ธุรกิจการตลาด

GRAMMY ผนึกกำลัง RS ตั้งบริษัทร่วมทุน ‘Across the Universe’

21 มี.ค. 66
GRAMMY ผนึกกำลัง RS ตั้งบริษัทร่วมทุน ‘Across the Universe’

GRAMMY และ RS สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการเพลงเมืองไทย ประกาศความร่วมมือ เตรียมจัดตั้ง ‘อะครอส เดอะ ยูนิเวิร์ส (Across the Universe)’ บริษัท Joint Venture ที่หยิบจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัทมาผนึกกำลังกัน เตรียมเขย่าวงการเพลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์เพลงไทย

Facebook ของ ‘ป๋าเต็ด’ ยุทธนา บุญอ้อม แง้มถึง ‘ปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์’ ที่จะมีหลากหลายคอนเสิร์ตเกิดขึ้น เป็นคอนเสิร์ตที่จะ ‘หยุดทุกคนเสิร์ต’ และให้แฟนเพลง GRAMMY - RS ทุกคน เตรียมซ้อมร้องเพลงรอไว้ให้พร้อม

 



ด้าน GRAMMY และ RS เผยว่า 28 มี.ค. นี้เตรียมเผยทุกรายละเอียด ทั้งที่เกี่ยวข้องกับที่มาและรูปแบบของความร่วมมือในครั้งนี้ เป้าหมาย ความคาดหวัง และโอกาสจากการจัดตั้งบริษัท JV อะครอส เดอะ ยูนิเวิร์ส โดยผู้บริหารจากทั้ง GMM MUSIC นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ GMM MUSIC และจากทาง RS นาย วิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน RS Group พร้อมจับมือ 29 ศิลปินจากทั้งทางฝั่ง GRAMMY และ RS มาร่วมพูดคุยในวันนี้

ก่อนหน้านี้แฟน GRAMMY และ RS ได้เห็นการ ‘ส่งซิก’ จากทางฝั่ง เฮียฮ้อ หรือ นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ RS Group ที่เมื่อช่วงเดือนม.ค. ที่ผ่านมา เผยว่า RS กำลังจะมีพาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญ่ที่ทุกคนจะต้องประหลาดใจ หลัง RS เผยว่าจะกลับมารุกธุรกิจเพลงจริงจัง ครั้งแรกในรอบ 15 ปี โดยตลอดช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ผู้บริหารจากทั้งฝั่ง GRAMMY และ RS ได้ให้สัมภาษณ์สื่อในทำนองคล้ายกันว่า ธุรกิจเพลงในยุคนี้ต้องเกื้อกูล และสนับสนุนกันทั้งค่ายเล็ก ค่ายใหญ่ ไม่ต้องแข่งขันอย่างดุเดือดเหมือนสมัยกับในสมัยก่อนอีกต่อไปแล้ว
 

สำหรับผลงานในปี 2565 ที่ผ่านมาของทั้งสองค่ายเพลงเบอร์ต้นของเมืองไทย เป็นดังนี้

GRAMMY

GMM


ปี 2565 กำไรสุทธิ 166.4 ล้านบาท ลดลง 66.5% รายได้รวม 5,319.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.7%รายได้มาจาก

1. ธุรกิจเพลง 47.4% ส่วนใหญ่รายได้มาจากธุรกิจบริหารศิลปินและธุรกิจโชวฺบิช ที่เติบโต 247% จากปีก่อน และรับรู้รายได้จากการจัดคอนเสิร์ต ทั้งหมด12 งาน เห็นได้ชัดว่าธุรกิจนี้กลับมาฟื้นตัวและดำเนินธุรกิจใกล้สภาวะปกติมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจดิจิทัลมิวสิคยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นแหล่งที่มาของรายได้ธุรกิจเพลงที่ใหญ่ที่สุด

2. ธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง 34.3% ธุรกิจนี้แข่งขันสูง และได้รับผลกระทบจาก Covid-19 แต่ยังรักษาฐานลูกค้า

3. ธุรกิจภาพยนตร์ 6.2% ปีนี้มีภาพยนตร์ออกฉายทั้งหมด 3 เรื่อง

4. ธุรกิจจัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวี 7.1%

5. ธุรกิจสื่อและอื่นๆ 5.0%

 

RS


RS


ปี 2565 กำไรสุทธิ 137.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% รายได้รวม 3,535.8 ล้านบาท ลดลง 1.1% รายได้มาจาก

1. ธุรกิจพาณิชย์ 49% จากการจำหน่ายสินค้า 2 แพลตฟอร์ม ได้แก่ RS Mall จำหน่ายสินค้าแบรนด์บริษัท และของพาร์ทเนอร์ ULife ธุรกิจขายตรง

2. ธุรกิจสื่อ 40% เม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัว พัฒนาคอนเทนต์บนเวที

3. ธุรกิจเพลงและอื่นๆ 11% จัดกิจกรรมและคอนเสิร์ตใหญ่ 2 คอนเสิร์ต
เป้าหมายปี 2566 ตั้งเป้ารายได้ที่ 5,500 ล้านบาท โดย RS ยังคงมุ่งดำเนินธุรกิจบน Entertainmerce model โดยเสริมสร้างการเติบโตทั้งธุรกิจคอมเมิร์ซ และเอ็นเตอร์เทนต์เมนท์ ด้วยกลยุทธ์ Mass-Accessible

ล่าสุด งานแถลงข่าว “GMM MUSIC X RS MUSIC” เกิดขึ้นในวันที่ 28 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเป็นการผนึกความร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งแรกของ 2 ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ GRAMMY เพื่อร่วมสร้างปรากฎการณ์ทางดนตรีครั้งประวัติศาสตร์เพลงไทยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

พร้อมด้วยตัวแทนศิลปินจาก 'GRAMMY และ 'RS' นำทีมโดย ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, มอส ปฏิภาณ, เต๋ สมชาย, ทาทา ยัง, นุ๊ก สุทธิดา, 2002 ราตรี - แคท, ญาญ่าญิง, เบลล์, หว่าหวา, Girly Berry - กิ๊บซี่, กิ๊ฟท์ซ่า, เบลล์, แนนนี่ ,เป๊ก ผลิตโชค, ไอซ์ ศรัณยู, แดน, บีม, แอม เสาวลักษณ์, แหม่ม พัชริดา, โบ สุนิตา, ปาน ธนพร, นิว - จิ๋ว, ลิเดีย, อ๊อฟ ปองศักดิ์, ดัง พันกร, โจ๊ก โซคูล และ ฟลุ๊ค ไอน้ำ พร้อมร่วมพูดคุยในงาน ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ (ซอยรางน้ำ)

วันนี้ SPOTLIGHT พามาดูโครงสร้างธุรกิจของทั้ง 2 บริษัท เป็นอย่างไรกันบ้าง

โดย GRAMMY มีมูลค่าหลักทรัพย์ ที่ 8,281.49 ล้านบาท ขณะที่ RS มีมูลค่าหลักทรัพย์ 14,781.95 ล้านบาท ขณะที่ GRAMMY มีผลกำไรสุทธิมากกว่า RS ทำไมมูลค่าหลักทรัพย์ของ RS ทำไมถึงมากกว่า สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมองว่า RS เป็นหุ้นที่น่าลงทุนมีโอกาสเติบโตได้ ด้วยโครงสร้างรายได้ประมาณ 50% มาจากธุรกิจพาณิชย์ เป็นการการขายสินค้า 2 แพลตฟอร์ม ได้แก่ RS Mall ขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท และสินค้าของพาร์เนอร์ อย่าง ULife และมีการพัฒนาแบรนด์สินค้าสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ Lifemate  จำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง และมีการจัดตั้งบริษัท อาร์เอส เพ็ทออล์ จำกัด เพื่อให้บริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงครบวงจร

ทั้งนี้ บริษัท หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปี 2566 เป็นปีแห่งการขยายธุรกิจในทุกมิติ ทั้งธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ รวมถึงการร่วมลงทุนกับพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยาย Ecosystem ของอาร์เอา กรุ๊ป และเตรียมปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ นำบริษัทในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยแนะนำ “ซื้อ” เพราะมองว่า ราคาหุ้นปรับตัวลดลงสะท้อนปัจจัยลบเรื่องผลประกอบการไปแล้ว และคาดว่ากำไรจะค่อยปรับตัวดีขึ้น

ขณะที่ GRAMMY มีกำไรสุทธิปี 2565 166.4 ล้านบาท และมีรายได้รวม 5,321.58 ล้านบาท รายได้หลักเกือบ 50% มาจากธุรกิจเพลง ซึ่งทางบริษัทเองมองว่าธุรกิจบริหารศิลปินและธุรกิจโชว์บิชปรับตัวดีขึ้น จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และธุรกิจดิจิทัลมิวสิคยังคงเป็นแหล่งรายได้ที่เติบโตอย่างสม่ำเสมออยู่ ซึ่งแนวทางนี้เป็นแนวทางเดียวกับบริษัทเพลงทั่วโลก และเชื่อว่าการจับมือกับ RS ครั้งนี้ จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจเพลงของ GRAMMY เติบโต และยั่งยืนมากขึ้น

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT