
พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ไลฟ์ในช่องยูทูบ โจ เรวัช กลิ่นเกษร เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนล่าสุด ว่า ปัจจุบันมองว่าสถานการณ์ชายแดนผ่อนคลายขึ้น หลังจากที่ทางกัมพูชายอมรับเงื่อนไข 4 ข้อในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 68 โดยตอนนี้กัมพูชาเริ่มมีการถอนอาวุธหนัก ทั้ง BM21 และ รถถัง ออกจากพื้นที่ชายแดนบ้างแล้ว จึงทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนก็เริ่มผ่อนคลายขึ้น และตนเองก็เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวทางพลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด บ่นเสียดายที่ ฮุนเซน ยอมแพ้เสียก่อน เพราะกลัวไทยถล่มซ้ำ ก่อนจะวิ่งแจ้นไปฟ้อง โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้มาเจราจาให้ไทยหยุดยิง ไม่เช่นนั้น ฮุนเซน ได้เห็นผลงานของแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ และ ผบ.กองกำลังบูรพา รวมทั้งผู้บัญชาการทหารอากาศแน่นอน
แต่ถึงอย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยไม่ควรไว้วางใจกัมพูชา เพราะกัมพูชาขึ้นชื่อเรื่องไร้สัจจะ สามารถเปลี่ยนใจได้ตลอดเวลา “คบเช้าได้ อย่าคบบ่าย” ดังนั้น อย่าไว้ใจกัมพูชาให้มาก
นอกจากนี้พลตำรวจโทเรวัช เห็นด้วยกับการการปิดด่าน แม้ไทยจะสูญเสียรายได้จากการค้าขายกับกัมพูชา แต่การปิดด่านกลับทำให้พืชเศรษฐกิจของไทย เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด และยางพารา มีราคาสูงขึ้น ประกอบกับรัฐบาล โดย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศห้ามนำเข้าสินค้าประเภทยางพาราจากลาวและเวียดนาม จึงทำให้สินค้าเศรษฐกิจของไทยมีราคาพุ่งขึ้นกว่าเท่าตัว
Advertisement