
(3 พ.ย. 2568) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้เดินทางมาที่ บริษัทผลิตเกราะ บริษัท อินโวสตาร์ จำกัด ที่ จ.ปทุมธานี โดยสถานที่ดังกล่าว เป็นสถานที่ผลิตยุทธภัณฑ์ทางทหาร ภายใต้การควบคุมของกรมอุตสาหกรรมทหาร กระทรวงกลาโหม
โดยการมาในวันนี้ นายวิวรณ์ มีชูธน ประธานบริษัท อินโว สตาร์ จำกัด ได้พา กัน จอมพลัง ทัวร์สถานที่ผลิตเกราะเเละยุทธภัณฑ์ทางทหาร ตอบปัญหาดรามาเรื่องราคาเกราะที่ซื้อมาในราคา 6,000 บาท ว่าไม่ได้มาตรฐานจริงหรือไม่
โดยจุดเเรกที่ นายวิวรณ์ ได้พาเข้าไปคือ ห้องแล็ปในการทดสอบเกราะ โดยจะมีการอธิบายถึงขนาดกระสุนที่มีขนาดใกล้เคียงของกัมพูชาที่ใช้ในปัจจุบัน เพื่อทำมาทดสอบกับแผ่นเกราะที่ผลิตส่งให้กองทัพ ส่วนห้องถัดไป คือ ห้องยิงทดสอบแผ่นเกราะ ที่มีปืนจำลอง เพื่อทดสอบว่าหากมีการถูกยิงแล้ว แผ่นเกราะยุบตัวเข้าไปเยอะเกินหรือไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ เพราะถ้าหากแผ่นเกราะยุบตัวมากเกินไป นั่นหมายถึงชีวิตของผู้สวมใส่
นอกจากนี้ยังพาไปดูหมวกเหล็ก ที่กำลังผลิต เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ยังไม่วางจำหน่าย โดยหมวกตัวนี้จะมีเซนเซอร์พิเศษที่จะบอกได้ว่า ผู้ที่ถูกยิงคอหักจากแรงอัดของกระสุนหรือไม่ ซึ่งในปัจจุบัน บริษัทของตน ได้ผลิตหมวกป้องกันไรเฟิล โดยเป็น 1 ใน 4 ของบริษัทในโลกที่สามารถผลิตได้ ซึ่งบริษัทตนเป็นของคนไทย 100%
โดยจุดต่อมา เครื่องจักรผลิตหมวกกันกระสุน โดยด้านบนจะมีหลักการของบริษัท ที่ติดไว้ว่า "We save lives for a living" งานของเราคือการช่วยเหลือชีวิตคนอื่น
โดยหมวกดังกล่าวจะถูกเปิดตัวครั้งเเรกในงาน Defense & Security 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2568 (ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นงานแสดงเทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์ด้านความมั่นคงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค)
จุดที่ 3 คือพาไปดูการทดสอบเกราะอ่อน ที่มักใช้ในตำรวจ ที่อาจเจอผู้ก่อเหตุในลักษณะของการใช้มีด โดยพนักงานมีการนำใบมีดปลายแหลมติดกับเครื่อง เเละเครื่องจะดึงขึ้นที่สูงเเละปล่อยลงมาตามเเรงโน้มถ่วง ที่มากกว่าแรงคน โดยทดสอบแทงเข้าเกราะที่ผลิตจะสามารถป้องกันการแทงได้ โดยพบว่า เกราะสามารถป้องกันการเเทงได้ ส่วนการทดสอบต่อไป คือการทดสอบกับเกราะอ่อนรูปแบบเก่า ที่ใช้กันกระสุนทั่วไป โดยก่อนเริ่มทดสอบจะมีการเปลี่ยนใบมีดใหม่ เพราะอันเดิมจะมีปลายมีดจะงอ ผลการทดสอบปรากฏใบมีดทะลุแผ่นเกราะประมาณ 1-2 นิ้ว
จุดที่ 4 นายวิวรณ์ ได้พาเข้ามาดูห้องที่ใช้สำหรับการออกแบบตัดเย็บ ผ้าที่ใช้หุ้มเสื้อเกราะ โดยนวัตกรรมของบริษัทที่ใช้คือ “ผ้าพรางอินฟาเรด” ที่ไม่สามารถตรวจจับได้เวลาใส่ในช่วงกลางคืน โดยใช้สารเคมีชนิดหนึ่งเคลือบไว้ เพื่อสะท้อนเเสงกลับทำให้มองไม่เห็นคนที่สวมชุดเกราะในเวลากลางคืน
ก่อนนายวิวรณ์ จะพาเข้าไปดูในห้องตัดเย็บผ้าที่ใช้หุ้มเสื้อเกราะ โดยจะมีพนักงานนั่งอยู่กับเครื่องจักร ซึ่งนอกเหนือจากการพรางตัวเเล้วยังต้องคำนึงถึง ตีนตุ๊กแก ต้องใช้ชนิดที่ใช้เฉพาะสำหรับทหาร เช่นเวลาทหารเข้าป่า ถ้าหากเเกะเเล้วเสียงดังเกินไป ก็ไม่ได้
จากนั้นจุดที่ 5 เป็นจุดที่นำชิ้นส่วนต่างๆ ของเกราะ มาประกอบเป็นรูปแบบชุดของชุดเกราะที่เราจะเห็นกันทั่วๆ ไป
จากนั้น "กัน จอมพลัง" เเละ นายวิวรณ์ ได้ร่วมกันตอบคำถามที่คนในสังคมยังคงคาใจหลายๆ อย่าง โดย กัน จอมพลัง เผยว่า การมาบริษัทผลิตเกราะในวันนี้ ถือเป็นครั้งเเรกของตน พอเกิดกระแสดรามาเรื้องชุดเกราะ จากตอนเเรกเรื่องเอกสารที่บอกว่าได้รับหนังสือ ที่ถูกต้องจริงหรือไม่ ตนก็ได้ตอบคำถามไปแล้ว ตนก็ยกตัวอย่างว่าบริษัทต่างประเทศ แผ่นเกราะราคา 20,000 กว่า แต่บริษัทนี้ช่วนลดราคาให้เป็นการทำบุญ เหลือ 6,000 บาทต่อแผ่น จนลามมาถึงเรื่องราคา แผ่นเกราะ 6,000 มีมาตรฐานหรือไม่ มีการทุจริตไหมว่ามีการบวกเพิ่มไหม วันนี้ตนเลยพามาดูว่าโรงงานมีมาตรฐานขนาดไหน ซึ่งจะต้องเป็นบริษัทที่มีความพร้อมจริงๆ อย่างที่เมื่อครู่เห็นเเล้วว่า หมวกเหล็กของเขาก็เป็น 1 ใน 4 บริษัทในโลกที่สามารถผลิตได้
โดย นายวิวรณ์ เผยว่า คำว่าราคา 6,000 บาท คือต่อ 1 แผ่นเกราะ ซึ่งเป็นแผ่นเกราะระดับ 4 โดยการจะใช้แผ่นเกราะกี่แผ่นต่อชุด จะขึ้นอยู่กับภารกิจ เเต่โดยส่วนใหญ่จะใช้ 2 แผ่นเป็นขั้นต่ำ ส่วนเรื่องมาตรฐาน เมื่อสักครู่ที่พาไปดู ทางบริษัทมีเเล็ปที่ได้มาตรฐาน NIJ 06 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สูงกว่า โดยปัจจุบันกองทัพจะใช้ มาตรฐาน NIJ 04 คือแผ่นเกราะไม่ต้องผ่านการทำลาย (มาตรฐาน NIJ คือ มาตรฐานที่กำหนดโดยสถาบันยุติธรรมแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NIJ) เพราะฉะนั้นการทดสอบยิงบนแล็บของตนก็เทียบเคียงกับต่างประเทศ ฉะนั้นเรื่องมาตรฐานก็หายห่วงได้
ส่วนเรื่องราคา 6,000 บาทเป็นการลดราคาเพื่อช่วยเหลือใช่หรือไม่ นายวิวรณ์ เผยว่า อยากให้ทุกคนลองทำอะไรก็ได้วันละหนึ่งอย่างที่เป็นการทำให้คนอื่นได้ผลประโยชน์มากกว่าตัวเอง สักครั้งที่ตัวเองต้องขาดทุนหรือเข้าเนื้อ ประเทศไทยก็จะมีกันจอมพลัง 70 ล้านคนขึ้น สังคมจะดีขึ้น ทุกคนทำได้ เเละที่บ้านตนสอนมาแบบนี้ คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจว่าแผ่นเกราะสำคัญอย่างไร แต่ตนรู้ โดยถ้าหากตนขายในราคาเต็มหรือฉวยโอกาสขึ้นราคาในช่วงนี้ก่อนก็สามารถทำได้แต่หมายความว่าเจ้าหน้าที่ที่จะได้รับแผ่นเกราะนี้จะได้รับน้อยลง โอกาสที่มีคนจะถูกกระสุนยิงก็มีเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งเหตุการณ์ในตอนนั้นเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน ตนใน ฐานะประธานบริษัทก็ยึดมั่นหลักการที่ว่า "We save lives for a living" เป็นโมเดลของบริษัท ถึงจะถูกด่าหรืออะไรก็ตาม ส่วนทาง กมธ. ก็ไม่ได้มีการติดต่อมาหาตนที่บริษัทเพื่อขอหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งอาจจะมีการรายงานตามขั้นตอนไป
ส่วนทางด้าน กัน จอมพลัง ก็ยืนยันว่า ทาง กมธ. ยังไม่มีมีการส่งหนังสือมาเพื่อขอตนส่งหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ ไปให้ ซึ่งตนยืนยันว่ายังไม่เคยได้เอกสารหรือหนังสือเชิญใดๆ โดยสิ่งที่ตนเจอเป็นเพียงการทักมาในกล่องแชทอินบ็อกซ์เพจเท่านั้น ซึ่งตนก็มีความสงสัยว่าหน่วยงานราชการที่ไหนจะใช้การเชิญคนหรือเรียกคนผ่านทางอินบ็อกซ์แบบนี้ แล้วสิ่งที่ทำแบบนี้เรียกว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเพจของตนมีคนทักเข้ามากว่า 500 คนแล้ว ตนก็ไม่ได้ดูเพจเอง ตนไม่มีเวลามอนิเตอร์เองต้องมีทีมงานคอยดู ส่วนเรื่องการเตรียมความพร้อมในเรื่องของเอกสารถ้าหากมีการขอดูตนเชื่อว่า จะต้องมีหนังสือแน่นอนอยู่แล้วไม่เช่นนั้นทางบริษัทก็ไม่สามารถผลิตเกราะได้ ซึ่งก็จะจะต้องมีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง
ส่วนเรื่องจะให้หรือไม่ให้เอกสารนั้น ตนต้องดูว่าจะเอาไปช่วยหรือจะเอาไปเล่นงานทหาร ซึ่งก่อนหน้าหน้านั้นหลายหลายท่านใน กมธ. ก็มีการชูแคมเปญทหารมีไว้ทำไม ทำให้ในวันนี้ตนเริ่มมีความสงสัย แต่หน่วยงานอื่นๆถ้าต้องการดูตนก็ยินดี
โดย กัน จอมพลัง ได้บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการที่ทหารขอแผ่นเกราะ ว่าก่อนหน้านี้ตนเองได้มีโอกาสที่ไปทำถนน จัดทำน้ำไฟ หรือจัดสิ่งของเข้าไปให้น้องๆ ทหาร โดยเรื่องที่น้องทหารมีความกังวลคือบริเวณจุดใกล้เคียงกัมพูชาในตอนนั้นมีการเอาพลซุ่มยิงขึ้นมาวางกำลัง ทำให้ทหารแนวหน้ามีความกังวล เลยมาบอกกับตนว่าอยากได้อะไรที่สามารถป้องกันได้ ตนเลยได้รับโจทย์ในเรื่องของชุดเกราะ แต่ตนไม่มีความรู้จึงได้ปรึกษาหลายท่านและหาบริษัทหลายเจ้าไปลองเปรียบเทียบราคาจากต่างประเทศ และพยายามติดต่อไปหลายที่แต่ราคาก็สูงมากจนมาเจอบริษัทนี้
แต่สิ่งต่อมาที่จะต้องทำคือเอกสาร ต้องมีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง โดยทางหน่วยถ้าหากต้องการช่วยทหารแนวหน้าก็จะต้องให้ผู้หลักผู้ใหญ่ขอหนังสือทำเรื่องให้ถูกต้อง โดยทางหน่วยงานก็จะมีการ ทำหนังสือส่งมาให้กับทางบริษัทที่ผลิต ส่วนตนมีหน้าที่แค่จ่ายเงิน วันนี้สิ่งที่ตนทำลงไปไม่ได้แค่เอาเท่ หรือได้เเค่ทำๆ ไป แต่สิ่งที่ทำสามารถช่วยเหลือชีวิตของเจ้าหน้าที่หน้างานได้ ตนได้มีโอกาสลงพื้นที่และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่แนวหน้าบอกว่าจุดบริเวณดังกล่าวเคยมี กระสุนปืน ค.มาตก เเต่โชคดีที่ใส่เกราะชุดนี้ เเล้วรอดชีวิต 3 คน
ซึ่งหน่วยงานที่ขอมาตนพูดได้อย่างชัดเจนว่ามี ตชด.และทหารพราน ขอความสนับสนุน ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่รองณัฎฐ์ ได้โพสต์ Facebook ไว้อย่างชัดเจนแล้วว่างบมีแต่จะต้องวางไว้ล่วงหน้ากว่า 2 ปี ไม่ใช่วันนี้พรุ่งนี้ได้เลย ซึ่งเวลาในตอนนั้นอาจจะไม่ทันการณ์ ถ้าในเวลานั้นใครสามารถทำอะไรที่ทำให้ทุกคนสามารถรอดชีวิตไปได้ตนเชื่อว่าในเวลานั้นทุกคนก็น่าจะช่วยกันทำ
ส่วนเรื่องของเอกสารที่ทางหน่วยงานได้มีการทำแล้วส่งมาให้กับบริษัท นายวิวรณ์ เผยว่า มีหนังสือส่งมาที่ตนหลายฉบับจริง มีความพยายามในการจะอธิบายว่าต้องการอะไรบ้าง แต่หนังสือที่ส่งมาไม่ถูกต้อง ตามแบบฟอร์มของทางราชการ อย่างหนังสือที่ถูกเผยแพร่ทางโซเชียลมีการเรียนไปยังคุณกันจอมพลัง แต่มูลนิธิไม่มีสิทธิ์ครอบครองยุทธภัณฑ์ทางทหาร หรือบางครั้งผู้ที่ขอมาอาจจะต้องมีลำดับยศที่สูงกว่า ฉะนั้นเอกสารที่เห็นจะถูกตีกลับทั้งหมด และมีเพียงแค่ 4 ฉบับเท่านั้น ที่ผ่าน การอนุญาตจากกระทรวงกลาโหม จนมาถึงบริษัทของตนและเริ่มขั้นตอนการผลิตแผ่นเกราะ ซึ่งเมื่อตนผลิตและนำไปส่งเเล้ว ปรากฏว่า หลายหน่วยงานที่ขอมา อาจจะมีการมาเเชร์ไปด้วย หรือบางครั้งก็ลืมเซ็นรับ ก็จะต้องไปตามกลับมา เเละใช้เวลาพอสมควร
เมื่อถามว่าหลังจากเกิดกระแสดราม่ามากขึ้นมีความกังวลใจใดใดหรือไม่ ด้านนายวิมลเผยว่าตนตนเองไม่มีความกังวลใจอะไร ถามมาตอบไป ตนเข้าใจว่าอาจจะเกิดคำถามในสังคมขึ้นอย่างหลากหลาย เรื่องของการขออนุญาตถูกต้อง แต่เนื่องจากเป็นภาวะฉุกเฉิน เเละตนมีความสามารถที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยได้เท่านั้น
ส่วน กัน จอมพลัง เผยว่า ทุกวันนี้มี สส. บางท่านออกมาบอกว่าตนเข้าข่ายผิดกฏหมายที่จัดหาชุดเกราะให้เจ้าหน้าที่ แต่ในความจริงแล้วตอนนั้นตนเพียงต้องการช่วยเหลือให้ทหารทุกคนสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย และช่วยกันในเวลาที่ประเทศชาติลำบาก ซึ่งในวันนี้ก็เห็นผลแล้วว่าสิ่งที่ตนและนายวิวรณ์ทำ สามารถช่วยเหลือคนได้จริง แต่ตอนนี้สิ่งที่ตามมาคือคนที่ช่วยกันในวันนั้นตอนนี้ได้รับผลกระทบทั้งหมด แต่คนที่ออกมาบอกว่าตนเองทำผิดนู่นนี่ ในวันที่เกิดปัญหาขึ้นพวกท่านอยู่ที่ไหน ได้ออกมาช่วยอะไรทหารและตำรวจที่อยู่หน้าเเนวได้กลับบ้านหรือไม่
ซึ่งตนเองรู้สึกสงสารทางบริษัททั้งที่ความเป็นจริงแล้วเขาสามารถช่วยโอกาสในช่วงชุลมุนขึ้นราคาของก็ได้แต่เค้ากลับลดราคาให้ แต่ในตอนนี้กลับถูกมองว่าราคา 6,000 บาทไม่ได้มาตรฐาน ไม่อยากให้ดิสเครดิตกัน เพราะบริษัทนี้ผลิตยุทธภัณฑ์ทางทหารส่งออกหลายประเทศ
"สำหรับใครที่บอกว่าตนผิด ตนไม่ได้ท้า สามารถไปดำเนินการกับตนได้เลย รับจบที่ตนเอง"
Advertisement