(19 ก.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิศณุพงษ์ นกแก้ว ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย จ.ปัตตานี พร้อมด้วย นายคอเล เจะมะ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย สาขาเมืองปัตตานี น.ส.ฮาฟาวาตี มะเกะ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรระดับ 6 และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าของแปลงเกษตรผสมผสานในสวนยางพาราของเกษตรกรรายย่อย
พื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ในหมู่ 6 ต.ลูโบะยิไร อ.มายอ และหมู่ 4 ต.ช้างไห้ตก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยเกษตรกรในพื้นที่ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการทำสวนยางจากการปลูกเชิงเดี่ยว มาสู่การทำ สวนยางผสมผสาน ด้วยการปลูกไม้มีค่า เช่น ต้นพะยูง ต้นสัก และต้นยางนา ร่วมกับไม้ผลหลากหลายชนิดในพื้นที่เดียวกัน
แนวทางดังกล่าวนอกจากจะช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพแล้ว ยังเป็นการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ช่วยสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยไม้ผลสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกฤดูกาล ขณะที่ไม้ยืนต้นมีมูลค่าสูงและสามารถเป็น ทรัพย์สินในอนาคต สร้างความมั่นคงให้ครอบครัวได้
สำหรับ โครงการสวนยางผสมผสานถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญสำหรับเกษตรกรในจังหวัดชายแดนใต้ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาราคายางพาราที่ผันผวน อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและดินน้ำในพื้นที่ไปพร้อมกัน ที่สำคัญคือเกษตรกรไม่จำเป็นต้องโค่นต้นยางทิ้ง แต่สามารถใช้พื้นที่ว่างปลูกพืชอื่นร่วมได้ เป็นการเพิ่มมูลค่าโดยไม่กระทบต่อการกรีดยาง
ทั้งนี้ การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดปัตตานี ได้วางแผนที่จะขยายแนวทางสวนยางผสมผสานไปยังพื้นที่อื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้ที่หลากหลาย มีความเป็นอยู่ที่มั่นคงและยั่งยืน และยังช่วยสนับสนุนให้พื้นที่ปัตตานีเป็นศูนย์กลางการเกษตรที่มีทั้งคุณค่าเชิงเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในอนาคต
Advertisement