วันที่ 5 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ซึ่งประกอบด้วยกองกำลังเคเอ็นดีโอ และกองกำลังปกป้องประชาชน(พีดีเอฟ) หรือกลุ่มต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมา กับทหารเมียนมาที่กองบังคับการยุทธวิธีที่1 ค่ายทีตาแหล่ บ้านทีตาแหล่อ วาเลย์ใหม่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ด้านตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ ม.3 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก
โดยฝ่ายกะเหรี่ยงพยายามที่จะเข้ายึดค่ายทีตาแหล่ด้วยการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนทิ้งระเบิดลงค่ายทหารเมียนมาเป็นช่วงๆ ขณะที่ฝ่ายเมียนมาได้ใช้อาวุธ ปืนค.120 ยิงสกัดฝ่ายกะเหรี่ยงไม่ให้เข้ามาประชิดค่าย แต่สถานการณ์ยังรุนแรงมากขึ้น
ล่าสุดกองทัพเมียนมาส่ง เครื่องบินY-12 บินทิ้งระเบิด จำนวน 8 ลูก 6 รอบ ซึ่งยังไม่ทราบการสูญเสียแต่อย่างใด ขณะที่การสู้รบดังกล่าวมีผู้ลี้ภัยจากการสู้รบจากฝั่งเมียนมาเข้ามาเขตไทย จำนวน 307 คน แบ่งเป็น ชาย 66 คน หญิง 113 คน เด็กชาย 68,และเด็กหญิง 60 คน โดยทางทหารฝ่ายปกครอง และตำรวจ สภ.พบพระจัดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวให้อาศัยอยู่ใน 2 พื้นที่
สำหรับการสู้รบหนักตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 68 จนถึงวันนี้ ( 5 ก.ค. 68) มีราษฎรชาวเมียนมาเสียชีวิต 2 คน ได้รับบาดเจ็บ 3 คน นำตัวเข้ามารักษาที่ฝั่งประเทศไทย
Advertisement