
วันที่ 14 พ.ย. 68 นางพิไลพันธ์ วงศ์แสง อายุ 50 ปี พร้อมด้วยคนงาน และรถเกี่ยวข้าว เร่งลงแปลงเกี่ยวข้าวเจ้า และข้าวเหนียวในที่นา 10 ไร่ ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เหตุเพราะหวั่นจะเกิดเหตุปะทะกับทางกัมพูชา หากเกี่ยวไม่ทันก็จะทำให้ข้าวแก่ร่วงเสียหาย
นางพิไลพันธ์ บอกว่า ตนเองมีที่นาอยู่ 10 ไร่ ตอนนี้ต้องรีบเอารถเกี่ยวข้าวมาเกี่ยวออกจากที่นาให้เสร็จ เพื่อที่จะช่วยให้ทหารได้สู้รบแบบไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อเกี่ยวเสร็จ หากได้อพยพตนเองก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงข้าวในนา ส่วนที่ต้องมานั่งเฝ้ารถเกี่ยวข้าวกลางคืนดึกๆ แบบนี้ เพราะรถเกี่ยวข้าวคิวยาว ตนเองต้องเฝ้ารอคิวมาเป็นอาทิตย์ถึงได้รถมาเกี่ยว ตอนนี้ในพื้นที่รถเกี่ยวข้าวไม่เพียงพอต่อความต้องการ
นางพิไลพันธ์ ยังบอกอีกว่า ข้าวที่ได้ครั้งนี้ ตนจะเอาไปตากแดด 2 วันแล้วก็จะเอาเก็บเข้ายุ้งฉางเก็บไว้กิน หากมีการสู้รบกันจริง ส่วนหนึ่งก็จะเอาไปขายให้ค่ารถเกี่ยวข้าว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยเรื่องราคาค่าจ้าง เพราะอยากให้เสร็จไวๆ เท่าไหร่ก็จ่าย ทหารจะได้รบแบบไม่ต้องห่วงข้างหลัง และตนเองอยากจะฝากถึงรัฐบาลกับทหาร ขอให้ทำงานด้วยกันสามัคคีกัน รีบรบรีบจัดการให้เสร็จโดยเร็ว จะได้ทำมาหากิน เพราะทำไร่ทำนาหนี้สินก็เยอะอยู่แล้ว
ด้านนายสุริยา ผิวเพชร อายุ 30 ปี เจ้าของรถเกี่ยว ข้าวเปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ข้าวสุก ประกอบกับสถานการณ์ความไม่สงบ เกษตรกรก็จะเร่งเกี่ยว ทำให้คิวยาวสำหรับตนเองรับได้ประมาณ 5-6 คิว หรือประมาณ 20 ไร่ รายได้ประมาณ 10,000 บาทต่อวัน แต่ปัจจุบันจำนวนรถที่เกี่ยวข้าวตอนนี้ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตร
Advertisement