ธุรกิจการตลาด

Apple-Alphabet-Amazon เติบโตหด หุ้นตก สะท้อนกำลังซื้อต่ำ ดีมานด์ลด

3 ก.พ. 66
Apple-Alphabet-Amazon เติบโตหด หุ้นตก สะท้อนกำลังซื้อต่ำ ดีมานด์ลด

บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ของสหรัฐฯ Apple, Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) และ Amazon ผลประกอบการประจำไตรมาสที่ผ่านมาพลาดเป้านักวิเคราะห์ การเติบโตหด สะท้อนดีมานด์และกำลังซื้อที่ลดลงท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจซบเซา

หลังส่อแววไม่ดีมานานจาก มหกรรมเลย์ออฟครั้งใหญ่ คราวนี้ภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐฯ มีข้อมูลออกมาให้นักลงทุนหนาวๆ ร้อนๆ กันอีกแล้ว เมื่อผลประกอบการณ์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 ที่ผ่านมา

3 ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ คือ Apple, Alphabet และ Amazon พลาดเป้านักวิเคราะห์และนักลงทุนในตลาดกันอย่างถ้วนหน้า 

จากการรายงานของ CNBC ในไตรมาส 4 ปี 2022  รายได้ของ Apple ตกไปถึง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งลดลงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และลดลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 2016 พบว่า รายได้จาก iPad และ Mac ลดลงมากที่สุด คือ 29.66% และ 28.66% ตามลำดับ ในขณะที่รายได้จาก iPhone ลดลง 8.17%

ทั้งนี้ Tim Cook ซีอีโอของ Appleได้ให้เหตุผลสำหรับการลดลงของผลประกอบการไว้ว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาซัพพลายเชน ซึ่งเกิดจากนโยบาย Zero-Covid ของรัฐบาลจีนที่ทำให้ Apple ไม่สามารถผลิต iPhone ส่งได้ตามเป้าได้ แต่สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เป็นเพราะกำลังซื้อที่ลดลงในภาวะที่เศรษฐโลกชะลอตัว และดีมานด์ที่ลดลง เพราะผู้คนไม่ได้ต้องการอุปกรณ์เทคโนโลยีมาใช้ทำงานหรือเรียนทางไกลเหมือนในช่วงปลายปี 2021 อีกแล้ว

afp.com-20220908-ph-gty-14217

ส่วนทางด้าน Alphabet การเติบโตของรายได้ในไตรมาสที่ผ่านมาลดเหลือเพียง 2% จาก 7% ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งหลักๆ เป็นผลมาจากการที่รายได้ธุรกิจโฆษณาดิจิทัลลดลง เนื่องจากบริษัทต่างๆ ต้องพยายามลดต้นทุนในการโฆษณาในช่วงที่เศรษฐกิจมีการชะลอตัว 

ในขณะเดียวกัน Amazon ก็เจอปัญหาดีมานด์สินค้าลด รวมไปถึงการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ลดลง เพราะคนกลับมาเลือกซื้อของในร้านค้ากันมากขึ้นแล้ว หลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจทุกอย่างกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว

หลังประกาศผลประกอบการออกมา ราคาหุ้นของทั้ง 3 บริษัทก็ลดลงทันทีในช่วงหลังปิดตลาด 

โดย Apple ลดลง 3.2% เหลือ 145.99 ดอลลาร์/หุ้น Amazon ลดลงไป 5.07% เหลือ 107.18 ดอลลาร์/หุ้น 

ในขณะที่ Alphabet ลดลง 4.6% เหลือ 102.78 ดอลลาร์/หุ้น

 

หุ้น Meta ขึ้น 23% หลังประกาศซื้อหุ้นคืน และรายได้ดีกว่าคาด

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์นี้ก็ไม่ได้มีแต่ผู้เสียหาย เพราะบริษัทหนึ่งที่ทำผลงานดีเหนือความคาดมหายนักวิเคราะห์ ก็คือ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ที่ทำรายได้ไป 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีผู้ใช้อย่างสม่ำเสมออยู่ 2 พันล้านคนทั่วโลก มากกว่า 1.99 พันล้านคนอย่างที่คาดการณ์

นอกจากนี้ Meta ยังประกาศว่าจะเพิ่มเงินอีก 4 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อหุ้นคืน หลังออกเงิน 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐซื้อหุ้นคืนไปหนึ่งรอบแล้วในปีที่ผ่านมา ทำให้หุ้น Meta วิ่งขึ้นถึง 23% ไปอยู่ที่ 188.77 ดอลลาร์สหรัฐ 

ในการแถลงผลประกอบการ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta กล่าวว่า Meta จะดำเนินธุรกิจในแบบที่ ‘มีประสิทธิภาพ’ มากขึ้นในปีนี้ ด้วยการลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นลงไป 

afp.com-20110922-ph-gty-12608

จากการรายงานของ CNBC นั้น Meta คาดว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในปี 2023 จะอยู่ที่ 8.9-9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ น้อยลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 9.4 หมื่นล้าน - 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะบริษัทจะใช้จ่ายน้อยลงกับการสร้างศูนย์ข้อมูล และจะใช้เงินไปกับการสร้างโครงสร้างข้อมูลในรูปแบบอื่นที่สร้างต้นทุนน้อยกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าแทน

โดยปีที่ผ่านมา หุ้นของ Meta ตกลงไปถึง 60% หลังธุรกิจ Metaverse ที่ Mark Zuckerberg ฝากความหวังไว้ไม่ออกดอกออกผลอย่างที่หวัง โดยธุรกิจ Reality Labs ขาดทุนไปถึง 4.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ 4 ทำให้รวมแล้ว Meta ขาดทุนรวมถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022




advertisement

SPOTLIGHT