เวลาพูดถึง “การตรวจสารเสพติด” หลายคนมักนึกถึงภาพการเก็บปัสสาวะแล้วส่งตรวจในห้องแล็บ แต่ความจริงแล้วการตรวจหาสารเสพติดนั้น สามารถทำได้จากตัวอย่างชีวภาพหลายชนิดในร่างกาย ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดี ข้อจำกัด และความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป
ทำไมต้องตรวจสารเสพติด
การตรวจสารเสพติด คือกระบวนการพิสูจน์ว่าบุคคลนั้นมีการเสพสารเสพติดหรือไม่ โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่มีมาตรฐาน เพื่อให้ผลตรวจสามารถใช้ยืนยันในกระบวนการทางกฎหมายและชั้นศาลได้อย่างถูกต้องและน่าเชื่อถือ
ตัวอย่างที่ใช้ตรวจมีอะไรบ้าง
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า การตรวจหาสารเสพติดในร่างกายสามารถทำได้จากตัวอย่างชีววัตถุหลายประเภท เช่น ปัสสาวะ เหงื่อ น้ำลาย เลือด เส้นผม และเล็บ โดยการเลือกใช้ชนิดตัวอย่างนั้น จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกัน ได้แก่
• วัตถุประสงค์ของการตรวจ
• ปริมาณสารเสพติดที่คาดว่าจะตรวจพบในตัวอย่าง
• ความสะดวกหรือความยากในการเก็บตัวอย่าง
• วิธีการเก็บรักษาและการขนส่งตัวอย่าง
• รวมถึงความพร้อมของห้องปฏิบัติการในการตรวจวิเคราะห์อย่างถูกต้องและมีมาตรฐาน
ปัสสาวะ
ปัสสาวะเป็นตัวอย่างที่นิยมใช้ตรวจหาสารเสพติดมากที่สุด เพราะเก็บได้ง่ายและได้ปริมาณมากเพียงพอสำหรับการวิเคราะห์ นอกจากนี้ผลตรวจจากปัสสาวะยังเป็นที่ยอมรับในระดับสากลและใช้ในชั้นศาลได้ การตรวจจากปัสสาวะสามารถพบสารเสพติดได้นานหลายวันหลังจากการเสพ
แต่ก็มีข้อจำกัดคือตัวอย่างอาจถูกปลอมแปลงได้ง่าย และหากเก็บตัวอย่างเร็วเกินไปหลังจากเสพสาร อาจตรวจไม่พบสารเสพติด เนื่องจากสารยังไม่ถูกขับออกมา นอกจากนี้ระดับสารเสพติดในปัสสาวะยังขึ้นอยู่กับความเป็นกรด-ด่างของน้ำปัสสาวะด้วย
เลือด
การตรวจสารเสพติดในเลือด จะช่วยบอกได้ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เสพสาร เพราะปริมาณสารเสพติดในเลือดสัมพันธ์กับเวลาที่เสพมากกว่า แต่การเก็บเลือดต้องทำโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และต้องเก็บรักษาอย่างเหมาะสม จึงไม่สะดวกเหมือนการเก็บปัสสาวะ
น้ำลายและเหงื่อ
น้ำลายและเหงื่อเป็นตัวอย่างใหม่ที่นำมาใช้ตรวจสารเสพติดได้ เนื่องจากเก็บง่าย ไม่เจ็บตัว และสารเสพติดในน้ำลายกับเหงื่อเป็นสารตัวตรง ไม่ใช่สารเมตาบอไลต์เหมือนในปัสสาวะ แต่ข้อจำกัดคือปริมาณสารเสพติดในน้ำลายและเหงื่อจะน้อย ทำให้ตรวจยากกว่า
เส้นผม
สำหรับเส้นผม เป็นตัวอย่างที่ใช้ตรวจสารเสพติดในระยะยาวได้ เพราะสามารถตรวจพบสารเสพติดได้เป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนหลังจากเสพครั้งสุดท้าย ขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม ข้อดีของการใช้เส้นผมคือเก็บง่ายและสามารถล้างสารปนเปื้อนภายนอกออกก่อนตรวจได้ แต่การตรวจจะต้องส่งไปทำในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ไม่สามารถตรวจในภาคสนามได้ทันที
สารเมตาบอไลต์คืออะไร
เมื่อร่างกายได้รับสารเสพติดเข้าไป สารนั้นจะถูกเปลี่ยนแปลงเป็น “สารเมตาบอไลต์” ก่อนถูกขับออกจากร่างกาย ซึ่งการตรวจสารเมตาบอไลต์ในตัวอย่างชีววัตถุต่างๆ จะช่วยบอกได้ว่ามีการเสพสารเสพติด แม้จะผ่านเวลามานานแล้วก็ตาม
การตรวจสารเสพติดมีหลายวิธีและหลากหลายตัวอย่างให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความเหมาะสม แต่จุดหมายสำคัญคือเพื่อให้ได้ผลตรวจที่ถูกต้อง แม่นยำ และสามารถนำไปใช้ในกระบวนการทางกฎหมายได้อย่างเชื่อถือ
ที่มา : https://bdn.go.th/pt/upload/nw/file/file-17-Thai-702579601.pdf (กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข)
Advertisement