ธุรกิจการตลาด

นิสสันพร้อมยุติการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล หันหน้าสู่ยุครถยนต์พลังงานสะอาดเต็มตัว

7 มิ.ย. 67
นิสสันพร้อมยุติการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล หันหน้าสู่ยุครถยนต์พลังงานสะอาดเต็มตัว

นิสสัน มอเตอร์ (Nissan) ประกาศชัดเจนถึงทิศทางอนาคตของบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เป็นหลัก โดยจะไม่ลงทุนในเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) รูปแบบใหม่อีกต่อไป

นิสสันพร้อมยุติการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล หันหน้าสู่ยุครถยนต์พลังงานสะอาดเต็มตัว

นิสสันพร้อมยุติการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล หันหน้าสู่ยุครถยนต์พลังงานสะอาดเต็มตัว

Francois Bailly รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายวางแผนของนิสสัน AMIEO (แอฟริกา, ตะวันออกกลาง, อินเดีย, ยุโรป และโอเชียเนีย) ยืนยันว่า นิสสันจะไม่ทุ่มงบประมาณเพิ่มเติมในการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลรุ่นใหม่ ในขณะที่แบรนด์ญี่ปุ่นอื่นๆ กำลังสำรวจเชื้อเพลิงทางเลือก นิสสันประกาศชัดเจนว่าจะไม่พัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) รุ่นใหม่ ที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลอีกต่อไป เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบริษัทสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า การตัดสินใจนี้สวนทางกับ Toyota, Mazda และ Subaru ที่เพิ่งประกาศความร่วมมือในการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่ที่จะใช้เชื้อเพลิงทางเลือก

นิสสันมุ่งสู่ยุคแห่งรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมปรับกลยุทธ์ตามความพร้อมของแต่ละตลาด

Bailly ยืนยันว่า บริษัทยังคงเดินหน้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยมีระบบ e-Power เป็นสะพานเชื่อมสู่เป้าหมายดังกล่าว และย้ำว่านิสสันจะไม่ลงทุนพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) รุ่นใหม่ แม้จะยังคงผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในในบางตลาดที่มีความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบไฟฟ้าในระดับที่แตกต่างกัน

ปัจจุบัน นิสสันนำเสนอระบบไฮบริด e-Power ในรถยนต์ SUV รุ่น Qashqai และ X-Trail และมีแผนขยายการใช้งานไปยังรถรุ่นอื่นๆ เช่น Juke และ Pathfinder นอกจากนี้ Navara รุ่นใหม่คาดว่าจะใช้ระบบส่งกำลังแบบปลั๊กอินไฮบริด ส่วนรถรุ่นอื่นๆ อาจใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร จากพันธมิตร และ นิสสันยังคงพัฒนาเทคโนโลยี e-Power อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดการใช้เชื้อเพลิง โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า

นิสสัน ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน

นิสสันพร้อมยุติการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล หันหน้าสู่ยุครถยนต์พลังงานสะอาดเต็มตัว

Bailly ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน เนื่องจากแต่ละตลาดมีความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบไฟฟ้าในระดับที่แตกต่างกัน โดยยกตัวอย่างตลาดในแอฟริกาที่ยังคงใช้มาตรฐานไอเสีย Euro2 และ Euro4 จึงต้องใช้เวลาในการปรับตัว อย่างไรก็ตาม นิสสันยังคงมุ่งมั่นในการลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยี e-Power เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่หลากหลาย และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ยุคแห่งพลังงานสะอาด

การตัดสินใจของนิสสันที่จะยังคงใช้เครื่องยนต์ที่มีอยู่ต่อไปพร้อมกับการผสมผสานเทคโนโลยีไฟฟ้า จนกว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาแทนที่อย่างเต็มรูปแบบนั้น แตกต่างจากแนวทางของค่ายรถญี่ปุ่นอื่นๆ เช่น Toyota, Subaru และ Mazda ที่จะร่วมมือกันพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ไฮโดรเจน และเชื้อเพลิงสังเคราะห์ แม้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะมีแนวโน้มที่ดี

แต่นิสสันมีความมั่นใจว่า เครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นมานั้นดีพอที่จะใช้ต่อไปได้จนกว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาด อย่างไรก็ตาม การที่นิสสันไม่มีแผนที่จะพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในในทันที ในขณะที่อัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้ากำลังชะลอตัวลง อาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลอยู่บ้าง แต่ควรจำไว้ว่า Bailly ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อออสเตรเลียโดยเฉพาะ และกล่าวว่ากลยุทธ์ด้านระบบส่งกำลังของนิสสันจะแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด

อนาคตของ GT-R ยังคงเป็นปริศนา

นิสสันพร้อมยุติการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล หันหน้าสู่ยุครถยนต์พลังงานสะอาดเต็มตัว

นิสสันยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ GT-R รุ่นต่อไป แต่มีข่าวลือว่าอาจมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด หรืออาจเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งคู่ โดยคำกล่าวของ Bailly ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ของทั้งสองทางเลือกออกไป

เมื่อพิจารณาจากระยะเวลาที่ R35 รุ่นปัจจุบันใช้เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตรมาอย่างยาวนาน ก็ไม่น่าแปลกใจหาก R36 จะยังคงใช้เครื่องยนต์ VR38 แต่ปรับปรุงให้สะอาดขึ้นด้วยเทคโนโลยีไฟฟ้า ด้านการเปิดตัว Ariya Nismo ในปีนี้แสดงให้เห็นว่านิสสันไม่ได้มีปัญหาในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ Nismo ให้เข้ากับยุคของรถยนต์ไฟฟ้า Bailly ยังกล่าวว่าเขาเปิดรับ EV แบรนด์ Nismo มากขึ้น เนื่องจากนิสสันต้องการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สมรรถนะสูง

สำหรับรถสปอร์ต GT-R และ Z สิ่งที่เรารู้แน่ชัดคือมีการพัฒนารุ่นใหม่อย่างแน่นอน แต่รายละเอียดอื่นๆ ยังคงต้องรอการเปิดเผยจากทางนิสสัน

สุดท้ายนี้ทาง นิสสัน กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัว โดยมุ่งเน้นการลงทุนและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยี e-Power เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์พลังงานสะอาดในอนาคต แม้ว่าจะยังคงผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในในบางตลาด แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านจนกว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถเข้ามาแทนที่ได้อย่างสมบูรณ์

ที่มา drive และ carbuzz

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT