เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่อาคารพระเทพวิทยาคมชั้น3 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยวิทยาเขตนครราชสีมา(มจร.นม.) พระราชวัชรคุณบัณฑิตเจ้าอาวาส วัดด่านใน อ.ด่านขุนทดและรองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาในฐานะรองอธิการบดีมจร.นม. โดยให้สัมภาษณ์หลังเสร็จภารกิจเป็นประธานในพิธีทักษิณานุปทาน และมอบโอวาทธรรมแก่คณาจารย์และนิสิตนักศึกษากว่า 1.6 พันคน เนื่องในกิจกรรมไหว้ครูเปิดเผยว่าสถานการณ์พุทธศาสนาทั่วประเทศ
โดยเฉพาะในพื้นที่32 อำเภอของ จ.นครราชสีมาซึ่งมีจำนวนวัด 2,102 แห่ง มากที่สุดในประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาวิกฤตศรัทธาจากข่าวเกี่ยวกับพระสงฆ์ประพฤติผิดวินัยเช่นวัดศาลาลอยถือเป็นวัดเก่าแก่และเป็นที่ประดิษฐานและเก็บอัฐิของท้าวสุรนารี(ย่าโม)เดิมต่อวันมีประชาชนมาทำบุญคึกคักเฉลี่ย 2-3พันคน ได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีคนทำบุญบางตาเหลือไม่ถึง300คน และพุทธศาสนิกชนตักบาตรลดลงร่วม70-80%บางวันแทบไม่มีคนใส่บาตรทำให้พระ-สามเณรเดือดร้อนไม่มีอาหารฉันเพล
“สิ่งที่ควรมองเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นความผิดของบุคคลมิใช่พุทธศาสนา โดยรวมพระธรรมและพระสงฆ์ยังคงมีคุณค่าสำคัญต่อสังคมการทอดทิ้งพุทธศาสนาอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของศาสนาและสังคมพุทธศาสนิกชนควร แยกแยะระหว่างการปฏิเสธพระที่ประพฤติผิดและการรักษาคุณค่าของศาสนาไว้ เพื่อให้พุทธศาสนามีบทบาทสำคัญในสังคมไทยต่อไปต้องยอมรับข่าวพระสงฆ์ที่ปรากฏตามสื่อสารมวลชน นั้นมีผลกระทบจริงต่อความรู้สึกของพุทธศาสนิกชน ที่เกี่ยวเนื่องด้วยกับการทำบุญทํานุบํารุงศาสนา
แต่สิ่งหนึ่งฝากญาติโยมพุทธศาสนิกชนชาวไทยคำสอนของพระพุทธเจ้าและองค์รวมนั้นไม่ผิดหากท่านทั้งหลายจะปฏิเสธหรือลงโทษก็ต้องแยกแยะพระ-เณรจำนวนหลายแสนรูป ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและอยู่ในศีลาจารวัตรกฎระเบียบ ที่สำคัญไม่มียศไม่มีตำแหน่งอยู่ได้ด้วยบารมีของพระพุทธเจ้าบารมีพระธรรมบารมีพระสงฆ์หากญาติโยมทอดทิ้ง สิ่งที่เกิดขึ้นพระภิกษุสามเณรอาจอยู่ไม่ได้ก็ต้องลาสิกขา ขอฝากท่านทั้งหลายอย่างทอดทิ้งให้เอาศาสนาไว้ก่อน เพราะมีคุณประโยชน์ต่อสังคมต่อประเทศชาติบ้านเมืองอาจจะโกรธเคืองก็ให้ปฏิเสธเฉพาะพระที่ประพฤติผิดพระพุทธศาสนา ยังมีคุณค่ามีประโยชน์มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อสังคมไทยเจริญพร” รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมากล่าว
Advertisement