
เครื่องฟอกอากาศกลายเป็นไอเทมจำเป็นที่หลายบ้านเลือกติดตั้งไว้ เพื่อป้องกันปัญหาฝุ่นละออง ลดมลพิษต่างๆ ที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน โดยเฉพาะ ฝุ่น PM2.5 ที่หนาแน่นในฤดูหนาว หรือช่วงที่อากาศแห้ง ช่วงที่มีการเผาไหม้ ปล่อยมลพิษจากที่ต่างๆ และยังเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจจากหลายประเทศ เพราะนอกจากจะเป็นมลพิษจากน้ำมือมนุษย์แล้ว ยังส่งผลกระทบถึงสุขภาพ เช่น โรคทางเดินหายใจ ปัญหาผิวหนัง รวมถึงทำให้ภูมิร่างกายอ่อนแอลง ทั้งนี้การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ไม่ใช่แค่ซื้อมาวางไว้ในห้อง เปิดใช้งานแล้วจะมั่นใจได้ว่า เครื่องฟอกอากาศจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพจริงๆ แต่ต้องคำนึงถึง ‘ตำแหน่งในการวาง’ ให้ถูกจุด เหมาะสมกับทางเดินของฝุ่น และพอดีกับพื้นที่ใช้สอย มาดูกันว่า จุดวางเครื่องฟอกอากาศที่วางแล้วช่วยเสริมประสิทธิภาพให้การกรองฝุ่นให้ดีขึ้นควรอยู่จุดไหนในห้อง และจะช่วยอากาศสะอาดสดชื่น ถ่ายเทสะดวกได้อย่างไร
การเลือกตำแหน่งวางเครื่องฟอกอากาศมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพการทำงานในการทำให้อากาศภายในบ้านสะอาดบริสุทธิ์ การวางในจุดที่เหมาะสมจะช่วยให้เครื่องสามารถกรองอากาศได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัดฝุ่นควันและสารพิษต่างๆ ที่ปะปนอยู่ในอากาศ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัย เพราะสามารถลดมลพิษ รวมถึง PM2.5 ที่เป็นสาเหตุของอาการแพ้และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ การวางเครื่องฟอกอากาศในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการไหลเวียนของอากาศโดยไม่มีสิ่งกีดขวางจะช่วยให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้สะดวกและใช้พลังงานน้อยลงในการดูดซับฝุ่นและกลิ่น ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงาน ส่งผลให้ประหยัดพลังงานในระยะยาว และยังคงรักษาสภาพอากาศภายในบ้านให้บริสุทธิ์และสดชื่นอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
การเลือกวางเครื่องฟอกอากาศในบ้านให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การทำงานของเครื่องฟอกอากาศเกิดประสิทธิภาพสูงสุด พัฒนาคุณภาพอากาศในบ้านให้ดีขึ้น โดยแต่ละห้องมีจุดที่ควรวางเพื่อให้ได้อากาศที่สดชื่น ดังนี้
- ห้องนอน ควรวางบริเวณที่มีอากาศหมุนเวียนสะดวก เช่น ปลายเตียง หรือมุมห้อง โดยควรวางเครื่องให้ห่างจากหัวนอนประมาณ 1-2 เมตร เพื่อลดโอกาสที่เสียงเครื่องฟอกอากาศรบกวนการนอน
- ห้องนั่งเล่น เลือกวางเครื่องในจุดที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของกีดขวางการทำงาน เช่น บริเวณกลางห้อง หรือใกล้หน้าต่าง เพื่อให้เครื่องสามารถดูดและปล่อยอากาศที่สะอาดได้อย่างอิสระและมีประสิทธิภาพสูงสุด
- กลางห้องที่มีพื้นที่กว้าง/โถงกลาง หรือห้องนั่งเล่น ควรวางในตำแหน่งที่เปิดโล่งและไม่มีเฟอร์นิเจอร์กีดขวาง หรือตรงกลางของห้อง เพื่อให้เครื่องสามารถดูดอากาศจากทุกทิศทางได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ให้ทั่วพื้นที่
- ห้องครัว เป็นแหล่งกำเนิดควันและกลิ่นอาหาร ควรวางเครื่องฟอกอากาศในบริเวณห้องครัว จะบริเวณใดก็ได้ เพื่อช่วยกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
- ใกล้ต้นทางฝุ่น อย่างเช่น บริเวณประตูทางเข้า หรือหน้าต่างที่เปิดบ่อย ซึ่งเป็นจุดที่อากาศภายนอกเข้ามาได้มาก
- พื้นที่ที่ไม่ค่อยมีอากาศถ่ายเท ควรวางได้ตามจุดต่างๆ เช่น ประตูทางเข้า เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนอากาศให้มากขึ้น
- เครื่องปรับอากาศ/พัดลม ควรวางเครื่องฟอกอากาศในตำแหน่งตรงข้ามกับเครื่องปรับอากาศหรือพัดลม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องได้ เนื่องจากแรงลมจากเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมจะช่วยผลักดันและกระจายอากาศบริสุทธิ์ที่ผ่านการกรองแล้วให้หมุนเวียนไปทั่วทั้งห้องได้ดียิ่งขึ้น
- พื้นที่ที่มีสัตว์เลี้ยง ควรวางจุดที่สัตว์เลี้ยงแสนรักอยู่อาศัย เช่น ที่นอนของสัตว์เลี้ยง
1. หลีกเลี่ยงการวางเครื่องชิดกับผนังหรือในมุมห้อง รวมถึงพื้นที่แออัดที่มีสิ่งกีดขวาง เช่น หลังโซฟา ใต้โต๊ะ หรือในตู้ เพราะจะทำให้การไหลเวียนของอากาศไม่ดี และไม่สามารถดูดอากาศจากทุกทิศทางได้อย่างเต็มที่ ทำให้ประสิทธิภาพการกรองอากาศลดลง
2. ไม่ควรวางเครื่องฟอกอากาศใกล้แหล่งความร้อน เช่น เตาผิง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปล่อยความร้อน เพราะความร้อนอาจทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้นและเสี่ยงต่อความเสียหายได้
3. หลีกเลี่ยงการวางใกล้แหล่งน้ำหรือบริเวณที่มีความชื้นสูงมาก เช่น ห้องน้ำ หรือบริเวณที่มีน้ำกระเด็นในห้องครัว
4. ควรวางเครื่องฟอกอากาศบนพื้นผิวหรือโต๊ะที่มีความมั่นคงแข็งแรงเท่านั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เครื่องฟอกอากาศจะล้ม และเพื่อความปลอดภัย
การเลือกตำแหน่งวางเครื่องฟอกอากาศภายในบ้านจะช่วยให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรคำนึงถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการกระจายอากาศในพื้นที่ที่ต้องการวางเครื่องฟอกอากาศ ได้แก่ ขนาดของห้อง ตำแหน่งที่ต้องการวางเครื่องฟอกอากาศ และการไหลเวียนอากาศภายในพื้นที่นั้นๆ โดยจุดที่สามารถวางเครื่องฟอกอากาศเพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น โถงกลาง พื้นที่ที่มีสัตว์เลี้ยง พื้นที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท ฯลฯ และไม่ควรวางเครื่องฟอกอากาศชิดผนังหรือมุมห้อง หรือใกล้แหล่งความร้อนหรือมีความชื้นสูง เพราะอาจรบกวนการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ ทำให้เครื่องชำรุด เสียหายได้ง่าย นอกจากนี้
ควรหมั่นดูแลรักษาและเปลี่ยนไส้กรองอย่างสม่ำเสมอ พร้อมวางในตำแหน่งที่เหมาะสม ให้ได้อากาศสดชื่นตลอดการใช้งาน
Advertisement