
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการ รพ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถึงการจัดการศพหลังภัยพิบัติว่า เช้าวันนี้ต้องมีวางระบบให้ชัด แนวทางต้องชัด ญาติผู้สูญเสียจะได้ไม่ทุกข์หนักกว่านี้ อย่าให้เขาต้องขับรถไปตามหาศพทีละวัด โทรถามทีละโรงพยาบาล โทรมาโรงพยาบาลก็โกลาหลตอบไม่ได้ การตามหาญาติที่ติดต่อไม่ได้ รู้ว่าญาติสูงอายุ ติดเตียง ป่วย อาจสูญเสีย แต่ถูกลำเลียงออกมาแล้ว จะยิ่งสร้างความหดหู่ซ้ำเติมความสูญเสียถ้าไม่มีระบบที่ดีรองรับ
มหาอุทกภัยภาคใต้ 2568 น้ำเริ่มลดแล้ว นอกจากการช่วยเหลือผู้คนที่ติดน้ำท่วม ส่งต่ออาหาร/น้ำดื่ม ทำแผล/จัดยารักษาโรค จัดการจราจร ฟื้นฟูระบบสื่อสาร อีกโจทย์สำคัญคือ "การจัดการศพ"
น้ำท่วมครั้งนี้ความสูญเสียมีมาก เฉพาะในหาดใหญ่และพื้นที่รอบนอกอาจจะหลักหลายร้อย การจัดระบบการจัดการศพและนิติเวชจึงสำคัญมาก โรงพยาบาลในพื้นที่เอาไม่อยู่
เมื่อกู้ภัยหรือประชาชน พบศพที่รู้จักหรือไม่รู้จัก จะมีศูนย์กลางการจัดการศพไหม จะมีระบบการขึ้นทะเบียนอย่างไร เอามาเก็บรักษาทำการชันสูตรที่ไหน จะมีกี่จุด จะมีตู้แช่ศพไม่พอแน่ ญาติจะมาดูศพ บ้างจะขอเอากลับไปทำพิธีเลย บ้างไม่ขอส่งมารวมได้ไหม จะจัดการอย่างไร สำหรับรอการทำพิธีทางศาสนา ยิ่งศพที่ไม่มีญาติ ไม่มีใครรู้จัก ก็ยิ่งต้องชันสูตรอัตลักษณ์บุคคลให้รัดกุม หากไม่มีจัดการ จะนำมาซึ่งความหดหู่และซ้ำเติมความสูญเสีย
สำหรับผู้ที่เสียชีวิตที่บ้านจากความเจ็บป่วยที่ไม่ได้จมน้ำ แต่ไม่อาจมาโรงพยาบาลได้ จะจัดการอย่างไร ต้องมีการรวบรวมข้อมูล จำนวน เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับอนาคต
ความสูญเสียในทุกโรงพยาบาลอันเนื่องมาจากการส่งต่อไม่ได้ ไฟฟ้าดับ ออกซิเจนหมด หรืออื่นใดที่ควรป้องกันได้ ก็ควรมีการบันทึกไว้ เพื่อการวางระบบลดความเสี่ยงในอนาคตต่อไป
วิวาทะเรื่องตัวเลขความสูญเสียก็จะเป็นอีกเรื่องสำคัญ ความจริงต้องเป็นความจริง ความจริงคือสิ่งที่มิอาจปิดบังได้ การเก็บข้อมูลที่ดี เป็นระบบ และไม่บิดเบือนใดๆเท่านั้นที่จะไม่ทำให้ผู้คนหมดศรัทธา
ครึ่งเช้าวันนี้ 27 พฤศจิกายน 2568 วันที่น้ำเริ่มลด ควรมีประกาศ "ระบบการจัดการศพความสูญเสียได้แล้ว"
Advertisement