
เมื่อกำลังก้าวเข้าสู่ปี 2026 คำว่า Digital Transformation ไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ด้านเทคโนโลยี แต่กำลังกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญของการอยู่รอดของธุรกิจ ซึ่งทุกการตัดสินใจ ต้องอาศัย Real-time Data มากกว่าประสบการณ์หรือการคาดเดาแบบเดิม
หนึ่งในอุปสรรคหลักที่ธุรกิจไทยจำนวนมากยังเผชิญ คือ ปัญหา Data Silo หรือข้อมูลแยกส่วน แต่ละแผนกมีระบบและชุดข้อมูลของตัวเอง ส่งผลให้ Workflow ไม่ต่อเนื่อง การสรุปผลล่าช้า และไม่สามารถนำข้อมูลไปใช้กับ Automation ได้เต็มประสิทธิภาพ
หัวใจสำคัญของการเชื่อมโยงข้อมูลทุกแผนกเข้าด้วยกันคือการทำความเข้าใจว่า ระบบ ERP คืออะไร และจะเข้ามาช่วยลดความซ้ำซ้อนของงานเอกสารได้อย่างไร ระบบ ERP ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลขององค์กร เชื่อมโยงกระบวนการตั้งแต่การขาย การจัดซื้อ การผลิต ไปจนถึงการเงิน ทำให้ผู้บริหารมองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้แบบ Real-time และรองรับการเติบโตในระยะยาว
รายงานแนวโน้มเทคโนโลยีจาก Gartner และ Microsoft News ระบุในทิศทางเดียวกันว่า องค์กรที่สามารถจัดการข้อมูลได้แบบรวมศูนย์ จะมีความพร้อมในการต่อยอดสู่ AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงมากกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลคือฐานของการตัดสินใจทุกระดับ
ผู้เชี่ยวชาญจาก Quick Transformation เนอร์ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของ Microsoft ในประเทศไทย มองว่าปี 2026 จะเป็นปีแห่งการวัดผลด้วยข้อมูลอย่างแท้จริง ธุรกิจที่มีระบบหลังบ้านแข็งแรง มีโครงสร้างข้อมูลที่ชัดเจน และ Workflow ที่เชื่อมต่อกัน จะสามารถปรับตัวได้รวดเร็วกว่า ทั้งในแง่ต้นทุน ความเร็ว และความแม่นยำในการบริหาร
ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน Microsoft Dynamics 365 ทั้ง Business Central สำหรับธุรกิจ SME และ Finance & Operations สำหรับองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ Quick Transformation ไม่ได้มุ่งเพียงการติดตั้งระบบ แต่ช่วยวางรากฐานโครงสร้างข้อมูลให้ธุรกิจพร้อมขยายตัวและใช้งานเทคโนโลยีในอนาคตได้อย่างเป็นระบบ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว Digital Transformation ไม่ใช่แค่การลงทุนด้าน IT เพียงอย่างเดียว แต่คือการวางรากฐานให้ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลได้จริง ลดข้อจำกัดจากการทำงานแบบแยกส่วน และพร้อมรับการแข่งขันในยุค Data Driven อย่างมั่นคง
Advertisement