ทุกวันนี้การโอนเงินผ่านแอปธนาคารทำได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ความสะดวกนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่หลายคนอาจไม่ทันระวัง เช่น การกรอกเลขบัญชีผิด เลือกพร้อมเพย์ผิด หรือโอนผิดธนาคาร เมื่อเงินถูกโอนไปแล้วจะไม่สามารถยกเลิกได้
หากผู้รับไม่ยอมคืนเงินหรือถ้าแย่กว่านั้นคือนำเงินไปใช้เอง อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่จนถึงขั้นมีคดีความได้ เพราะถือเป็นการยักยอกทรัพย์ผู้อื่นตามกฎหมาย ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องทุกครั้งก่อนโอน เพื่อป้องกันความผิดพลาด และหากเกิดเหตุโอนเงินผิดจริง นี่คือแนวทางการรับมือที่ควรปฏิบัติ
ถ้าเราเป็นฝ่ายโอนผิด
1.ติดต่อธนาคารต้นทางทันที
• แจ้งว่ามีการโอนผิดบัญชี
• สอบถามเอกสารที่ต้องใช้ (แต่ละธนาคารอาจไม่เหมือนกัน)
2.หลักฐานที่ควรเตรียม
• วัน เวลา จำนวนเงิน และช่องทางการโอน
• สลิป/e-slip
• สำเนาบัตรประชาชน
• ใบคำร้องตรวจสอบการโอนผิดบัญชี
• ใบแจ้งความ (หากโอนต่างธนาคารแล้วถูกขอเพิ่ม)
3.ขั้นตอนหลังแจ้งธนาคาร
• ธนาคารจะเป็นผู้ประสานไปยังบัญชีปลายทาง เพื่อขอความยินยอมโอนเงินคืน
• หากผู้รับยอมคืน ธนาคารจะโอนกลับมาให้
• หากผู้รับปฏิเสธหรือติดต่อไม่ได้ ผู้โอนสามารถแจ้งความกับตำรวจ เพื่อดำเนินการอายัดบัญชีและดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
หากมีคนโอนผิดเข้ามาในบัญชีเรา
1.ติดต่อธนาคารทันที
• หากพบว่าโอนเงินผิดบัญชี ให้ไปติดต่อธนาคารของเราก่อนเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
• หากธนาคารยืนยันว่าเงินโอนเข้าผิดบัญชีจริง ให้เราอนุญาตธนาคารในการโอนเงินคืนไปยังเจ้าของบัญชี
2.ไม่ควรโอนเงินคืนเอง
• การโอนเงินกลับด้วยตัวเองอาจเสี่ยงถูกมิจฉาชีพหลอกใช้บัญชีของเราเป็น “บัญชีม้า” เพื่อโอนเงินผิดกฎหมาย หรือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟอกเงิน
• มิจฉาชีพอาจขอให้โอนเงินไปยังบัญชีอื่น โดยอ้างว่าโอนผิดบัญชี ซึ่งหากทำตามอาจเข้าข่ายความผิดทางกฎหมายโดยไม่ตั้งใจ
3.ระวังการใช้เงินที่โอนผิดเข้ามา
• หากเงินโอนผิดเข้ามาในบัญชีเราโดยไม่ได้เป็นกลลวง แต่เราเพิกเฉยหรือนำไปใช้ เจ้าของเงินสามารถแจ้งความและดำเนินคดีกับเราได้
วิธีป้องกันไม่ให้โอนเงินผิด
ก่อนกดยืนยันการโอนทุกครั้ง ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่า เลขบัญชี/พร้อมเพย์ ชื่อบัญชี ธนาคาร และจำนวนเงินถูกต้องครบถ้วน เพื่อป้องกันความผิดพลาด หากเกิดการโอนผิดจริงให้ติดต่อธนาคารทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินการอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามขั้นตอน
Advertisement