วันที่ 22 ก.ย. 68 ที่จ.นครราชสีมา นพ.ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึงโรคไข้เลือดออกว่า ช่วงหน้าฝน มีผู้ป่วยจากโรคไข้เลือดออกเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่น เนื่องจากฝนตกชุก ทำให้มีน้ำขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงจำนวนมาก
ซึ่งโรคไข้เลือดออก มียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 11 ก.ย. 68 พบผู้ป่วยสะสมมากถึง 43,587 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 65.97 ต่อประชากรแสนคน และเสียชีวิต 36 รายแล้ว ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต คือ มีโรคประจำตัว ได้รับยาลดไข้ NSAIDs ไปแต่โรงพยาบาลช้า รวมถึง การติดสุรา และมีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐาน
ในขณะที่สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ในเขตสุขภาพที่ 9 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.–11 ก.ย. 68 พบผู้ป่วยสะสม จำนวน 4,284 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 64.92 ต่อประชากรแสนคน และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย เมื่อแยกเป็นรายจังหวัด พบว่า จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วยสะสม 1,463 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 56.05 ต่อประชากรแสนคน และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย , จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วยสะสม 328 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 30.66 ต่อประชากรแสนคน ไม่มีผู้เสียชีวิต , จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วยสะสม 1,011 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 64.73 ต่อประชากรแสนคน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย , จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วยสะสม 1,482 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 109.19 ต่อประชากรแสนคน และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยกลุ่มอายุที่ป่วยมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 10-14 ปี รองลงมาคือ 5-9 ปี และ 15-24 ปี ตามลำดับ
ซึ่งอาการของโรคไข้เลือดออก ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเฉียบพลันเกิน 39-40 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-7 วัน ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หน้าแดง อาจมีจุดแดงเล็กๆ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา นอกจากนี้อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเบื่ออาหาร ส่วนใหญ่ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ต่อมาไข้จะลดลง ในระยะนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้ จึงขอเตือนประชาชนให้ป้องกันตนเอง อย่าให้ถูกยุงลายกัด ชุมชนและโรงเรียนควรมีมาตรการป้องกันโรคไข้เลือดออก โดยยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือ เก็บบ้าน ให้ปลอดโปร่ง ไม่ให้ยุงเกาะพัก เก็บขยะ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และเก็บน้ำ ปิดฝาให้มิดชิด ไม่ให้ยุงวางไข่ หากปิดไม่ได้ให้เปลี่ยนบ่อยๆ หรือเทน้ำทิ้ง เพื่อป้องกัน 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ถ้าหากป่วยเป็นไข้เลือดออกขอให้รีบไปพบแพทย์ ห้ามรับประทานยาลดไข้ในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค แอสไพริน รวมถึงยาชุด เพราะอาจมีผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
Advertisement