เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 19 กันยายน 68 ที่วัดหัวลำโพง พระอารามหลวง พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังกรณีพระครูปริยัติวัฒนกิจ (สมาน ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ตัดสินใจลาสิกขา ท่ามกลางกระแสข่าวพัวพันสีกาและการยักยอกเงินวัด
พระธรรมสุธีกล่าวว่า ช่วงค่ำวานนี้ พระครูปริยัติวัฒนกิจมาหาตนที่กุฎิ พร้อมกับตัดสินใจลาสิกขาด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อยากให้พระพุทธศาสนาและวัดหัวลำโพงเสื่อมเสียจากข่าวลือที่เกิดขึ้น แม้ตนเองรู้สึกเสียดาย เพราะผู้ช่วยเจ้าอาวาสรูปนี้ถือเป็นพระนักปฏิบัติที่ทำงานเก่ง มีความสามารถ และบวชมานาน ตนเองจึงไม่อยากให้สึก แต่ก็เคารพการตัดสินใจ และไม่ทราบว่าหลังลาสิกขาแล้วไปที่ใดต่อ
ส่วนกรณีที่เพจออนไลน์บางแห่งกล่าวหาว่า เจ้าอาวาสใช้เงินวัดซื้อบ้าน ราคา 30 ล้าน ให้สีกาที่จังหวัดนครสวรรค์ พระธรรมสุธียืนยันว่าไม่เป็นความจริง พร้อมระบุว่า “บวชเป็นพระมาตั้งแต่เด็ก เงิน 30 ล้านยังไม่เคยจับสักครั้ง” โดยชี้แจงว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นญาติโยมที่เคยรู้จักกันมากว่า 10 ปี จากการนำวัตถุมงคลมาให้เช่าบูชา ภายหลังมีการชักชวนมาร่วมทอดกฐินที่วัดบ่อยครั้ง บางโอกาสตนให้เงินสด 5,000–6,000 บาท เพื่อซื้อวัตถุดิบทำอาหารถวายพระ เพราะเห็นว่าสีกาทำอาหารเก่ง ไม่ใช่การซื้อบ้านหรือดูแลส่วนตัวตามที่ถูกกล่าวหา อีกทั้งบ้านที่นครสวรรค์ก็เป็นบ้านของสีกา ที่สีกาอยู่กับลูก ๆ และมีสามี เพียงแต่สามีไม่ได้อยู่ประจำ
สำหรับข้อกล่าวหาว่าพระเทพ รองเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง มีลูกสาวขายยาและภรรยาปล่อยเงินกู้ พระธรรมสุธีปฏิเสธเช่นกัน โดยย้ำว่าพระเทพอาพาธ ต้องนั่งรถเข็น ไม่สามารถมีภรรยาได้ และไม่มีลูกสาวตามที่ถูกพาดพิง มีเพียงลูกสาวบุญธรรมที่ญาติโยมฝากไว้ด้วยความศรัทธา อีกทั้งพระเทพยังเป็นผู้ดูแลงานก่อสร้างและออกแบบอาคารต่าง ๆ ของวัดมาโดยตลอด และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับบัญชีเงินของวัดแต่อย่างใด
พระธรรมสุธี กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่คิดจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับเพจที่นำข้อมูลออกมาเผยแพร่ เพราะตั้งใจอโหสิกรรมให้ พร้อมฝากญาติโยมและสังคมว่า ควรติดตามข่าวสารอย่างมีสติและใช้วิจารณญาณ โดยยืนยันว่า “สิ่งที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริง ความจริงก็คือความจริง”
Advertisement