วันที่ 14 ก.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน รับแจ้งจากนิติบุคคลของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านถนนกัลปพฤกษ์ เขตจอมทอง กทม. ว่า มีชายตกลงไปในช่องว่างของแผ่นคอนกรีตที่ใช้กั้นตลิ่งของคอนโดมิเนียม กับริมคลองด้านหลังคอนโดฯ จึงเข้าไปตรวจสอบ
เมื่อเข้าไปถึง พบชายคนดังกล่าวเป็นชาวต่างชาติ ทราบชื่อคือ นายแจ็ค อายุ 28 ปี สัญชาติอเมริกัน นอนมุดเปลือยกายลำตัวอยู่ใต้ดินที่เป็นช่องว่าง ส่วนขาทั้งสองข้างโผล่ไปที่ปลายท่อระบายน้ำมองเห็นได้จากคลอง เจ้าหน้าที่จึงประสานกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร นำเครื่องตัดถ่าง และเครื่องเจาะคอนกรีต เพื่อเข้าช่วยเหลือชายคนดังกล่าว
เบื้องต้น ชายคนนี้ยังรู้สึกตัว แต่ขณะช่วยเหลือ ชายคนนี้พูดภาษาอังกฤษว่าไม่ต้องการให้ช่วยเหลือ สามารถออกมาเองได้ เจ้าหน้าที่ก็พยายามเข้าช่วยเหลือโดยใช้เครื่องมือต่างๆ
ทั้งตัด สกัด เจาะแผ่นคอนกรีต แต่ชายคนนี้ ก็พยายามมุดหนีเข้าไปในช่องว่างต่อ และยังคลุ้มคลั่งโวยวายไม่เลิก เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจมุดเข้าไปในช่องว่างแล้วใช้ผ้าดิบเข้าไปมัดที่ลำตัวของชายคนนี้ และช่วยกันดึงขึ้นมาจากช่องว่าง
ส่วนในน้ำ เจ้าหน้าที่อีกชุดก็ช่วยกันดันขาที่อยู่ปลายท่อ ให้ขึ้นมาด้านบน แต่ระหว่างที่กู้ภัยช่วยกันดึงตัวขึ้นมาจากช่องว่างนั้น ชายคนนี้กลับมีอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก และได้กัดสายนาฬิกาข้อมือของกู้ชีพของผู้หญิงคนหนึ่ง และเคี้ยวสายนาฬิกาอยู่ในปาก
หลังจากนำตัวขึ้นมาได้แล้ว ชายคนนี้ยังพูดไม่รู้เรื่อง และได้ถุยน้ำลายใส่กู้ภัยอีก เจ้าหน้าที่จึงได้นำหน้ากากอนามัยมาปิดปากเอาไว้ และมัดตัวกับกระดานบอร์ด เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพตรวจร่างกายว่าได้รับบาดเจ็บบริเวณที่ใดบ้าง เบื้องต้นก็ไม่พบรอยบาดแผลฉกรรจ์ มีเพียงรอยถลอกเล็กน้อย และอาการคลุ้มคลั่ง หวาดกลัวคล้ายคนหลอนจากอาการเสพสารเสพติด
ระหว่างนั้นมีลูกบ้านที่พักอยู่ในคอนโดมิเนียม เป็นชาวต่างชาติได้เข้ามาช่วยสื่อสารภาษาอังกฤษให้กับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นนายแจ็คก็ยังพูดจากวกวน และบอกเพียงว่า เคยพักอาศัยอยู่กับแฟนสาวชาวไทย ที่คอนโดยมิเนียแห่งนี้ ส่วนก่อนหน้านี้ลงไปที่ช่องว่างนี้ได้อย่างไร ยังจับใจความไม่ได้ แต่เมื่อมีลูกบ้านพบเห็นจึงได้ไปแจ้งนิติบุคคลให้มาตรวจสอบ ก่อนที่จะมาช่วยเหลือขึ้นมา
เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้นำตัวชายคนนี้ส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บ และคลุ้มคลั่งที่ โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาไว้ก่อน เพื่อรอติดต่อญาติ และสถานทูตให้มาร่วมตรวจสอบต่อไป ส่วนทางนิติบุคคลคอนโดมิเนียม กำลังตรวจสอบว่าชายคนนี้เคยมาพักอาศัยอยู่ที่นี่หรือไม่
Advertisement