ธุรกิจการตลาด

เจาะกระแสความสำเร็จของธุรกิจ หมาล่า ที่แรงดีไม่มีผ่อน

22 ก.ย. 66
เจาะกระแสความสำเร็จของธุรกิจ หมาล่า ที่แรงดีไม่มีผ่อน
ไฮไลท์ Highlight

ช่วงนี้กระแสหม้อไฟหมาล่ากำลังมาแรงในไทย ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เห็นร้านหม้อไฟหมาล่าเต็มไปหมด หลายคนถึงกับต้องเช็กอินเทรนด์นี้ให้ได้ เพื่อลิ้มลองความเผ็ดร้อนอันเป็นเอกลักษณ์ของหม้อไฟหมาล่า แต่แท้จริงแล้ว หม้อไฟหมาล่ามีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน และทำไมถึงครองใจคนไทยในเวลานี้ วันนี้เราชาว spotlight จะพาท่านผู้อ่านไปเจาะถึงต้นกำเนิด กระแสความนิยมหมาล่าในไทย เคล็ดลับความสำเร็จของธุรกิจหม้อไฟหมาล่า รวมไปถึง กลยุทธ์การตลาดสำหรับธุรกิจหม้อไฟหมาล่าในปี 2024

เจาะกระแสความสำเร็จของธุรกิจ หมาล่า ที่แรงดีไม่มีผ่อน

 ธุรกิจหมาล่า

จุดเริ่มต้นของกระแสหมาล่าในประเทศไทยเกิดขึ้นในช่วงปี 2018 โดยร้าน "Hai Di Lao" ร้านหมาล่าหม้อไฟชื่อดังจากประเทศจีนที่เข้ามาเปิดสาขาที่ประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน ทำให้ตลาดร้านอาหารในประเทศไทยมีเมนูที่นำหมาล่าเข้ามาเป็นส่วนประกอบและก็ยังมีร้านหมาล่าหม้อไฟใหม่ ๆ เข้ามาลงเล่นในตลาดอีกด้วย ในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ เมื่อทุกคนมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่หมาล่าสายพาน ซึ่งร้านที่เป็นต้นกำเนิดหมาล่าสายพานที่ฮิตกันทั่วเมืองนั่นก็คือ "สุกี้จินดา" ร้านหมาล่าหม้อไฟที่เพิ่มสายพานเข้ามาเป็นกิมมิค และการกินหม้อไฟที่เป็นแบบหม้อเดี่ยวมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย โดยร้านคิดราคาเป็นไม้ไม้ละ 5 บาท ไปจนถึง 50 บาท จนหลายคนยอมต่อคิวรอเป็นชั่วโมงเพื่อให้ได้เข้าไปกิน ความนิยมของหมาล่าในประเทศไทยนั้นเกิดจากปัจจัยหลายประการ ประการแรกคือรสชาติที่เผ็ดชาอันเป็นเอกลักษณ์ของหมาล่า ซึ่งหลายคนชื่นชอบ ประการที่สองคือความหลากหลายของวัตถุดิบที่นำมาใช้ประกอบอาหารหมาล่า ซึ่งสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู ประการที่สามคือความคุ้มค่าของราคา โดยร้านหมาล่าหลายร้านมีโปรโมชั่นและส่วนลดมากมาย ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของหมาล่าในประเทศไทย คาดว่ากระแสหมาล่าฟีเวอร์จะยังคงร้อนแรงต่อไปอีกในระยะยาว

 

ทำไมเมนู หมาล่า ทำไมถึงครองใจคนไทย ได้อย่างรวดเร็ว

ธุรกิจหมาล่า

ด้วยรสชาติเผ็ดร้อน ชาลิ้น แต่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว จึงเป็นที่นิยมของคนไทยที่ชื่นชอบอาหารรสจัดจ้าน ลิ้นของคนไทยคุ้นชินกับการรับประทานอาหารในหลากหลายรสชาติ เนื่องมาจากวัฒนธรรมการกินของไทยได้รับอิทธิพลทั้งจากอาหารตะวันออกและตะวันตก เห็นได้จากร้านอาหารประเภทฟิวชันที่ได้รับความนิยม นอกจากนี้ คนไทยยังนิยมใช้สมุนไพรที่มีกลิ่นเฉพาะตัวเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หรือมะแขว่น ลูกระมาศ ซึ่งมีรสชาติคล้ายคลึงกับฮวาเจียว เครื่องเทศหลักของหมาล่า นอกจากนี้ อาหารไทยเองยังมีรสชาติครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเปรี้ยว เค็ม หวาน รวมไปถึงรสชาติขม และรสฝาด จึงทำให้คนไทยเคยชินกับการบริโภคอาหารทุกรสชาติ โดยเฉพาะอาหารที่ออกรสจัดจ้าน ด้วยปัจจัยเหล่านี้ จึงทำให้หมาล่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนไทย ในปัจจุบันมีร้านอาหารหมาล่าเปิดให้บริการในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ มีทั้งร้านอาหารแบบดั้งเดิมและแบบฟิวชันที่ปรับเปลี่ยนรสชาติให้เข้ากับคนไทยมากขึ้น

 

ธุรกิจหมาล่าในประเทศไทย มีกี่ชนิด

 ธุรกิจหมาล่า

สำหรับในปัจจุบันธุรกิจหมาล่าในประเทศไทยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

ธุรกิจหม้อไฟหมาล่า เป็นประเภทธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นร้านอาหารที่ให้บริการหม้อไฟหมาล่า โดยลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบต่างๆ มาปรุงในหม้อไฟที่มีน้ำซุปหมาล่า ธุรกิจหม้อไฟหมาล่าในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยๆ ดังนี้

  • หม้อไฟหมาล่าแบบดั้งเดิม เป็นหม้อไฟที่มีลักษณะคล้ายหม้อไฟจีนทั่วไป น้ำซุปมีรสเผ็ดชา นิยมใช้วัตถุดิบเนื้อสัตว์ ผัก และเต้าหู้
  • หม้อไฟหมาล่าแบบสายพาน เป็นหม้อไฟที่มีลักษณะคล้ายบุฟเฟต์ มีวัตถุดิบให้เลือกหลากหลาย ทั้งเนื้อสัตว์ ผัก อาหารทะเล และขนมหวาน น้ำซุปมีให้เลือกหลายรสชาติ เช่น เผ็ดชา เผ็ดหวาน เผ็ดเค็ม เป็นต้น

ธุรกิจอาหารหมาล่า เป็นประเภทธุรกิจที่ให้บริการอาหารหมาล่าแบบต่างๆ โดยลูกค้าสามารถเลือกรับประทานได้โดยไม่ต้องปรุงเอง ธุรกิจอาหารหมาล่าในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยๆ ดังนี้

  • ปิ้งย่างหมาล่า เป็นอาหารหมาล่าที่มีลักษณะคล้ายบาร์บีคิว นิยมใช้เนื้อสัตว์ ผัก และเห็ดมาย่างในกระทะที่มีน้ำมันหมาล่า
  • อาหารหมาล่าสำเร็จรูป เป็นอาหารหมาล่าที่ปรุงสำเร็จแล้ว นิยมรับประทานเป็นอาหารทานเล่นหรืออาหารหลัก

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจหมาล่าประเภทอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ธุรกิจเครื่องสำอางค์หมาล่า ธุรกิจเครื่องดื่มหมาล่า และธุรกิจสินค้าหัตถกรรมหมาล่า เป็นต้น

 

หมาล่า กระหึ่มโลกโซเชียล

 

โซเชียลมีเดีย

จำนวนข้อความ จำนวน Engagement
Facebook 455 175,225
Twitter 2,691 4,875
Instagram 281 95,804
YouTube 270 39,657
TikTok 210 10,000

 

จากการเก็บข้อมูลผ่านเครื่องมือ DXT360 เพื่อฟังเสียงในสังคมออนไลน์ (Social Listening) พบว่า ในช่วงวันที่ 31 สิงหาคม – 11 กันยายน 2566 มีการพูดถึงคำว่า "หมาล่า" บนโซเชียลมีเดียมากถึง 3,697 ข้อความ โดยมี Engagement มากถึง 315,561 ครั้ง 

จำนวนการพูดถึงที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่า หมาล่าเป็นเทรนด์อาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสังคมออนไลน์ โดยมีการพูดถึงในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวร้านอาหารหมาล่า การแชร์สูตรอาหารหมาล่า หรือแม้แต่การโพสต์ภาพถ่ายอาหารหมาล่า

 

ประเภทของ เมนู หมาล่า ที่คนไทยพูดถึงมากที่สุด

 

เมนู เปอร์เซนต์ (%) จำนวน Search
หมาล่าชาบูหม้อไฟ 60 360,000
สุกี้หมาล่า 30 180,000
หมาล่าสายพาน 20 120,000
หมาล่าแบบเสียบไม้ 10 60,000
หมาล่าแบบเผ็ดน้อย 5 30,000
หมาล่าแบบคีบ 5 30,000
หมาล่าแบบ Delivery 5 30,000

 

จากข้อมูลของเว็บไซต์ DXT360 พบว่า เมนูอาหารหมาล่าที่คนไทย Search หามากที่สุดแบบคิดเป็นเปอร์เซนต์และจำนวน Search ในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2566 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าคนไทยนิยมรับประทานหมาล่าชาบูหม้อไฟมากที่สุด โดยมีจำนวน Search สูงสุดถึง 360,000 ครั้ง รองลงมาคือสุกี้หมาล่า โดยมีจำนวน Search 180,000 ครั้ง โดยภาพรวมแล้ว เมนูอาหารหมาล่าที่คนไทย Search หามากที่สุดในเดือนสิงหาคมปี 2566 ยังคงเป็นเมนูหมาล่าชาบูหม้อไฟและสุกี้หมาล่า ซึ่งยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยหมาล่าสายพานก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าคนไทยเริ่มหันมาสนใจอาหารหมาล่าในรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น

นอกจากนี้ เมนูหมาล่าแบบ Delivery ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเป็นเมนูที่สะดวกและสามารถรับประทานได้ที่บ้าน จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าเมนูหมาล่าชาบูหม้อไฟมีจำนวน Search ลดลงจากเดือนก่อนหน้า อาจเป็นเพราะคนไทยเริ่มเบื่อหน่ายกับเมนูเดิมๆ และหันมาสนใจเมนูอื่นๆ มากขึ้น เช่น สุกี้หมาล่าและหมาล่าสายพาน

 

 

advertisement

SPOTLIGHT