
สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง ล่าสุดตรวจสอบน้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนฯที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์ ปริมาณน้ำเหนือเริ่มกลับมามีปริมาณเพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกหนักทางตอนบนของประเทศ ล่าสุดวัดได้ 2,679 ลบ.ม./วิ โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนยกตัวขึ้น 12 ซ.ม. ในรอบ 24 ชม. วัดได้ 17.03 ม.รทก. โดยเขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนขึ้นไปที่อัตรา 2,300 ลบ.ม./วิ เป็นวันที่ 2 เพื่อรับมือกับฝนที่จะเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของพายุคัลแมกี ซึ่งล่าสุดระดับน้ำท้ายยกตัวขึ้น 48 ซ.ม. ในรอบ 24 ชม. วัดได้ 15.47 ม.รทก. และจะมีผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 30-50 ซ.ม. ใน 24 ชม. ข้างหน้าจึงแจ้งเตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนยังไม่ควรยกของลงจากที่สูงในระยะนี้ และให้ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนพื้นที่ท้ายเขื่อนใน ต.ตะหลุก ต.หาดอาษา และ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา ล่าสุดพบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยกตัวขึ้นกว่า 50 ซ.ม. ได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นรอบที่ 3 ทำให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ต้องออกมาช่วยกันทำคันกั้นน้ำกันอีกรอบ เพราะแนวกระสอบทรายบางส่วนชำรุดผุพัง ทำให้ล่าสุดมีบ้านเรือนประชาชนกลับมามีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 500 หลังเรือนใน 3 ตำบล ของ อ.สรรพยา มีระดับน้ำท่วมสูง 30-160 ซ.ม. ชาวบ้านบางส่วนจึงยังต้องขึ้นมาอยู่บนถนนคันคลองมหาราชต่อเนื่องเป็นวันที่ 30 โดยชาวบ้านยังมีความกังวลกับปริมาณน้ำฝนที่จะเพิ่มขึ้นในระยะ 1 สัปดาห์หลังจากนี้่ จากอิทธิพลของพายุคัลแมกีที่จะทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยายกตัวขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้ชาวบ้านยังไม่มีหวังที่จะขนของกลับเข้าบ้านได้ในระยะนี้
ขณะที่ภาพรวมล่าสุดที่จุดอพยพหนี้น้ำท่วมทางหลวงชนบทชัยนาท 3018 คันคลองมหาราช ยังมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ 3 ตำบลท้ายเขื่อน คือ ต.ตะหลุก ต.หาดอาษา และ ต.โพนางดำออก อพยพหนีน้ำขึ้นมาสร้างเพิงพักชั่วคราวอยู่บนถนนนาน 1 เดือน และต้องนอนบนถนนต่อไปจำนวนประมาณกว่า 400 ครอบครัว
ข้อมูลจาก ปภ.จังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า จ.ชัยนาท มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ คือ อ.สรรพยา ซึ่งอยู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจำนวน 5 ตำบล 25 หมู่บ้าน 1,759 ครัวเรือน มีผู้ประสบภัยทั้งสิ้น 4,750 คน
Advertisement