
(28 พ.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤติอย่างต่อเนื่อง หลังจากมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากพื้นที่ตอนเหนือของจังหวัดยะลาไหลสมทบลงสู่แม่น้ำปัตตานี ไม่หยุดพัก ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำและขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ชาวบ้านหลายพันครัวเรือนได้รับผลกระทบอย่างหนัก หลายพื้นที่เริ่มขาดแคลนเสบียงอาหาร และสิ่งของจำเป็นที่กักตุนไว้เริ่มร่อยหรอ เพราะไม่สามารถออกไปซื้อของจากภายนอกได้เนื่องจากเส้นทางถูกน้ำท่วมตัดขาด
โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี บริเวณ ถ.หลังวัง ถ.กะละพอ ต.จะบังติกอ ซึ่งหนักสุดในรอบ 35 ปี โดยเป็นพื้นที่ติดริมแม่น้ำปัตตานี ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมแบบฉับพลันในช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบรุนแรงกว่า 1,000 ครัวเรือน หลายจุดระดับน้ำสูงจนเกือบมิดประตูบ้าน โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียวซึ่งไม่สามารถหลบภัยได้ จำเป็นต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปอยู่ในจุดปลอดภัยทันที
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านรายหนึ่งต้องช่วยกันอพยพผู้สูงอายุออกจากบ้านด้วยเรือ เนื่องจากระดับน้ำภายในชุมชนสูงเกินกว่าจะเดินลุยออกมาได้ สภาพน้ำเชี่ยวและไหลแรงสร้างความหวาดวิตกให้คนในพื้นที่อย่างมาก ผู้สูงอายุรายนี้ ถูกลำเลียงด้วยเรือไปยังพื้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลว่า ระดับน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก หากยังมีน้ำจากต้นทางไหลลงมาสมทบอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์โดยรวมยังคงจับตาใกล้ชิด เจ้าหน้าที่กู้ภัย หน่วยงานท้องถิ่น และจิตอาสา ยังคงลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนตลอดทั้งวัน ทั้งแจกถุงยังชีพ ส่งอาหาร พร้อมประสานการอพยพผู้ที่ติดค้างอยู่ในบ้านเรือน ขณะที่ประชาชนต่างภาวนาให้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวในเร็ววัน เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าน้ำจะลดลงแต่อย่างใด
นายชุกรี เปิดเผยว่า ระดับน้ำตอนนี้ยิ่งสูงขึ้น ตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้ในบ้านอยู่ไม่ได้ เช่นเดียวกับบ้านต้นท่วมสูงเมตรครึ่ง มีความเดือนร้อนมาก ความเป็นอยุ่ลำบาก และตอนนี้จำเป็นต้องย้ายแม่ยายออกอย่างด่วนเพื่อไปอยู่ที่สูง เพราะตอนนี้อยู่ในบ้านไม่ได้แล้ว บ้านขั้นเดียว และห้องน้ำก็ใช้ไม่ได้ โซนที่ตนอยู่หนักมาก ท่วมทุกปี แรกท่วมพื้นที่แรก ตอนนี้ยังกังวลมากกลัวว่าจะมาเพิ่ม
Advertisement