
วันที่ 29 ต.ค.68 ที่ตลาดสดเทศบาลนครตรัง ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการใช้จ่ายผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งเริ่มเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิวันแรก พบว่าประชาชนเริ่มออกมาใช้สิทธิกันอย่างต่อเนื่อง สร้างบรรยากาศการจับจ่ายในตลาดให้คึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โดยที่แผงขายไข่สดของ นายรหัส ประสงนิทัศน์ อายุ 72 ปี มีลูกค้าทยอยมาซื้อไข่กันตลอดทั้งเช้า หลายรายซื้อไข่เป็นยกแผง จากเดิมที่มักซื้อครั้งละเพียง 5–10 ฟอง ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
นายรหัส กล่าวว่า วันนี้มีลูกค้ามาเริ่มใช้สิทธิ “คนละครึ่งพลัส” ที่ร้านแล้ว ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี แม้จะมีบางคนยังใช้แอปพลิเคชันไม่คล่อง แต่ก็สามารถเรียนรู้ได้ไม่ยาก คาดว่าพรุ่งนี้ (30 ต.ค.) ซึ่งตรงกับวันออกเจบรรยากาศจะยิ่งคึกคักมากขึ้นกว่านี้แน่นอน
ด้าน นายประกิจ คงนคร อายุ 56 ปี อาชีพขับรถรับจ้าง กล่าวว่า ตนใช้สิทธิ “คนละครึ่งพลัส” ที่ร้านขายไข่เป็นร้านแรก โดยได้รับสิทธิจำนวน 2,000 บาท จากเดิมที่มักซื้อไข่เข้าบ้านครั้งละ 5–10 ฟอง แต่วันนี้ใช้สิทธิซื้อยกแผง พร้อมจะนำสิทธิที่เหลือไปซื้อหมูและปลากระป๋องไว้ทำอาหารในครอบครัว โดยบ้านของตนได้รับสิทธิรวม 2 คน คือ ตนเองและลูกชาย ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น จึงอยากให้รัฐบาลดำเนินโครงการนี้ต่อไป
ส่วนที่แผงขายผลไม้สดของ นางนุชรินทร์ ขำทอง อายุ 43 ปี บอกว่า วันนี้ยอดขายดีขึ้นกว่าทุกวันมาก จากปกติขายได้วันละประมาณ 300–400 บาท แต่เพียงช่วงเช้าในวันนี้ขายได้แล้วกว่า 1,000 บาท ถือว่าโครงการนี้ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ร้านค้าเป็นอย่างดี โดยจากนี้อาจต้องเพิ่มการสั่งผลไม้จากครั้งละ 1 ตะกร้า เป็น 2–3 ตะกร้า เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ นางสาวรัชดา อายุ 40 ปี ประชาชนผู้ได้รับสิทธิอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า มองว่า “คนละครึ่งพลัส” เป็นโครงการที่ดี เพราะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้จริง และยังช่วยให้ร้านค้าในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นการช่วยเหลือกันทั้งสองฝ่าย อยากให้ภาครัฐดำเนินโครงการลักษณะนี้ต่อเนื่องไป เพื่อให้ประชาชนและธุรกิจรายย่อยเดินหน้าไปได้พร้อมกัน
Advertisement