จากคลิปเหตุการณ์ที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ควบคุมตัว นายเทวา อดีตโค้ชเทนนิส อายุ 69 ปี ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อทำการเปรียบเทียบปรับ หลัง นายเทวา ได้ก่อเหตุบุกไปยังหน้าสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ เขตวังทองหลาง กทม. พร้อมกับกระดาษรูปหน้าของ สมเด็จฮุนเซน ผู้นำประเทศกัมพูชา ก่อนจะคลี่กางกระดาษรูปดังกล่าวลงกับพื้น แล้วใข้ถุงบรรจุน้ำปลาร้าที่เตรียมมาขว้างใส่รูป ฮุนเซน ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการณ์อยู่เข้ามาควยคุมตัว นายเทวา ไปดำเนินคดีที่โรงพัก พร้อมกับทำการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดก่อนจะทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 100 บาท พร้อมกับปล่อยตัวกลับบ้าน
วานนี้ (8 ก.ค. 2568) เมื่อเวลา 17.00 น. นายเทวา อดีตโค้ชเทนนิส ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตนได้ตัดสินใจที่จะเดินทางไปประท้วงสถานฑูตกัมพูชาโดยการนำน้ำปลาร้าไปปาใส่เป็นการแสดงการประท้วงถึง สมเด็จฮุนเซน ที่มีพฤติกรรมจองหองใส่ประเทศไทยด้วยการหาเรื่องเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อน โดยตนได้ออกเดินทางด้วยเท้าเปล่าจากบ้านพักย่านปากเกร็ด ตั้งแต่ 6 โมงเช้า โดยตั้งใจว่าจะเดินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงสถานฑูตกัมพูชา แต่ไปเจอคนขับรถจักรยานยนต์คันหนึ่งที่วงเวียนบางเขนมาช่วยเหลือด้วยการรับตนไปส่งที่ถนนลาดปลาเค้า ตนจึงเดินต่อมาจนถึงหน้าสถานฑูตช่วงประมาณ 11 โมงกว่า ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5 ชม.
นายเทวา กล่าวอีกว่า เมื่อตนไปถึงหน้าสถานฑูตแล้วตนได้หยุดพักแวะกินน้ำที่ร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะข้ามถนนมาแล้วนำน้ำปลาร้าปาใส่รูป สมเด็จฮุนเซน ตามที่ตั้งใจไว้ เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมของผู้นำกัมพูชารายนี้ หลังจากที่ตนปาถุงน้ำปลาร้าเสร็จแล้ว ก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาห้ามปราม ตนให้เขาเก็บรูปกับถุงน้ำปลาร้าไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กักตัวตนไว้เพื่อรอสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่สถานฑูตกัมพูชาว่าจะดำเนินการอย่างไร ระหว่างรอคำตอบก็มีร้อยเวรมารับตัวตนไปที่ สน.วังทองหลาง
นายเทวา กล่าวอีกว่า ระหว่างที่ถูกควบคุมอยู่ที่ สน.วังทองหลาง ตนถูกสอบปากคำสอบประวัติอยู่นานหลายขั่วโมงตั้งแต่ 13.00 น. จถึง 17.00 น. ระหว่างสอบปากคำทางเจ้าหน้าที่สถานฑูตไม่มาแจ้งความดำเนินคดีกับตน หลังสอบปากคำเสร็จจึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับในข้อหาทิ้งสิ่งของบนทางเท้า พร้อมกับถามตนว่ามีเงินเสียค่าปรับไหม ตนจึงบอกไปว่าทั้งตัวมีเงินอยู่ร้อยกว่าบาทเพราะตอนเช้าที่ตนออกจากบ้านมาตนมีเงินติดตัวอยู่เพียง 200 บาท แวะซื้อบุหรี่ไป 70 บาท ซื้อน้ำไป 7 บาท เหลือเงินอยู่ 123 บาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการเปรียบเทียบปรับตนเป็น 100 บาทแทน แต่ถ้าจะปรับตนมากกว่านี้ตนคงไม่มีจ่ายให้ แต่ตนจะยอมติดคุกแทน หลังจากนั้นตนก็จะเดินเท้าจาก สน.วังทองหลาง เพื่อกลับบ้านที่ปากเกร็ดจนมาถึงบ้านประมาณ 22.00 น.
นายเทวา กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ตนต้องบุกไปปาน้ำปลาร้าที่หน้าสถานฑูตกัมพูชานั้น เพราะตนรู้สึกเจ็บใจมาตั้งแต่เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น คือ เรื่องเขาพระวิหารแล้ว จนหลังเกิดสถานการณ์ล่าสุดที่แนวชายแดน ตนก็เดินเท้าเป็นเวลาเกือบ 10 วัน ไปให้กำลังใจทหารไทยที่แนวชายแดนมาแล้ว แต่ที่ทำให้ตนแปลกประหลาดใจก็คือ ทำไมประเทศเราถึงปล่อยให้ทหารกัมพูชาเข้ามาเฝ้าถึงในพื้นที่จุดทับซ้อนด้วย ซึ่งแต่ก่อนนี้ตนไม่เคยเห็นมีทหารกัมพูชามาเฝ้า การที่ประเทศเราปล่อยให้ทหารกัมพูชามาอ้างสิทธิ์เฝ้าร่วมไปด้วยเหมือนไปทำให้เขามีส่วนในดินแดนตรงนั้น ตามแผนที่เขาต้องการนำเราไปฟ้องต่อศาลโลก ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ยอมแน่ เพราะขนาดเขาพระวิหารตนยังจะเดินไปประท้วงเอาคืนอยู่เลย ตนอยากให้ปะทะด้วยจะได้เดินเท้าไปที่ จ.สุรินทร์ อีกเดินไปให้กำลังใจทหาร การที่ตนเอาน้ำปลาร้าไปปาหน้าสถานทูตกัมพูชาเพราะตนมีความรู้สึกโมโหมาก "ฮุนเซนปากมึงเหม็นมึงโม้เก่ง" ที่ผ่านมาตนเคยเดินไปถึง ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย มาแล้ว หลังเกิดข้อพิพาทกันด้วยความโมโห
นายเทวา กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ หลานๆ ทหาร สู้ๆ ส่วนรัฐบาลตนไม่อยากจะซ้ำเติมอะไรมากนัก เพราะว่าโดนหนักอยู่และถ้าหน่วยงานไหนในประเทศเหม็นเน่าก็จะโดนถุงปลาร้าของตนแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายเทวา อดีตโค้ชเทนนิสรายนี้ เคยบุกไปยังสำนักงานกกต. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เมื่อ 20 ก.ค. 2566 ก่อนจะนำถุงน้ำปลาร้าที่เตรียมมาปาใส่บริเวณด้านหน้าห้องรับ-ส่งหนังสือ เรื่องราวร้องทุกข์ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) มาแล้ว เนื่องจากไม่พอใจในการทำงานของ กกต. ชุดดังกล่าว
Advertisement