"บุ๋ม ปนัดดา"ชี้ กรรมาธิการทหารเรียกแจง หากมีที่มาชัด!ก็ไร้ปัญหา
บุ๋ม ปนัดดา เผยมุมมอง กรณีกรรมาธิการทหารเรียกแจง หากมีที่มาที่ไปก็ไม่มีปัญหา ขอร้องอย่านำตนไปผูกกับดรามาคนอื่น ยัน มูลนิธิองค์กรทำดีแจงที่มาที่ไปตลอด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายอนาลโย กอสกุล ที่ปรึกษา กมธ.ทหาร สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึง กรณีที่ทางกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร เตรียมเรียกผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์สายชายแดน มาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้
โดยประเด็นหลักๆที่จะมีการสอบถามข้อเท็จจริงคือเรื่องที่สังคมตั้งคำถาม เรื่องเกี่ยวกับการบริจาคของให้กับทหารที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยอยู่บริเวณแนวชายแดน โดยจะเน้นเรื่องกระบวนการจัดซื้อหรือสิ่งของที่ขาดแคลนและสิ่งของที่กองทัพได้รับไป มีความจำเป็นจริงหรือไม่
ตอนนี้ทางกรรมาธิการทหารได้ทำหนังสือถึงคุณกัน จอมพลัง เพื่อมาสอบถามข้อมูลที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ได้ได้รับการยืนยันว่าคุณ กัน จอมพลัง จะเดินทางมาหรือไม่ ส่วนอินฟลูเอนเซอร์คนอื่นๆทางกรรมาธิการยังไม่ได้มีการเชิญเข้ามา
ส่วนตัวยอมรับว่า กัน จอมพลัง ทำประโยชน์ให้กับกองทัพและพื้นที่บริเวณแนวชายแดน ส่วนกรณีข้อสงสัยเรื่องการรับบริจาคสิ่งของ ในมุมของกรรมาธิการทหาร พบว่ามีข้อสงสัยจริง ในมุมส่วนตัว มองว่าการมีเจตนาที่ดีช่วยเหลือสังคม จะต้องควบคู่มากับการได้มาที่ถูกต้อง โปร่งใส
หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณบุ๋ม ปนัดดา เพิ่มเติม ในเรื่องของกรรมาธิการทหารเรียกผู้บัญชาการทหารบกและผู้เกี่ยวข้องชี้แจง “ภารกิจฮีโร่ชายแดน” คุณบุ๋มมองประเด็นนี้อย่างไรนั้น
คุณบุ๋ม เผยว่า ถ้าเป็นไปตามขั้นตอนแล้วชี้แจงก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่อาจจะขาดการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างผู้ใหญ่กับทหารชั้นผู้น้อยที่อยู่หน้างานว่าขาดเหลืออะไร จึงสามารถขอความช่วยเหลือจากใครก็ตามที่พอจะช่วยเหลือได้ ขึ้นอยู่กับว่าทหารชั้นผู้น้อยอาจจะโดนตำหนิหรือไม่ แต่ในมุมของเอกชน ถ้าสามารถชี้แจงได้ว่ามีที่มาอย่างไรก็คงชัดเจนและไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนตัวคุณบุ๋มเอง ยังไม่ได้มีการเรียกชี้แจงอะไร แต่ตนนั้นดำรงตำแหน่งโฆษกจิตอาสา (ศบ.ทก.) อยู่แล้ว ก่อนจะได้มาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของกองกำลังบูรพาเพิ่ม ด้วยตำแหน่งและหน้าที่ถึงอย่างไรก็ต้องลงพื้นที่ ในกรณีของมูลนิธิองค์กรทำดีนั้นเป็นเพียงโรงครัว ถึงจะมีทำบังเกอร์บ้างแต่ไม่ได้ลุยงานหนักเหมือนคนอื่นๆ แต่ยืนยันว่ามีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน เช่น ถนนปนัดดา ก็เริ่มจากการเดินเท้าพร้อมกับทหาร ซึ่งตอนแรกไม่ได้ลงชื่ออะไร แต่มีนักการเมืองท้องถิ่นที่ถ่ายรูปไปเคลม เมื่อทหารเห็นแบบนั้นจึงเสนอชื่อตนใส่ไปเพื่อไม่ให้ใครมาเคลมได้ เนื่องจากต้องการปกป้องเงินบริจาคของประชาชน และทหารอยากให้เกียรติที่ตนเป็นคนร่วมภารกิจมาพร้อมกับเหล่าทหาร ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ชี้แจงที่มาอย่างชัดเจน ถ้าชี้แจงอย่างชัดเจนก็คงไม่มีปัญหาอะไร
ทีมข่าวถามต่อว่า ในกรณีที่เกิดขึ้นอาจทำให้คนอื่นๆ ไม่กล้าจะทำความดี คุณบุ๋มมองว่าการทำความดีไม่เกี่ยวกับความกล้า แต่ถ้าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างไรก็ต้องกล้าที่จะทำ
รวมถึงคุณบุ๋มนั้นเริ่มช่วยเหลือมาตั้งแต่แรกก่อนจะเกิดการปะทะ ซึ่งก็เจอดราม่ามาตลอด ตั้งแต่แม่สาย สตง. ต่อให้ไม่มีเหตุการณ์อะไรก็เจอดราม่า แต่หากทำอะไรชัดเจนและรู้เป้าหมายว่าทำสิ่งนั้นเพื่อใครก็เคลียร์ดราม่าทุกอย่างได้ วันเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์อยู่แล้ว
ส่วนองค์กรทำดี โชคดีที่ไม่เคยเจอดราม่า อาจจะเพราะว่าเมื่อจะทำอะไรก็บอกผู้ใหญ่เสมอ เพื่อป้องกันการดราม่า การทำงานตรงนี้หนักอยู่แล้ว แต่เจอดราม่ามันเหนื่อยใจมากกว่า ที่สำคัญอาจจะเพราะองค์กรทำดีมีคณะกรรมการในการดูแลส่วนต่างๆ และยังมีสาขาในการติดตามงาน ทุกอย่างมาพร้อมกับทีมงาน และจะชี้แจงอยู่เสมอว่าเป็นการร่วมมือกัน สิ่งที่จะช่วยเหลือเป็นเรื่องที่เห็นอยู่แล้ว อย่างเช่น ทหารมีอยู่แล้ว ห้องน้ำมีอยู่แล้วแต่อาจจะไม่เพียงพอ มูลนิธิก็จะเติมเต็มเข้าไปให้ผู้เดือดร้อนมีความสุข แต่จะไม่นำเสนอว่าผู้เดือดร้อนขาดอะไร ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการนำเสนอว่าเสนอมุมมองแบบไหน แต่เรื่องของการทำความดีเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วที่ควรจะเกิดขึ้นในการดูแลกันและกัน
แต่ด้วยสไตล์การทำงานทุกคนก็จะเห็นอยู่แล้วว่า บุ๋ม ปนัดดา นั้นทำงานอย่างไร เวลาชี้แจงก็จะชี้แจงสไตล์นางงาม ทำให้ผู้ใหญ่เมตตาและคนรอบข้าง ทำให้ทุกๆ คนรู้สึกว่า เราไม่ได้มีพิษมีภัยกับใคร มีแต่ความปรารถนาดี นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับทุกๆ มูลนิธิมาโดยตลอด ส่วนการสไตล์ทำงานๆ ของหนุ่มๆ หรือคนอื่นๆ ก็จะมีอีกสไตล์ การทำความดีไม่จำเป็นต้องบอกใครว่าเรามาทำงานแล้ว แต่ในการทำงานของน้องๆ หนุ่มๆ ผู้ชายก็เป็นศักดิ์ศรีของเขาที่อยากจะบอกกับทุกคนให้ภูมิใจร่วมกัน สไตล์ต่างกันแต่ทำความดีเหมือนกัน ถ้าชี้แจงได้ก็จบ
นอกจากนี้คุณบุ๋มยังบอกอีกว่า คนเราสามารถทำความดีได้หลายอย่าง “องค์พระก็ต้องงามทั้งองค์ ทำทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้า องค์พระก็จะสวยทั้งองค์” ดังนั้นการทำความดี ถ้าเป็นเอกชนขอให้อย่าท้อ ในสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี แต่ถ้าคนดีท้อ สังคมจะไม่น่าอยู่
ส่วนใครอยากทำมูลนิธิ ตนยินดีให้คำปรึกษา ซึ่งองค์กรทำดีก็ทำมาสิบกว่าปีแล้ว กว่าจะขอยื่นจดทะเบียนทำเรื่องให้เรียบร้อยก็สองปีกว่า เรารู้ขั้นตอนทุกอย่าง ถ้าอยากจะเริ่มก็สามารถมาขอคำปรึกษาได้ เพราะตนอยากให้คนทำความดีเยอะๆ ไม่อยากให้เอาดราม่ามาทำให้คนทำความดีท้อ คุณบุ๋มตอบด้วยท่าทียิ้มแย้มและหัวเราะว่า ตนเจอดราม่ามาเยอะ ถ้าไม่แกร่ง ไม่ฝ่าฟัน หรือปกป้องทีมงาน เขาจะไม่กล้ามาสู้ไปกับเรา ดังนั้นในฐานะประธานต้องเผชิญหลายอย่าง แต่เพียงต้องสอน และบอกให้รู้เป้าหมายว่าเราทำเพื่อใคร ดังนั้นถอยไม่ได้ เพราะความลำบากของคนอื่นรออยู่ อย่างเช่น จ.อุตรดิตถ์ แค่ปัจจัย 4 พื้นฐานยังไม่มีเลย เรื่องดราม่าที่คนสงสัยถ้าชี้แจงได้ก็จะจบปัญหา
คุณบุ๋มยังเล่าประสบการณ์เพิ่มเติมว่า ตนเจอดราม่ามาเยอะทั้งๆ ที่อยู่เฉยๆ จนบางทีก็ใจสั่น ไม่อยากให้เอาเราไปยุ่งกับดราม่า ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ทำอะไร เหมือนเด็กอนุบาลที่ตีกันแล้วโกรธทั้งห้อง ซึ่งวันนี้ที่ประเทศมีปัญหาทั้งชายแดน น้ำท่วม อาชญากรรม สแกมเมอร์ ไม่ควรทะเลาะกันเอง เราต้องช่วยกัน แถมวันนี้ยังมีความโศกเศร้าอยู่ข้างหลัง ตัวคุณบุ๋มมองว่าจะให้กำลังใจ โอบกอดเจ้าหน้าที่ หรืออยู่เคียงข้างประชาชนอย่างไร ตนมองเรื่องนี้มากกว่า
รวมถึงใครที่สงสัยว่าตนทำงานอะไร นำเงินมาจากไหน ขอชี้แจงว่าการทำงานของตนนั้นในหนึ่งวันทำหลายอย่างเพราะฉะนั้นก็ยังมีรายได้พอทำให้อยู่รอดได้ หากห่วงว่าตนจะนำเงินมาจากไหน ให้ห่วงว่าจะวิ่งงานทันไหมดีกว่า
สุดท้ายคุณบุ๋มบอกว่า วันนี้ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะทำให้ดีที่สุด และวางรากฐาน ทุกวันนี้ยังพอมีแรงจะทำก็อยากจะทำให้เต็มที่ อย่าลากตนไปเกี่ยวโยงกับดราม่าอื่นๆ เลย เจอดราม่ามาทั้งชีวิตแล้ว
Advertisement
