทั้งนี้ ในปี 2566 กลุ่ม ปตท.ได้นำเงินส่งรัฐ รวมแล้ว 78,009 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินปันผลส่งเข้ากระทรวงการคลังและกองทุนวายุภักดิ์ จำนวน 36,144 ล้านบาท ภาษีเงินได้บริษัทในเครือ 35,642 ล้านบาท และภาษีเงินได้ของปตท. 6,223 ล้านบาท 

ปตท.จ่ายปันผลงวดปี 2566 อัตรา 2.00 บาท/หุ้น

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ปตท. มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท โดยได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.80 บาท เมื่อกันยายน 2566 คงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 1.20 บาท ซึ่งกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่และกองทุนวายุภักษ์รับปันผลรวมประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท และเมื่อรวมกับภาษีเงินได้นิติบุคคลของ ปตท. และบริษัทในเครือ อีกประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท รวมกลุ่ม ปตท. นำส่งรายได้จากการดำเนินธุรกิจปี 2566 ให้กับรัฐแล้วประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท 

ปตท.

ปตท.ร่วมขับเคลื่อนความยั่งยืน 

ในปี 2566 ที่ผ่านมา ปตท. มีส่วนร่วมสร้างเสถียรภาพทางพลังงาน จุดพลังพัฒนาคุณภาพชีวิต ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ด้านพลังงานแห่งอนาคตมีการต่อยอดสถานีเชื้อเพลิงไฮโดรเจน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ให้รองรับรถบรรทุกขนส่งและรถหัวลาก จัดตั้งโรงงาน NV Gotion ผลิตชุดแบตเตอรี่ ร่วมกับ KYMCO Group จัดตั้ง Aionex จำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพิ่มจุดติดตั้ง EV Charging Station แบรนด์ on-ion ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 

ด้านธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน NRPT เปิดตัว Plant & Bean ประเทศไทย โรงงานรับจ้างผลิตโปรตีนพืช 100% ที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหารระดับโลก BRCGS Plant-based ที่แรก และใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Innobic Nutrition เปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย 

สำหรับในด้านธุรกิจโลจิสติกส์ เปิดการขนส่งสินค้าทางรางเส้นทาง ไทย-ลาว-จีน เชื่อมโยงระบบขนส่งไทยและภูมิภาคอาเซียน และเตรียมงบลงทุน ประจำปี 2567 – 2571 จำนวน 89,203 ล้านบาท มุ่งผลักดันเศรษฐกิจประเทศให้เดินหน้า  

ด้านสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ปตท. ปลูกป่าไปแล้วทั้งสิ้น 86,173 ไร่ ใน 25 จังหวัด กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น เสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน ผ่านโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้มที่ได้นำองค์ความรู้และนวัตกรรมของกลุ่ม ปตท. ถ่ายทอดให้แก่ชุมชนเกษตรกรรมใน 45 พื้นที่ 29 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเพิ่มรายได้ชุมชนกว่า 31.59 ล้านบาท และโครงการสานพลังวิสาหกิจเพื่อสังคมที่สามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการฯ อีกกว่า 5.75 ล้านบาท

รวมถึง โครงการลมหายใจเดียวกันและลมหายใจเพื่อน้อง การสำรองน้ำมัน 4 ล้านบาร์เรล การตรึงราคา NGV การช่วยเหลือราคา LPG แก่หาบเร่แผงลอยผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การสนับสนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมัน การขยายเครดิตเทอมแก่ กฟผ. เป็นต้น คิดเป็นมูลค่าการช่วยเหลือตั้งแต่ปี 2563 - 2566 รวมแล้วกว่า 31,060 ล้านบาท

ปตท.

เงินลงทุน 5 ปี (2467-2571) รวม 89,203 ล้านบาท 

ปตท.เตรียมเงินลงทุน 5 ปี (2467-2571) รวม 89,203 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านโครงการต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ดังนี้ 

  • ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ จำนวน 30,636 ล้านบาท คิดเป็น 34% ของเงินลงทุน
  • ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ จำนวน 14,934 ล้านบาท คิดเป็น 17%
  • ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและปิโตรเลียมขั้นปลาย จำนวน 3,022 ล้านบาท คิดเป็น 4%
  • ลงทุนในบริษัทที่ ปตท.ถือหุ้น 100% จำนวน 27,822 ล้านบาท คิดเป็น 31%
  • ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานและสำนักงานใหญ่ จำนวน 12,789 ล้านบาท คิดเป็น 14%

อาทิเช่น

  • โรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 7 เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 1
  • โรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 8
  • โครงการท่อส่งก๊าซฯ บางปะกง-โรงไฟฟ้าพระนครใต้
  • โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5
  • โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
  • โรงงานประกอบแบตเตอรี
  • ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3
  • ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 

 

advertisement

SPOTLIGHT