เรื่องเล่าจาก Fukuoka Bridge Summer Camp 2025
ระหว่างช่วงวันที่ 12 – 23 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ผู้แทนกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำผู้แทนเด็กจากประเทศไทย จำนวน 6 คน เข้าร่วม โครงการ Bridge Summer Camp 2025 ณ ฟุกุโอกะ เมืองเล็ก ๆ ในญี่ปุ่น ที่อบอุ่น น่ารัก และเต็มไปด้วยความทรงจำอันล้ำค่าสำหรับเด็กไทยทั้ง 6 คนที่ได้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก อายุ 10 - 11 ปี จากหลายประเทศได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมร่วมกัน เป็นพื้นที่สำหรับการสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศผ่านกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์และสันติภาพ
ตลอด 10 วัน แห่งการเรียนรู้ เด็ก ๆ ตัวแทนประเทศไทยได้เข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ จากกว่า 42 ประเทศ รวมเกือบ 200 คน ณ “Marine House” สถานที่ที่อบอวลไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ พวกเขาได้เรียนรู้วิถีชีวิตแบบญี่ปุ่น พร้อมทั้งถ่ายทอดวัฒนธรรมไทยผ่านการละเล่นพื้นบ้าน ขนมไทย และของที่ระลึก ทำให้เพื่อน ๆ นานาชาติเข้ามามีส่วนร่วมอย่างสนุกสนาน
Marine House: จุดเริ่มต้นของมิตรภาพ
ช่วงเวลา 3 วันแรก ที่ Marine House เต็มไปด้วยความสุขและมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เด็ก ๆ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกัน ฝึกความอดทน การแบ่งปัน และการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมอย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะต่างภาษาแต่หัวใจก็เชื่อมถึงกัน เมื่อถึงวันที่ 4 เด็ก ๆ ต้องอำลา Marine House เพื่อออกไปทำกิจกรรม “School Visit” ซึ่งเป็นอีกประสบการณ์สำคัญที่ไม่มีวันลืม
School Visit: ประสบการณ์ที่มากกว่าห้องเรียน
เด็กไทยมีโอกาสไปเยี่ยมชมและเรียนร่วมกับนักเรียนที่ Nishijin Elementary School โรงเรียนเก่าแก่กว่า 152 ปี ของเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีประวัติยาวนาน แต่ระบบการเรียนการสอนทันสมัย เด็ก ๆ ไทยได้รับการต้อนรับอย่างดี และได้แสดงศิลปวัฒนธรรมไทยให้เพื่อน ๆ ชาวญี่ปุ่นชมด้วย แม้จะมี “กำแพงภาษา” แต่พลังของรอยยิ้มและความตั้งใจทำให้การสื่อสารไร้พรมแดน พวกเขาได้เรียนรู้การพับกระดาษโอริกามิ เล่นของเล่นแบบเด็กญี่ปุ่น และทำกิจกรรมพละศึกษาร่วมกัน ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจหาได้จากการท่องเที่ยวทั่วไป
Host Family: ครอบครัวเจ้าภาพ
หลังจากจบกิจกรรมในโรงเรียน เด็ก ๆ ได้พบกับ Host Family ครอบครัวเจ้าภาพ ที่เตรียมตัวมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มและความตื่นเต้น ซึ่งเด็ก ๆ ทุกคนที่เข้าร่วมโครงการต้องไปใช้ชีวิตอยู่กับ Host Family 1 คนต่อ 1 ครอบครัว เป็นเวลา 6 วัน ซึ่งครอบครัวเจ้าภาพต้อนรับเด็ก ๆ ด้วยพวงมาลัยลูกอม และพาเด็ก ๆ สัมผัสวิถีชีวิตญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ทั้งอาหาร การใช้ชีวิตประจำวัน และวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกัน นี่คือช่วงเวลาที่เด็กวัย 11 ขวบได้เรียนรู้การเข้าใจผู้อื่น ยอมรับความแตกต่าง และซึมซับความอบอุ่นจากคนต่างชาติที่มอบให้ด้วยหัวใจ
Bridge Festival: วันที่ความภาคภูมิใจดังไกล
วันที่ 8 ของการเดินทางคือวันที่ทุกคนกลับมาพบกันอีกครั้งเพื่อร่วมงาน Bridge Festival เด็กไทยได้แสดงวัฒนธรรมที่ภาคภูมิใจ “The Way of Songkran” หรือ ประเพณีสงกรานต์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) การแสดงของเด็กไทยได้รับเสียงปรบมือกึกก้องไปทั้งงานเลี้ยง พร้อมคำชื่นชมจากผู้ชมหลากหลายชาติ ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปใช้เวลาร่วมกับ Host Family อีกครั้ง ปิดท้ายด้วยมื้ออาหารสุดประทับใจ ที่ทุกครอบครัวรวมตัวกันเพื่อเลี้ยงส่งเด็ก ๆ
เสียงสะท้อนจากเด็กไทยที่ได้เข้าร่วมโครงการ
เสียงสะท้อนจากเด็กไทยที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ เป็นความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความสุขอย่างลึกซึ้ง ระยะเวลา 10 วันเป็นการเดินทางครั้งแรกที่เด็กๆ ได้แยกจากผู้ปกครองและได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยตัวเอง ทุกคนต่างกลับมาเล่าเรื่องราวของความสนุกสนานและความภาคภูมิใจในตัวเองให้ผู้ปกครองได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลานี้
หนึ่งในตัวแทนเด็กและเยาวชนไทยกล่าวถึงความภูมิใจในการเป็นตัวแทนของประเทศไทย การได้มีโอกาสอาศัยอยู่กับครอบครัวเจ้าภาพในญี่ปุ่น ซึ่งเต็มเปี่ยมด้วยความอบอุ่นและสนุกสนาน เป็นประสบการณ์อันล้ำค่าและหาไม่ได้จากที่ใด นอกจากจะเป็นช่วงเวลาที่เรียนรู้และเติบโตทั้งด้านจิตใจและวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างสองวัฒนธรรม
การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มอบเพียงแค่มิตรภาพใหม่ ๆ ให้กับเด็กไทย แต่ยังทำให้พวกเขาได้ทำหน้าที่ “ทูตวัฒนธรรมตัวน้อย” เป็นตัวแทนของประเทศไทย ถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมและความงดงามของไทยให้โลกได้รับรู้ และเรียนรู้คุณค่าของการอยู่ร่วมกับความแตกต่าง นี่คือก้าวเล็ก ๆ ของเด็กไทยทั้ง 6 คน ที่จะเติบโตเป็น เมล็ดพันธุ์แห่งความหวัง ของชาติ และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างอนาคตที่ดีให้กับสังคม
Advertisement
