
เวลา 17.00 น. วันนี้ (15 ธันวาคม 2568) น.อ.สยาม เชิดชิด หัวหน้ากลุ่มงานนโยบาย แผน และการข่าว กอ.รมน.จังหวัดตราด พร้อมเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองตราด ร่วมกันบุกเข้าตรวจค้นบ้านพักท้ายซอยแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านแหลมหิน ต.หนองคันทรง อ.เมือง จ.ตราด หลังได้รับข้อมูลว่ามีครอบครัวชาวกัมพูชาต้องสงสัยอาจเป็นสายลับ ส่งข้อมูลความลับของฝ่ายไทยให้กับกองทัพกัมพูชา
เมื่อเข้าตรวจค้น พบ น.ส.รายา แงด อายุ 18 ปี พร้อมบิดาและมารดา พักอาศัยอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นภายในบ้านพัก และยึดโทรศัพท์มือถือของบุคคลภายในบ้านจำนวน 4 เครื่อง เพื่อนำไปตรวจสอบ รวมถึงตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมายและหลักฐานการส่งข้อมูลทางราชการของฝ่ายไทย แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้ง 3 คน ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองตราด ทั้งนี้ น.ส.รายา แงด เป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ปัจจุบันมีบัตรนักศึกษาของวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดตราด และเป็นภรรยาของ พ.ต.อ.โสต ซ็อมโอล ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้บังคับการกองพันตำรวจตระเวนชายแดนที่ 823 จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา
โดย พ.ต.อ.โสต ซ็อมโอล มีภรรยาอยู่แล้วที่ประเทศกัมพูชา แต่ได้มาพบกับ น.ส.รายา ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดตราด จนเกิดความชอบพอกัน และตัดสินใจแต่งงานกันก่อนเกิดเหตุปะทะตามแนวชายแดนในรอบแรก งานแต่งใช้งบสินสอด 1 ล้านบาท พร้อมทองคำหนัก 10 บาท จัดพิธีแต่งงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดตราด
พฤติกรรมที่ผ่านมา พบว่าฝ่ายชายเดินทางมาหาฝ่ายหญิงเป็นประจำ โดยข้ามแดนเข้ามาทางพื้นที่เนิน 400 ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ จ.ตราด
สำหรับ น.ส.รายา แงด เกิดในประเทศกัมพูชา และมาอาศัยอยู่ในจังหวัดตราดตั้งแต่แรกเกิด โดยบิดาและมารดาเข้ามารับจ้างทำงานอยู่ฝั่งไทย ปัจจุบันไม่มีบัตรประชาชน ต้องใช้บัตรนักศึกษาแสดงตัวตนแทน น.ส.รายา ให้การยืนยันความบริสุทธิ์ว่า ไม่เคยส่งข้อมูลหรือรายละเอียดใด ๆ ของฝ่ายไทยให้กับประเทศกัมพูชา พร้อมยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโทรศัพท์ของทุกคนในครอบครัว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงเก็บโทรศัพท์มือถือทั้งหมดไว้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และควบคุมตัวทั้ง 3 คนไว้เพื่อสอบปากคำและตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป
ในเวลาต่อมา 19.25 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดจากโทรศัพท์ ไม่พบการกระทำใดๆที่เกี่ยวข้องกับการส่งข้อมูล รายละเอียดของฝั่งไทยไปให้กัมพูชา และสอบปากคำเพิ่มเติมจนแน่ใจว่าไม่ใช่สายลับ จึงส่งตัวสามพ่อแม่ลูกกลับบ้านต่อไปแล้ว
Advertisement