ย่าน้องน้ำโขงเหยื่อจรวดBM21 เตรียมสิ่งของไว้พร้อมอพยพหากมีปะทะพรุ่งนี้
ย่าของน้องน้ำโขงเหยื่อจรวด BM21 เตรียมสิ่งของไว้พร้อมอพยพหากมีปะทะพรุ่งนี้ ขออย่ามีใครสูญเสีย ยังทำใจไม่ได้ วอนทหารไทยจัดการให้จบๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 9 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าท่ามกลางข่าวลือแพร่สะพัดในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ชาวบ้านพูดกันต่อๆว่าทหารเขมรจะเปิดศึกสงครามยิงไทยก่อนในวันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.68) ประกอบกับสถานการณ์ตึงเครียดที่ บ.หนองจาน จ.สระแก้ว ที่กองทัพภาคที่ 1 ดีเดย์จะดำเนินการต่างๆก็มีโอกาสที่จะเกิดสถานการณ์ชายแดนปะทุขึ้นมาอีกรอบ
ทำให้ประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ต่างหวาดระแวง แม้จะมีการเตรียมความพร้อมกระเป๋าสัมภาระสิ่งของจำเป็นต่างๆ พร้อมอพยพตลอดเวลาก็ตามหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
โดยเฉพาะที่คุ้มหนองกก หมู่บ้านโจรก ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่จรวด BM21 ของทหารกัมพูชายิงมาตกใส่ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ทำให้ ด.ช.ธิติวัฒน์ บุญแต่ง หรือน้องน้ำโขง อายุ 8 ขวบ และนายบัณฑิต อุ่นจิตร อายุ 34 ปี เสียชีวิต ซึ่งพบว่าชาวบ้านยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ แต่ต่างมีการเตรียมความพร้อมเก็บเสื้อผ้าและสัมภาระจำเป็นไว้บนรถยนต์เรียบร้อยแล้ว พร้อมจะอพยพได้ทุกเมื่อหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น
ไม่ต่างจาก นางสะทน กันภัย อายุ 63 ปี คุณย่าของน้องน้ำโขง เหยื่อจรวด BM21 ของทหารกัมพูชาก็ได้มีการเตรียมเสื้อผ้าและสัมภาระ สิ่งของจำเป็นใส่กระเป๋ายกใส่ไว้บนรถยนต์กระบะที่ลูกชายซื้อมือสองมาใหม่ เพื่อไว้ใช้อพยพเช่นกัน
ย่าน้องน้ำโขง กล่าวว่า ได้ยินข่าวว่าเขมรจะยิงไทยพรุ่งนี้ (10ต.ค.) ตนก็รู้สึกกลัวมาก เพราะผ่านเหตุการณ์จรวดตกใส่ทำให้หลานชายเสียชีวิตมาแล้ว ตนได้เตรียมเสื้อผ้าสิ่งของยกไว้บนรถยนต์แล้ว หากมีการยิงและมีการประกาศก็จะอพยพออกไป อยากให้สงบสักทีไม่อยากให้ยิงกัน ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียกับใครอีก แค่นี้ก็พอแล้ว ตนก็ยังทำใจไม่ได้ คิดถึงหลานตลอดเวลา อยากให้จบเร็วๆ ถ้าจะยิงก็ยิงให้จบๆไปเลย อย่าให้ใครสูญเสียอีก
ส่วนเรื่องแผ่นดินก็อยากให้ทหารเอามาคืน สร้างรั้วใส่ลวดหนามสูงๆ ส่วนด่านก็ไม่อยากให้เปิด คนชายแดนก็ไม่เดือดร้อน อยู่แบบนี้ทำมาหากินกันเองก็สบายแล้ว ขอให้ชายแดนสงบ ที่ผ่านมาตนไม่ให้อภัยกัมพูชา เพราะมันโหดร้ายเกิน หลานทั้งคนต้องมาตาย สิ่งที่หน่วยงานต่างๆมาสร้างบ้านและชดเชยให้ก็ไม่มีค่าเท่าชีวิตของหลานชาย
ถ้าเป็นไปได้อยากได้หลานกลับมาอยู่กันแบบยากจนตนก็ยินดี และเลี้ยงดูแลครอบครัวของเราได้ หากเมื่อก่อนมีรถยนต์คงไม่ต้องรอให้คนอื่นมารับและคงจะไม่สูญเสียหลานชาย ลูกชาย พ่อของน้องน้ำโขงเพิ่งไปซื้อรถยนต์มือสองมาไว้อพยพ จะได้ออกไปทันหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น ส่วนบ้านหลังเก่าที่ถูกระเบิดเสียหายก็กำลังให้ช่างมาซ่อมแซมเปลี่ยนหลังคาและฝาบ้านอยู่
Advertisement
