
วันที่ 15 ต.ค.2568 ความคืบหน้ากรณีเรือยนต์ลากจูงเกิดอุบัติเหตุล่มกลางแม่น้ำป่าสัก พื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลปากจั่น อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง สามารถกู้เรือขึ้นจากน้ำได้แล้ว หลังจากยกเรือขึ้นจากจุดเกิดเหตุ ส่วนภรรยาของคนขับเรือที่ตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนยังคงสูญหาย
โดยเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำจากมูลนิธิพุทไธสวรรย์กว่า 10 นายระดมกำลังค้นหาผู้สูญหาย โดยกระจายกำลังดำน้ำตั้งแต่จุดเรือจมล่องตามกระแสน้ำที่มีความลึกประมาณ 15 เมตร พร้อมเรือลาดตระเวนช่วยค้นหาตาม 2 ฝั่งลำน้ำป่าสัก
กรมเจ้าท่าสำนักงานพระนครศรีอยุธยาได้ประกาศปิดน่านน้ำชั่วคราวห้ามเรือทุกชนิดสัญจรผ่าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติภารกิจค้นหาและกู้เรือได้อย่างปลอดภัย
ก่อนการยกเรือนายศิราวุฒิ อายุ 24 ปี สามีซึ่งเป็นคนขับเรือรอดชีวิตจากเหตุการณ์ได้จุดธูปขอขมาแม่คงคา แม่ย่านางเรือ และเจ้าที่เจ้าทางขอให้ภรรยาที่สูญหายถูกพบโดยเร็ว ถ้าเจอน้องปลอดภัยจะของบวช และขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย
เจ้าหน้าที่บริษัทกู้เรือได้นำรถเครนขนาดใหญ่ เข้าดำเนินการยกเรือขึ้นจากน้ำ โดยใช้สลิงผูกตัวเรือหลายจุดเพื่อพยุงเรือให้ตั้งตรง และไม่แกว่งระหว่างการยกเนื่องจากเรือมีน้ำหนักกว่า 40 ตัน นักประดาน้ำต้องดำลงไปผูกสลิงและปรับตำแหน่งหลายครั้ง ก่อนจะสามารถยกเรือขึ้นมาพ้นน้ำได้สำเร็จ
จากการตรวจสอบพบว่ากระจกหน้าเรือแตกเสียหายข้าวของเครื่องใช้ภายในเรือกระจัดกระจาย ตัวเรือได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ไม่พบร่างของภรรยาคนขับเรือภายในตัวเรือแต่อย่างใด
ภายหลังการกู้เรือได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ลากนำเรือไปยังบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก ตำบลบ่อโพง อำเภอนครหลวง เพื่อสำรวจและซ่อมแซมความเสียหายเพิ่มเติม
นายบวรวงศ์ แซ่ฮ้อ อายุ 61 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับเรือมามากกว่า 40 ปี เปิดเผยว่า แม่น้ำป่าสักช่วงดังกล่าวไม่ได้มีกระแสน้ำเชี่ยว จุดอันตรายจริงๆจะอยู่บริเวณสามแยกวัดพนัญเชิง ซึ่งขบวนเรือก็ผ่านมาได้แล้ว ก่อนเกิดเหตุเชื่อครั้งเป็นอุบัติเหตุ
ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากแรงดึงจากเรือยนต์ข้างหน้าที่ใช้ลากโป๊ะสินค้ามาด้วยความเร็วเพื่อโค้งน้ำเรือยนต์ลากจูงต้องเร่งเครื่อง แต่เรือไม่มีเบรกทำให้เรือท้ายคัดโต่งต้องกลับลำเรือ เพื่อใช้ท้ายเรือในการดึงเรือแต่ช่วงที่จังหวะกลับหัวเรือเชือกอาจจะตึงเกิดพลิกจมลงอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เรือล่มและภรรยาคนขับเรือสูญหายดังกล่าว
ด้านนางสาวพัชราพร บุญหล้า อายุ 24 ปี พี่สาวของผู้สูญหายเดินทางมาพร้อมกับย่า จากสมุทรปราการ บอกว่า น้องมาอยู่กับแฟนประมาณ 2 ปีไม่ได้คุยกันนาน เพราะทะเลาะกัน แต่พอทราบเรื่องก็รีบเดินทางมาทันทีก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง พ่อแม่ก็เดินเรือสินค้าเหมือนกันไปต่างประเทศ กำลังเร่งเดินทางกลับมาแล้ว
ขณะเดียวกันเมื่อนายศิราวุฒิ เจอกับครอบครัวของภรรยาก็ยกมือไหว้ข้อโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำยังคงเร่งค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยจะขยายพื้นที่ค้นหาลงไปตามลำน้ำป่าสัก ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนและตรวจสอบอย่างละเอียเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
Advertisement