ฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศไทยช่วงนี้ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดชัน ที่ราบเชิงเขา หมู่บ้านที่ติดลำห้วย หรือริมธารน้ำตก ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงต่ออันตรายจากดินถล่มและน้ำป่า
ในสถานการณ์เช่นนี้ การเตรียมตัวและรู้วิธีปฏิบัติสามารถช่วยชีวิตได้ “กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย” ได้แนะนำแนวทางการเอาตัวรอดเมื่อเกิดดินถล่ม ดังนี้
วิธีเอาตัวรอด เมื่อเกิดดินถล่ม
• อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย : อพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย พ้นจากแนวการไหลของดินถล่ม โดยขึ้นที่สูงหรือไปยังสถานที่ปลอดภัย ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณพื้นที่เสี่ยงดินถล่มอย่างน้อย 2-5 กิโลเมตร
• อยู่ห่างจากลำธารน้ำ : อยู่ห่างจากลําน้ำให้มากที่สุด เนื่องจากน้ำจะพัดพาดิน หิน และต้นไม้ มาตามลําน้ำ ก่อให้เกิดอันตรายได้
• ระมัดระวังเส้นทางน้ำไหลแรง : หลีกเลี่ยงเส้นทางที่เป็นแนวการไหลของดินหรือมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว หากจําเป็นให้ใช้เชือกผูกลําตัว พร้อมยึดเชือกไว้กับต้นไม้หรือสิ่งปลูกสร้างที่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวพัดจมน้ำ
• หากพลัดตกน้ำ : กรณีพลัดตกน้ำให้หาต้นไม้ใหญ่ยึดเกาะและปีนให้พ้นนํ้า ห้ามว่ายนํ้าหนีโดยเด็ดขาด เพราะอาจกระแทกกับซากต้นไม้หรือหินที่ไหลมาตามน้ำ ทําให้จมนํ้าเสียชีวิต
• ห้ามกลับเข้าไปในพื้นที่ดินโคลนถล่ม : ไม่ควรกลับเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย ควรรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยก่อนเข้าพื้นที่
ฝนตกหนักทำให้ความเสี่ยงต่อดินถล่มและน้ำป่า การรู้วิธีอพยพและปฏิบัติตนอย่างถูกต้องสามารถช่วยปกป้องชีวิตและลดความเสียหายได้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
Advertisement