จากกรณีเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่13 ต.ค.68 ร.ต.อ.คุณาธิป ขุ่ยคำมี รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับการประสานจาก น.ต.ปรีชา ตระกูลกู้เกียรติ นายทหารเวรรักษาการณ์ฐานทัพเรือสัตหีบ ว่าคนงานก่อสร้างใช้รถแบคโฮ ขุดวางท่อสายสัญญาณที่ระดับความลึก 1.5 เมตร พบโครงกระดูกมนุษย์ อายุเก่าแก่จำนวนมากกระจัดกระจาย อยู่ในหลุมบริเวณทางเท้าเลียบรั้วหน้าประตู ทางเข้าโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ฐานทัพเรือสัตหีบ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ได้ทําการเก็บกู้โครงกระดูกทุกชิ้น ขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีจํานวนกว่า 100 ชิ้นประกอบด้วยชิ้นส่วนหัวกะโหลก ท่อนแขน ท่อนขา ฟันกราม ฟันและแผ่นทอง ส่วนอื่นย่อยสลายเป็นเศษดิน ถูกฝังไว้ใต้พื้นดินปกติไม่ได้มีการบรรจุใส่ภาชนะใดๆ
ล่าสุดต่อมาเวลา 13.30 น. พิสูจน์หลักฐานตํารวจสํานักงานพิสูจน์หลักฐาน2(ชลบุรี) นำโดยพ.ต.ท.ธัชกร ไชยสิทธิ์ กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ได้นํากําลังลงพื้นที่ตรวจสอบ จุดเกิดเหตุ เบื้องต้นได้ถ่ายบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ตรวจชั้นพื้นดิน รวมถึงโครงกระดูกยังไม่สามารถ ชี้ชัดระยะเวลาแต่มีสภาพอายุที่เก่าแก่ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะนําโครงกระดูก ที่พบทั้งหมดส่งตรวจพิสูจน์ยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตํารวจ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล รวมถึงระยะเวลาที่ถูกฝังอยู่ใต้พื้นดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความตกใจ ให้กับนายเสกสรร นามมูล อายุ 36 ปี คนขับรถแบคโฮ เพราะตลอดระยะเวลา 4 ปี ไม่เคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่ภายใต้ความตกใจก็รู้สึกยินดีกับการขุดพบโครงกระดูกผู้วายชนม์ และเสมือนเป็นการสร้างบุญกุศล เพราะหลังจากนี้โครงกระดูก ที่พบจะถูกนําไปบําเพ็ญกุศลทางศาสนา เพื่อก่อเกิดเป็นมหากุศลให้ดวงวิญญาณดวงนี้ เดินทางสู่สรวงสวรรค์สัมปรายภพ
นายเสกสรร คนขับรถแบคโฮ ยังเผยอีกว่า หลุมที่ขุดพบโครงกระดูกมีหมายเลขประจําหลุมคือหมายเลข 013 นอกจากนี้ ที่ตัวรถแม็คโครยังมีหมายเลขประจำเครื่องติดไว้คือหมายเลข 75 โดยจะนําเลขทั้ง 2 นี้ไปเสี่ยงโชคเผื่ออาจจะมีโชคมีลาภประจํางวดวันที่ 1 พ.ย.68
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดที่มีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ อยู่ห่างจากป่าช้าเก่า ของท้ายวัดสัตหีบหรือวัดหลวงพ่ออี๋ออกไปราว 50 เมตร เชื่อ ได้ว่าพื้นที่แห่งนี้ในอดีตอาจจะเคยเป็นป่าช้าเก่า ที่ชาวอําเภอสัตหีบ ได้นําร่างบรรพบุรุษมาฝังไว้ ให้สถิตอยู่ใต้พื้นดินบ้านเกิดมายาวนานนับร้อยปีก็เป็นได้
Advertisement