
นางนงรัตน์ จันทะมา ชาวบ้านหนองจาน ให้สัมภาษณ์ กรณี นายวีระ สมความคิด แสดงออกเชิงสัญลักษณ์เข้าพื้นที่เมื่อวานนี้ (31 ต.ค. 2558) ว่า ตนอยากขอบคุณกองทัพ และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตนในฐานะชาวบ้านหนองจาน เรายินดีที่ทุกคนให้ความร่วมมือ และพอใจมากที่ได้เข้าไป ณ จุดนั้นได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว ยืนยันเราไม่ได้มาเพื่อรบกวน แต่เรามาเพื่อให้กำลังใจและไม่ได้ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่นั้นสะดุด
ส่วนที่นายวีระ มีการมอบหมายให้เป็นตัวแทนชาวบ้านหนองจายนั้น ตนมีความยินดี และรับปากว่าหากได้ร่วมกับเจ้าหน้าในส่วนไหนเราจะแจ้งให้นายวีระได้รับทราบ และหากนายวีระไม่ว่างตนจะมาปฎิบัติหน้าที่แทน ซึ่งเราจะได้บอกฃบอกชาวบ้านหนองจาน และพี่น้องชาวไทยว่าเราได้ทำอะไรบ้างซึ่ง วันที่ 17 พ.ย. 2568 จะลงพื้นที่ปักหมุดร่วมกับกัมพูชา ก็จะได้เห็นว่ากัมพูชานั้นให้ความร่วมมืออย่างไร และขั้นตอนต่อไปจะทำสำเร็จหรือไม่อย่างไร
ส่วนที่มีชาวบ้านบางส่วนเห็นต่างกับเหตุการณ์เมื่อวานนี้นั้น นางนงรัตน์ กล่าวว่า เชื่อว่าคนในบ้านเมืองเราคิดไม่เหมือนกันทุกคน แต่สิ่งที่แสดงออกเราจะได้มีขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้สำหรับคนที่เห็นต่างอยากให้เข้าใจว่าการแสดงออกเป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของชาวไทยที่เราจะมาทวงคืนแผ่นดินไทยเท่านั้น
ส่วนที่นายวีระถูกเชิญไปพูดคุยที่สถานีตำรวจภูธรนั้นภูธรโคกสูงนั้น เราไม่มีความกังวล เพราะทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าไม่ใช่เป็นการเชิญตัวเพื่อดำเนินคดี แต่เป็นการเชิญไปพูดคุยให้เกิดความเข้าใจ และจะได้ทราบว่านายวีระ ต้องการอะไร ทั้งนี้สิ่งที่นายวีระต้องการคือการดำเนินงานในแนวชายแดน โดยต้องการให้แจ้งให้ชาวบ้านได้รับทราบด้วยเท่านั้น
มีเสียงสะท้อนว่าการม็อบทำให้ชาวบ้านหนองจานเดือดร้อน และอาจส่งผลให้ทหารกัมพูชาออกมาเคลื่อนไหว นางนงรัตน์ ระบุว่า ส่วนตัวมองว่าไม่มีผลกระทบ เขาอาจจะมองว่าเป็นการทำให้กัมพูชาไม่พอใจ ต้องถามกลับคืนว่าไม่พอใจเรื่องอะไร เพราะนายวีระมาในพื้นที่แผ่นดินไทย ซึ่งเราไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้เสียภาพลักษณ์ ซึ่งวันนี้ตนอยากมาแสดงความขอบคุณ และทางด้านเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการพูดอะไร ทั้งนี้เรารู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น เป็นเพียงการมาต้อนรับกันมากกว่า
ส่วนที่จะมีกลุ่มนักศึกษาปฏิรูปประเทศ หรือ คปท. เดินทางมาให้กำลังใจชาวบ้านบ้านหนองจาน เรายินดีต้อนรับ เพราะคนไทยทุกคนมีสิทธิ์มาที่บ้านหนองจาน เพราะพื้นที่ตรงจุดนี้เป็นแผ่นดินไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาจะมาดูว่าแผ่นดินไทยอยู่ครบหรือไม่ และตรงจุดไหนที่ยังขาดเหลือ และเจ้าหน้าที่บอกว่าให้เข้าได้ถึงจุดนี้เราก็เชื่อฟัง ซึ่งก็ขอเชิญมาได้เลย
ส่วนที่มีการปักหมุดใหม่ แล้วตู้คอนเทนเนอร์อาจจะไม่มีมีความจำเป็นแล้วนั้น นางนงรัตน์ ระบุว่า อยากให้ไปตามดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่มากกว่าว่าจะนำไปใช้หรือไม่ เพราะการวางตู้คอนเทนเนอร์ เข้าใจตรงกันว่าให้เกิดความชัดเจนและให้ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกัน แต่ทางชาวบ้านอยากได้กำแพงที่ถาวร
Advertisement