วันที่ 3 ก.ค. 68 เวลา13.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 เป็นประธานพิธีถวายพระพุทธปฏิมาณ วัดป่าอีสานเขียว ตำบลดู่ทุ่ง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ประกอบด้วยพระพุทธรูปปรางสมาธิเนื้อหยก ลายเมฆ ขนาดหน้าตัก 25 นิ้วสูง 95 เซนติเมตร หนัก 250 กิโลกรัม และพระพุทธรูปหินหยกสีชมพู สมัยเชียงแสนรุ่นสิงห์1 ขนาดหน้าตัก 20 นิ้ว ปรางสะดุ้งมารหนักประมาณ 450 กิโลกรัม โดยมีนายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ตลอดจนพุทธศาสนิกชน และประชาชนจังหวัดยโสธร และจังหวัดต่างๆที่ทราบข่าวร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
โดยก่อนเดินทางมาถึงได้เกิดเหตุการณ์ที่หลายคนเชื่อว่า เป็นความอัศจรรย์เพราะมีวัตถุคล้ายอัฐิธาตุ ตกลงมาบริเวณต่างๆของวัด โดยเฉพาะบริเวณรถที่เคลื่อนย้ายพระพุทธรูป มาจอดรอประกอบพิธี เนื่องจากการตกลงมามีจำนวนไม่มาก และคนที่ได้ส่วนใหญ่อัฐิธาตุ จะตกใส่ที่ตัว
และเมื่อแม่ทัพภาคที่2 เดินทางมาถึง ชาวบ้านที่มารอตั้งแต่เช้า ต่างเข้าขอผูกผ้าขาวม้าให้การต้อนรับ รวมถึงขอถ่ายภาพเพื่อเก็บความทรงจำดีๆพร้อมกล่าวขอบคุณ และฝากไปถึงทหารทุกนาย ที่ได้ช่วยปกป้องอธิปไตยของชาติ จากนั้นแม่ทัพภาคที่2 และคณะได้ร่วมกันเปิดผ้าคลุม องค์พระและอัญเชิญเข้าสู่ภายในศาลา เพื่อประดิษฐานบริเวณแท่นพิธี เจ้าหน้าที่โยงด้ายสายสิญจน์ เตรียมประกอบพิธีถวาย
แม่ทัพภาคที่2และคณะเข้าถวายมาลัยกราบสักการะพระพุทธรูป พระครูประสิทธิศีลคุณ เจ้าคณะจังหวัดยโสธร(ธรรมยุต) ประธานฝ่ายสงฆ์พระครูธรรมธรปุญญเดชอติธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าอีสานเขียว จากนั้นแม่ทัพภาคที่2 จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ทุกคนร่วมกันสมาทานศีลพระสงฆ์ให้ศีล แม่ทัพภาคที่2 นำกล่าวถวายพระพุทธรูป พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา
แม่ทัพภาคที่2 นำถวายปัจจัยไทยธรรมพระสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียคาถา และอนุโมทนา แม่ทัพภาคที่2กรวดน้ำรับพร ก่อนที่จะกราบลาพระรัตนตรัย กราบลาประธานสงฆ์ และเข้ารับมอบวัตถุมงคล จากพระครูธรรมธรปุญญเดชอติธัมโม เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ชายแดน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ และร่วมกันปล่อยพันธ์ปลาที่สระน้ำของวัดป่าอีสานเขียว ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังจังหวัดมหาสารคาม
พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 กล่าวว่า ขอให้พี่น้องทุกคนมั่นใจว่า ประเทศชาติเราปลอดภัยแน่นอน ไม่มีใครทำอะไรได้ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่มาในวันนี้ ซึ่งทราบว่าไกลสุดมาจากอยุธยา รวมถึงผู้ที่อยู่ทางบ้านที่ส่งกำลังใจมาให้น้องๆทหารเช่นเดียวกัน และยืนยันว่าจะนำวัตถุมงคลที่ได้รับจากทางคณะสงฆ์
รวมถึงที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณได้รับพระราชทานจากสถาบันพระมหากษัตริย์ไปมอบให้กำลังพลในพื้นที่ชายแดนทุกนาย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อไป และในโอกาสนี้ได้ฝากไปยังประชาชน ในเรื่องของการติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ ขอให้ตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ให้แน่ชัดก่อนที่จะเชื่อและทำอะไรลงไปเพราะปัจจุบันมีข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ง่าย รวมถึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนได้มาเที่ยวปราสาทที่อยู่ตามแนวชายแดน ที่นอกจากจะได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้กับพี่น้องประชาชนด้วย
Advertisement